กบฏฮูตีในเยเมน ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เมื่อวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) อ้างว่าพวกเขาโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯลำหนึ่งในทะเลแดง และประกาศกร้าวว่าจะเล็งเป้าเล่นงานบรรดาเรือพาณิชย์สัญชาติอเมริกา หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกรุงซานา ที่ทำให้พลเรือนเสียชีวิตหลายสิบราย แต่ทำเนียบขาวบอกว่าสามารถปลิดชีพพวกแกนนำระดับสูงของกลุ่มกบฏได้หลายคน
กระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตี บอกว่ามีเด็กและผู้หญิงหลายคนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) "ในการตอบโต้การรุกรานนี้ กองกำลังของเราได้ปฏิบัติการทางทหารเล็งเป้าหมายเล่นงานเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส แฮร์รี ทรูแมนของสหรัฐฯ และเรือกองอารักขา" ถ้อยแถลงของกลุ่มฮูตีระบุ
พวกฮูตีอ้างว่าพวกเขายิงขีปนาวุธ 18 ลูกและโดรนลำหนึ่งเข้าใส่เรือหลายลำของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นฝ่ายอเมริกายังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างดังกล่าว
การโจมตีของอเมริกาเมื่อเสาร์ (15 มี.ค.) ที่ถล่มกรุงซานา ดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏฮูตี เช่นเดียวกับเมืองซาดา เมืองอัล-บายดาและเมืองราดา ได้สังหารผู้คนไป 53 ราย และบาดเจ็บ 98 คน จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขของพวกฮูตีในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.)
"ยอดรวมสุดท้ายของการสังหารหมู่ที่ลงมือโดยศัตรูอเมริกา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม อยู่ที่ 53 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 5 คน และผู้หญิง 2 คน เช่นเดียวกับมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 98 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 9 ราย และผู้หญิง 9 คน"
ในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังคงประกาศกร้าวว่าจะโจมตีเพิ่มเติม จนกว่าพวกฮูตีจะหยุดโจมตีการเดินเรือในทะเลแดง ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นให้ทางสหประชาชาติเรียกร้อง 2 ทั้งฝ่าย หยุดความเคลื่อนไหวด้านการทหารทั้งหมด
ก่อนหน้าคำกล่าวอ้างโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน พวกกบฏฮูตีไม่ได้โจมตีในทะเลแดงและอ่าวเอเดนมาตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม ครั้งที่ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาเริ่มบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันอังคาร (11 มี.ค.) ฮูตีประกาศว่าพวกเขาจะกลับมาโจมตีเรือของอิสราเอลอีกรอบ ต่อกรณีที่อิสราเอลสกัดความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ป้อนเข้าสู่ฉนวนกาซา
ไมเคิล วอลท์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ บอกกับเอบีซีนิวส์ ว่าการโจมตีในวันเสาร์ (15 มี.ค.) "เล็งเป้าหมายไปที่พวกผู้นำฮูตีหลายคนและกำจัดพวกเขา เราแค่โจมตีพวกเขาด้วยกำลังที่เหนือกว่า และเป็นการส่งคำเตือนถึงอิหร่านว่า พอได้แล้ว"
พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ประกาศว่าจะเดินหน้ายุทธการปลดปล่อยขีปนาวุธอย่างไม่หยุดหย่อน จนกว่าพวกฮูตีจะหยุดโจมตี
"ผมอยากพูดให้ชัดเจนว่า ยุทธการนี้เกี่ยวกับเสรีภาพการล่องเรือและการคืนชีพการป้องปราม" เฮกเซธกล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์ "ทันทีที่ฮูตีบอกว่า เราจะหยุดโจมตีเรือของคุณ เราจะหยุดยิงใส่โดรนของพวกคุณ ยุทธการนี้ก็จะหยุดลง แต่จนกว่าจะถึงตอนนี้ มันจะเป็นไปอย่างไม่ลดละ"
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์ ประกาศ "ใช้กำลังถึงตายอย่างท่วมท้น" หยุดการโจมตีของพวกฮูตี ที่ทางกบฏกลุ่มนี้อ้างว่าเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ระหว่างสงครามกาซา ระหว่างนักรบฮามาส พันธมิตรของพวกเขา กับอิสราเอล
"ถึงพวก่อการร้ายฮูตีทุกคน เวลาของพวกแกหมดแล้ว และการโจมตีของพวกเขาต้องหยุดลง เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าไม่ ห่านรกจะร่วงใส่พวกแกอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน" ทรัมป์เขียน พร้อมระบุว่า "ถึงอิหร่าน ผู้สนับสนุนก่อการร้ายฮูตี ต้องหยุดในทันที"
กบฏฮูตี เข้ายึดกรุงซานา ในเดือนกันยายน 2014 บีบให้รัฐบาลหลบหนีไปทางใต้และปล่อยให้กบฏกลุ่มนี้ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมน
ต่อมาพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระบีย เริ่มยุทธการทางทหารเล่นงานพวกฮูตีในเดือนมีนาคม 2015 ที่ทาง Yemen Data Project ผู้ติดตามสงครามอิสระ บอกว่ามันเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศมากกว่า 25,000 เที่ยว
อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ประณามปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯในวันเสาร์ (15 มี.ค.) และบอกว่าวอชิงตันไม่มีอำนาจใดที่จะมากำหนดนโยบายต่างประเทศของเตหะราน
กบฏฮูตี ซึ่งควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนมานานกว่า 1 ทศวรรษ เป็นส่วนหนึ่งของ "อักษะฝ่ายต่อต้าน" กลุ่มฝักใฝ่อิหร่าน ที่ต่อต้านอิสราเอลและสหรัฐฯ
พวกเขาใช้โดรนและขีปนาวุธโจมตีเรือต่างๆ ที่แล่นผ่านเยเมน ในทะเลแดงและอ่าวเอเดน ระหว่างสงครามกาซา อ้างว่าเพื่อแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ ยุทธการดังกล่าวก่อความเสียหายแก่เส้นทางการเดินเรือสำคัญ ซึ่งเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วน 12% ของโลก บีบให้บริษัทมากมายต้องอ้อมไปแถวๆ แหลมทางใต้ของแอฟริกา ซึ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
พวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ซึ่งยกย่องแรงสนับสนุนของฮูตี ตราหน้าการโจมตีของสหรัฐฯ ว่า "ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง และถือเป็นการจู่โจมอธิปไตยและเสถียรภาพของประเทศ" ส่วนนายพลฮัสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน ประกาศกร้าวว่า "อิหร่านจะไม่ทำสงคราม แต่ถ้าใครก็ตามข่มขู่คุกคาม เราจะตอบโต้อย่างทัดเทียม หนักแน่นและไปจนถึงจุดจบ"
(ที่มา : เอเอฟพี)