xs
xsm
sm
md
lg

‘สงครามยูเครน’พิสูจน์คุณภาพของ‘กองทัพรัสเซีย’ ในการปรับตัวรับมือและฟื้นตัวขึ้นใหม่ภายหลังวิกฤต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อเล็กซานเดอร์ ฮิลล์


ทหารรัสเซียเตรียมยิงปืนใหญ่อัตตาจร 2เอส7เอ็ม มัลคา (2S7M Malka) ณ สถานที่ซึ่งไม่มีการเปิดเผย ในภาพที่ถ่ายจากวิดีโอซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2024
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

Why Russia’s military has been so resilient
by Alexander Hill
13/03/2025

ความหยุ่นตัวทางทหารของรัสเซีย มีความหมายอย่างไรต่อการเจรจาหยุดยิงที่กำลังทำท่าเลื่อนช้าออกไป รวมทั้งต่อการยุติสงครามยูเครน

ยูเครนตกลงเห็นพ้องกับข้อเสนอของสหรัฐฯเรื่องให้มีการหยุดยิงเป็นเวลา 30 วัน [1] ในสงครามที่พวกเขาทำกับรัสเซีย ภายหลังการพูดจากับพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯในซาอุดีอาระเบียแล้ว

ข้อเสนอดังกล่าวนี้มาพร้อมๆ กับคำมั่นสัญญาของวอชิงตันที่จะฟื้นคืนการแบ่งปันข่าวกรองของสหรัฐฯและการจัดส่งความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯไปให้แก่ยูเครนอีกครั้ง หลังจากทั้งสองอย่างนี้ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับเอาไว้เมื่อเร็วๆ นี้ [2]

สำหรับทางมอสโกนั้น พวกเจ้าหน้าที่รัสเซียบอกว่าพวกเขากำลังรอคอยรายละเอียดเพิ่มเติม [3] ก่อนตัดสินใจว่าจะยอมรับข้อเสนอหยุดยิงนี้หรือไม่ ทว่ามันไม่น่าเป็นไปได้หรอกที่รัสเซียยินยอมให้มีการหยุดยิง โดยที่ไม่ได้มีบางสิ่งบางอย่างเป็นรูปธรรมวางแบอยู่บนโต๊ะในลักษณะที่ทำให้พวกเขาพึงพอใจเสียก่อน

ทุกวันนี้ แทบไม่มีนักวิเคราะห์คนไหนอีกแล้วที่จะเสนอเหตุผลสนับสนุนว่ายูเครนกำลังจะเป็นฝ่ายชนะสงครามคราวนี้ รัสเซียนั้นกลายเป็นผู้ถือไพ่เหนือกว่าในทางทหารอย่างชัดเจน ถึงแม้ยังไม่ได้แปรเปลี่ยนให้กลายเป็นความสำเร็จในสมรภูมิอย่างน่าตื่นตาตื่นใจก็ตามที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยคุกคามที่ว่าที่มั่นซึ่งฝ่ายยูเครนพยายามปักธงเอาไว้ในแคว้นคูร์สก์กำลังพังครืนลงมานั้น [4] เวลานี้กำลังกลายเป็นเรื่องจริงเอามากๆ แล้ว

ตั้งแต่ที่การรุกตอบโต้ของฝ่ายยูเครนในช่วงฤดูร้อนปี 2023 [5]ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของพวกเขากลับดีขึ้นมา กองทหารรัสเซียก็ได้รุกคืบหน้าอย่างช้าๆ ในภูมิภาคดอนบาส (Donbas นั่นคือ แคว้นโดเนตสก์ และแคว้นลูฮันสก์) ทางภาคตะวันออกของยูเครน การเดินหน้าของฝ่ายรัสเซียในดอนบาสนี้มีการเร่งตัวทวีความรวดเร็วขึ้นในระยะไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา [6] ทว่ายังคงเป็นไปอย่างช้าๆ อยู่ดี โดยที่ทั้งสองฝ่ายต่างประสบความสูญเสียอย่างหนักหน่วง

ในหมู่ฝ่ายตะวันตกที่เป็นผู้สนับสนุนยูเครนนั้น เจตนารมรณ์ทางการเมืองที่จะดำเนินสงครามต่อไปดูเหมือนกำลังเจือจางหดหายลงไปทุกที ทรัมป์นั้นเสนอเหตุผลโต้แย้ง [7] ว่า มันถึงเวลาแล้วที่ยูเครนจะต้องยอมตัดขาดทุนและเปิดการเจรจาต่อรองเพื่อที่จะยุติสงครามคราวนี้ [8] ข้อตกลงที่จะออกมามีความเป็นไปได้อย่างมากที่ลงท้ายแล้วต้องหมายถึงการยอมรับให้คาบสมุทรไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย อีกทั้งต้องมีการยอมรับในบางระดับถึงความเป็นจริงที่ฝ่ายรัสเซียเป็นผู้ควบคุมเหนือดินแดนจำนวนมากในดอนบาส

ในฝ่ายตะวันตกนั้น ที่ผ่านมามีการอภิปรายถกเถียงกันมากมายในเรื่องความหยุ่นตัว (resilience หรือก็คือความสามารถในการปรับตัวและความสามารถในการฟื้นตัวภายหลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตร้ายแรงต่างๆ) ของฝ่ายยูเครน [9]ในสงครามคราวนี้ อย่างไรก็ดี มีน้อยเหลือเกินที่เขียนถึงความหยุ่นตัวของฝ่ายรัสเซีย –ไม่ว่าจะเป็นความหยุ่นตัวในสมรภูมิ หรือในสังคมรัสเซียวงกว้าง

ในหนังสือเรื่อง Routledge Handbook of Soviet and Russian Military Studies (หนังสือชุดคู่มือของสำนักพิมพ์รูตเลดจ์ว่าด้วยการศึกษาด้านการทหารของโซเวียตและรัสเซีย) [10] ที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ บรรดาผู้ร่วมงานของผมและตัวผมเอง ได้สำรวจตรวจตราว่า กองทัพโซเวียตและรัสเซียได้มีการพัฒนาไปอย่างไรในระยะเวลาตั้งแต่ช่วงสงครามนโปเลียนของคริสต์ศตวรรษที่ 19 มาจนถึงสงครามในยูเครนเวลานี้

ข้อได้เปรียบของฝ่ายรัสเซีย

รัสเซียนั้นมีข้อได้เปรียบสำคัญในสมรภูมิเหนือกว่ายูเครนอยู่หลายๆ ประการ รัสเซียมีประชากรจำนวนมากกว่ายูเครนกว่า 3 เท่าตัว [11] และความพยายามในการดำเนินสงครามของแดนหมีขาวก็กำลังได้รับการประคับประคองจากความสนับสนุนอันแข็งแรงในสังคมรัสเซียอีกด้วย

ตั้งแต่ระยะค่อนข้างต้นๆ เลยของสงครามคราวนี้ ข้อมูลผลการสำรวจความคิดเห็นของคนรัสเซียก็บ่งชี้ให้เห็นว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้รับความสนับสนุนจากประชากรรัสเซียส่วนข้างมากอย่างชัดเจน [12] แรงสนับสนุนดังกล่าวนี้แน่นอนทีเดียว ตัวช่วยสำคัญตัวหนึ่งคือข้อเท็จจริงที่ว่าประชากรจำนวนมากของรัสเซียถูกกันให้ห่างออกมาจากประสบการณ์ความสูญเสียอย่างเต็มที่ทั้งทางเศรษฐกิจและทางชีวิตมนุษย์ของสงครามครั้งนี้ [13]

เศรษฐกิจรัสเซียแสดงบทบาทอย่างใหญ่โตทีเดียวในการประคับประคองความพยายามเพื่อทำสงครามของรัสเซียเอาไว้ ถึงแม้เจอกับการแซงก์ชั่นอย่างดุเดือดของฝ่ายตะวันตกและอัตราเงินเฟ้อที่สูงลิ่ว แต่ทิศทางอนาคตของเศรษฐกิจแดนหมีขาวก็ยังคงค่อนข้างเข้มแข็ง

ตามตัวเลขข้อมูลของสำนักงานบริการสถิติภาครัฐแห่งสหพันธรัฐ ของรัสเซีย (Russia’s Federal State Statistics Service) อัตราเติบโตของจีดีพีได้รับการรายงานว่าอยู่ที่ระดับ 4.1% ในปี 2024 [14] ถึงแม้เป็นเพราะได้รับการหล่อเลี้ยงจากการใช้จ่ายทางทหารในขนาดขอบเขตที่ใหญ่โตมหึมาทีเดียว

นอกเหนือจากอัตราเงินเฟ้อแล้ว พวกเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจสำคัญตัวอื่นๆ ส่วนใหญ่ต่างออกมาเป็นบวก อัตราการว่างงานลงไปถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับยุคหลังโซเวียต ในตอนกลางๆ ปี 2024 แล้วหลังจากนั้นยังลงไปอีก [15]จนอยู่ที่ราวๆ 2%

เวลาเดียวกันนั้นเอง ยูเครนต้องต่อสู้ดิ้นรนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อประคับประคองความแข็งแรงของกองทัพของตนเอาไว้ [16] เมื่อเปรียบเทียบกับระยะแรกๆ ของสงครามแล้ว ประเทศนี้กำลังจำเป็นต้องระดมเกณฑ์ผู้ที่อยู่ในระดับคุณภาพด้อยลงมาและเต็มอกเต็มใจน้อยลงมากเข้ามาเป็นทหาร นอกจากนั้นยังกำลังพยายามดึงดูดพวกที่อยู่ในวัยต่ำกว่าระดับอายุต้องถูกเกณฑ์ทหารนั่นคือ 25 ปี [17] ให้ยินยอมเป็นอาสามัครเข้าสู่กองทัพ โดยใช้มาตรการทางการเงินต่างๆ มาจูงใจ

ขณะที่ยูเครนต้องพึ่งพาทหารเกณฑ์เสียเป็นส่วนใหญ่ [18] รัสเซียกลับกำลังอาศัยอาสาสมัครมากขึ้นเรื่อยๆ ในการระดมพลเข้ากองทัพ ทั้งนี้การเสียชีวิตหรือการได้รับบาดเจ็บของอาสาสมัครย่อมก่อให้เกิดผลกระทบทางลบในเชิงขวัญกำลังใจในวงกว้าง น้อยกว่านักหนาเมื่อเทียบกับการดับชีพของทหารเกณฑ์

รัสเซียดูเหมือนยังคงมีอาสาสมัครจำนวนมากเพียงพอสำหรับการสู้รบในสงครามที่ยูเครน จนกระทั่งพวกเขาไม่ต้องใช้กำลังพลจากการเกณฑ์ทหารประจำปีมาใช้ตอบสนองวัตถุประสงค์นี้ด้วยซ้ำ [19] ทั้งนี้รัสเซียมีการเกณฑ์ทหารกันเป็นประจำทุกปีโดยไม่คำนึงว่าในตอนนั้นกำลังมีสงครามที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องอยู่หรือไม่ โดยที่ทหารอาสาสมัครนั้นได้รับข้อเสนอจูงใจในรูปของเงินเดือนสูงและผลประโยชน์ตอบแทนสำคัญๆ สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ [20]

กลับมาเน้นจุดแข็งเดิมๆ ของตัวเอง

รัสเซียเริ่มต้นสงครามในยูเครนครั้งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ด้วยการใช้กำลังอาวุธในขนาดที่ไม่เหมาะสมและไม่เพียงพอเลย เมื่อพิจารณาจากวัตถุประสงค์ทางการทหารซึ่งไม่ได้สอดคล้องกับความเป็นจริงของพวกเขา [21] แผนการขั้นต้นของพวกเขาที่จะบุกเข้ายึดกรุงเคียฟนั้น เป็นวัตถุประสงค์ที่ทะเยอทะยานเกินไปอย่างชัดเจนสำหรับกองกำลังที่ได้รับมอบหมายภารกิจ

อย่างไรก็ดี หลังจากการรุกตอบโต้ที่ประสบความล้มเหลวของฝ่ายยูเครนในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2022 แล้ว ไม่เพียงแต่รัสเซียทุ่มเททรัพยากรต่าง ๆด้วยความเหมาะสมพอเพียงมากขึ้นสำหรับสงครามครั้งนี้เท่านั้น แต่ยังกำหนดจุดมุ่งหมายทางยุทธการให้แก่กองกำลังของฝ่ายตน ซึ่งเหมาะสมสอดคล้องกับสมรรถนะของพวกเขาอีกด้วย

ภายหลังที่ล้มเหลวไม่สามารถเข้ายึดเป้าหมายหลักๆ ใกล้กรุงเคียฟได้อย่างรวดเร็วเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการต้านทานอย่างเหนียวแน่น กองทัพรัสเซียก็ได้ปรับเปลี่ยนหันกลับมาใช้แบบแผนวิธีการซึ่งได้รับการพิจารณาว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งแต่ไหนแต่ไรมาของพวกเขาให้มากขึ้น [22] และลดทอนพวกจุดอ่อนในการร่วมมือประสานงานกันภายในสภาพแวดล้อมที่มีความเคลื่อนไหวอย่างไหลรื่นมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ จุดแข็งแต่ไหนแต่ไรมาประการหนึ่งของกองทัพรัสเซียนั้นอยู่ที่พวกอาวุธยิงไกล [23] (artillery เช่น ปืนใหญ่, ปืนครก, ระบบจรวดหลายลำกล้อง)

กองทัพรัสเซียนั้นมีประวัติความเป็นมาที่เน้นหนักให้ความสำคัญกับคุณค่าของการสร้างที่มั่นตั้งรับที่แข็งแกร่ง—ตลอดจนการเจาะทำลายที่มั่นตั้งรับประเภทนี้

จุดแข็งเหล่านี้ปรากฏให้เห็นไม่เพียงแค่ในการต้านทานอย่างตรงไปตรงมากับการรุกตอบโต้ใหญ่ของฝ่ายยูเครนในฤดูร้อนของปี 2023 เท่านั้น แต่ยังในการร่วมมือประสานงานกันที่ติดตามมา ของพวกหน่วยแยกทหารราบเคลื่อนที่เร็ว (infantry storm detachments) ขนาดเล็กๆ ซึ่งใช้โดรนเป็นอาวุธสำคัญ จนประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้งในการเข้ายึดบรรดาที่มั่นตั้งรับของฝ่ายยูเครน

แต่ขณะที่กองทัพรัสเซียจวบจนถึงเวลานี้ ยังคงถือว่าเป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างทื่อๆ ตรงไปตรงมา ทว่ามันก็ไม่ได้ทื่อมะลื่อเหมือนอย่างที่มันเคยเป็นในช่วงปลายปี 2022 และต้นปี 2023 อีกต่อไปแล้ว

แบบแผนวิธีการซึ่งพลิกแพลงมากขึ้นกว่าเดิมเช่นนี้ แน่นอนว่าดูเป็นคนละอย่างชัดเจนทีเดียว ทั้งเมื่อเปรียบเทียบกับการรุกอย่างแทบไม่มีความระมัดระวังอะไรเอาเลยของกองทัพรัสเซียในระยะเริ่มต้นมากๆ ของสงคราม ซึ่งพวกเขาพยายามบุกเข้าไปยึดที่มั่นต่างๆ รอบๆ กรุงเคียฟ และทั้งเมื่อเปรียบเทียบการพล่าผลาญชีวิตอย่างชนิดเหมือนไม่กลัวสิ้นเปลืองของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ (Wagner Group) เมื่อตอนต้นปี 2023

พวกแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือในเวลานี้ ไม่ได้มีการเสนอแนะว่าทหารรัสเซียยังคงมีการสูญเสียอย่างหนักหน่วงชนิดที่เคยเกิดขึ้นกับกองกำลังกลุ่มวากเนอร์ในตอนที่กำลังบุกเข้ายึดเมืองบัคมุต (Bakhmut) เมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2023 [24] อีกต่อไปแล้ว

ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพรัสเซียยังกำลังนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ขณะที่สงครามพัฒนาก้าวหน้าไป กองทัพโซเวียตและกองทัพรัสเซียนั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนานทีเดียวในเรื่องการต้อนรับเทคโนโลยีใหม่ๆ [25] ขณะที่มีบางช่วงบางเวลาดูเหมือนพวกเขาเชื่องช้าเกินไปแล้วในเรื่องนี้ แต่เมื่อพวกเขายอมรับขึ้นมา พวกเขาก็จะนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้กันอย่างมโหฬารและด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง

ระหว่างระยะแรกๆ ของสงครามคราวนี้ ยูเครนมีความได้เปรียบในเรื่องการใช้โดรน อย่างไรก็ดี เมื่อสงครามพัฒนาก้าวหน้าไป รัสเซียก็เช่นเดียวกัน มีการใช้โดรนอย่างทรงประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ [26] กรณีเมื่อเร็วๆ นี้ที่รัสเซียใช้โดรนตรวจการณ์ จนกระทั่งสามารถยิงขีปนาวุธอิสคานเดอร์-เอ็ม (Iskander-M) [27] เข้าโจมตีพวกทหารยูเครนซึ่งไปรวมพลกันอยู่ในหมู่บ้านเชร์คัสเค (Cherkaske) ใกล้ๆ กับเมืองเอกของแคว้นดนิโปร (Dnipro) คือตัวอย่างหนึ่งของเรื่องนี้

พล.อ.วาเลรี เก-ราซิมอฟ (Gen. Valery Gerasimov) ประธานคณะเสนาธิการทหารของรัสเซีย (ขวา) ดูอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตั้งโชว์ ระหว่างการตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแห่งหนึ่งในสถานที่ซึ่งไม่มีการเปิดเผยในยูเครน (ภาพถ่ายจากวิดีโอที่ถูกนำออกเผยแพร่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2025 โดยสำนักงานบริการสื่อมวลชนของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
การเจรจาจะนำไปสู่อะไร

ข้อตกลงใดๆ ก็ตามกับรัสเซียเกี่ยวกับยูเครนในอนาคตอันใกล้นี้ ที่จะมีผลยั่งยืนขึ้นมาได้นั้น น่าที่จะต้องมีเนื้อหาซึ่งถือเป็นความเลวร้ายสำหรับยูเครน อย่างน้อยก็น่าจะสาหัสยิ่งเสียกว่าดีลที่มอสโกกับเคียฟได้มีการเจรจาต่อรองกันไว้ (ที่อิสตันบุล ประเทศตุรกี) ก่อนจะล้มครืนลงเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2022 [28] ทั้งนี้ไม่ว่าเมื่อพิจารณาจากทัศนะมุมมองของใครก็ตามทีเกี่ยวกับการสู้รบขัดแย้งครั้งนี้ สถานการณ์อย่างที่กล่าวมานี้ก็ดูจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เมื่อพิจารณาจากความเป็นจริงในสมรภูมิ

อย่างไรก็ดี การหวนกลับมาเจรจากันใหม่อีกครั้งเช่นนี้ อาจทำให้มีโอกาสสูงมากขึ้นที่จะก่อให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืนขึ้นมาได้ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อพิจารณาจากการที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีการสูญเสียอย่างหนักหน่วงแล้ว ทั้งรัสเซียและยูเครนน่าที่จะลงทุนอย่างหนักทีเดียวในการเสาะแสวงหาทางให้ได้ข้อตกลงที่ยืนยาวถาวรขึ้นมา

ถ้าหากจะให้ได้ข้อตกลงที่มีความหวังจะอยู่ไปได้ยาวๆ แล้ว มันก็จะต้องไม่เพียงหล่อเลี้ยงฟูมฟักความมั่นคงปลอดภัยของฝ่ายยูเครนเท่านั้น แต่ยังต้องเข้ากันได้กับพวกข้อเรียกร้องเพื่อสันติภาพของฝ่ายรัสเซียซึ่งผ่านการปรับปรุงแก้ไขใหม่แล้ว อย่างที่พวกเขานำเสนอออกมาเมื่อช่วงกลางปี 2024 [29] ทั้งนี้ รัสเซียได้ประกาศเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับให้มีกองทหารของนาโต้ในยูเครน [30] เนื่องจากพวกเขาระบุอยู่แล้วว่าเหตุผลเบื้องหลังส่วนหนึ่งของการที่พวกเขาทำสงครามครั้งนี้ ก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้นี้แหละ

อเล็กซานเดอร์ ฮิลล์ เป็นศาสตราจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์การทหาร อยู่ที่มหาวิทยาลัยแคลกะรี รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา

ข้อเขียนนี้มาจากเว็บไซต์ เดอะ คอนเวอร์เซชั่น https://theconversation.com/ โดยสามารถติดตามอ่านข้อเขียนดั้งเดิมชิ้นนี้ได้ที่ https://theconversation.com/why-russias-armed-forces-have-proven-resilient-in-the-war-in-ukraine-251588

เชิงอรรถ
[1]https://www.theguardian.com/world/2025/mar/11/ukraine-agrees-to-30-day-ceasefire-as-us-prepares-to-lift-military-aid-restrictions
[2] https://www.aljazeera.com/news/2025/3/6/how-will-us-pause-on-intelligence-sharing-affect-ukraine
[3] https://www.reuters.com/world/europe/russian-lawmaker-says-any-ukraine-deal-will-be-moscows-terms-not-washingtons-2025-03-12/
[4]https://novayagazeta.eu/articles/2025/03/11/encirclement-or-retreat-en
[5] https://doi.org/10.4324/9781003354635-37
[6] https://www.pbs.org/newshour/world/as-trump-talks-of-ending-war-ukraine-losing-ground-to-russia
[7] https://apnews.com/article/trump-zelenskyy-ukraine-russia-war-7d18400b935166773bbd3b3323c8aa5f
[8] https://canadiandimension.com/articles/view/inching-closer-to-an-uneasy-peace-in-ukraine
[9] https://www.zois-berlin.de/en/publications/zois-spotlight/the-puzzle-of-ukrainian-resilience-hidden-factors-and-potential-risks
[10] https://doi.org/10.4324/9781003354635
[11] https://www.aljazeera.com/news/2024/10/22/ukraine-population-has-plummeted-by-10-million-since-russias-invasion-un
[12] https://theconversation.com/why-russians-still-support-vladimir-putin-and-the-war-in-ukraine-219484
[13] https://www.aljazeera.com/program/the-listening-post/2022/6/4/russia-vs-ukraine-the-fog-of-propaganda-and-disinformation
[14] https://interfax.com/newsroom/top-stories/109666/
[15] https://www.economy.com/russian-federation/unemployment-rate
[16]https://www.theguardian.com/world/2024/dec/21/ukraine-faces-difficult-decisions-over-acute-shortage-of-frontline-troops
[17] https://apnews.com/article/russia-ukraine-war-conscription-age-benefits-bc9a9003303af7aa13f47266c817034f
[18] https://foreignpolicy.com/2024/10/28/conscription-ukraine-military-men-russia-war/
[19] https://www.reuters.com/world/europe/russias-putin-signs-decree-spring-military-conscription-2024-03-31/
[20] https://www.reuters.com/world/europe/putin-doubles-signing-bonuses-volunteers-fight-ukraine-2024-07-31/
[21] https://doi.org/10.4324/9781003354635-36
[22] https://doi.org/10.4324/9781003354635-41
[23] https://theconversation.com/russia-is-now-reliant-on-heavy-artillery-stalins-god-of-war-in-ukraine-179356
[24] https://en.zona.media/article/2024/06/10/wagner-trl
[25] https://doi.org/10.4324/9781003354635-41
[26] https://doi.org/10.4324/9781003354635-37
[27] https://kyivindependent.com/russia-strikes-training-ground-during-formation-resulting-in-mass-casualties-ukraines-military-says/
[28] https://theconversation.com/why-ukraine-and-nato-shouldnt-rush-to-dismiss-vladimir-putins-latest-peace-terms-178723
[29] https://www.aljazeera.com/news/2024/10/4/russia-ukraine-war-all-the-proposed-peace-plans-explained
[30] https://www.aljazeera.com/news/2025/2/25/russia-reaffirms-opposition-to-european-troops-in-ukraine
กำลังโหลดความคิดเห็น