ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับ มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) ว่าการเข้าควบคุมเกาะกรีนแลนด์ของสหรัฐฯ เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเสริมความเข้มแข็งความมั่นคงระหว่างประเทศ ยกระดับยุทธการของเขาในการหมายมั่นปั่นมือผนวกเกาะยุทธศาสตร์ในแถบอาร์กติกแห่งนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกา
"คุณรู้ไหม มาร์ค เราต้องการสิ่งนั้นเพื่อความมั่นคงระหว่างประเทศ ไม่ใช่แค่ความมั่นคงของเรา แต่เป็นความมั่นคงระหว่างประเทศ เรามีผู้เล่นผู้แข่งขันของเรามากมายกำลังล่องอยู่แถวชายฝั่ง และเราจำเป็นต้องระแวดระวัง" ทรัมป์บอกกับ รุตต์ ระหว่างนั่งหารือข้างๆ กันในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว "เราจะพูดคุยกับคุณ"
เมื่อถูกถามตรงๆ เกี่ยวกับแนวโน้มของการผนวกกรีนแลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ทรัมป์ตอบว่า "ผมคิดว่ามันจะเกิดขึ้น"
ทรัมป์ ทำให้การผนวกกรีนแลนด์เข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม และความเห็นของเขาในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) บ่งชี้ว่าเขาอาจอยากเห็นนาโตมีส่วนเกี่ยวข้องในความพยายามของเขาที่จะเข้าควบคุมเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก
ความเห็นล่าสุดของทรัมป์เรียกเสียงปฏิเสธอย่างทันทีทันใดจากนายกรัฐมนตรีที่กำลังพ้นจากตำแหน่งของกรีนแลนด์ "เป็นอีกครั้งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หยิบยกความคิดผนวกเราขึ้นมาพูด" มูเต เอเกเด โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก "พอได้แล้ว"
เยนส์ เฟรเดริค นีลเซน หัวหน้าพรรค Demokraatit พรรคโปรธุรกิจ ซึ่งชนะศึกเลือกตั้งทั่วไปของกรีนแลนด์เมื่อวันอังคาร (11 มี.ค.) ก็ปฏิเสธความเห็นของทรัมป์เช่นกัน "ถ้อยแถลงของทรัมป์จากสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมและเป็นการแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า เราจำเป็นต้องยืนหยัดร่วมกันในสถานการณ์เช่นนี้" เขาเขียนบนเฟซบุ๊ก
ผลโพลต่างๆ พบว่าชาวกรีนแลนด์เกือบทั้งหมดคัดค้านการเข้าร่วมสหรัฐฯ แต่เสียงส่วนใหญ่บอกว่าท้ายที่สุดแล้วพวกเขาอยากได้เอกราชจากเดนมาร์ก
แม้กระทั่งก่อนเริ่มวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ทรัมป์เคยแสดงความหวังว่าจะดึงเกาะกรีนแลนด์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ แม้ เดนมาร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโตของอเมริกา ยืนกรานว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
ตำแหน่งยุทธศาสตร์และความมั่งคั่งทางทรัพยากรแร่ของเกาะกรีนแลนด์ จะเป็นประโยชน์สำหรับสหรัฐฯ ทั้งนี้เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในเส้นทางที่สั้นที่สุดในการเดินทางจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือ และสำคัญยิ่งสำหรับระบบเตือนภัยขีปนาวุธของอเมริกา
นอกเหนือจากเกาะกรีนแลนด์แล้ว ทรัมป์ยังก่อความเดือดดาลแก่ชาวแคนาดา ด้วยการเสนอให้ประเทศแห่งนี้เข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็ยังเรียกร้องให้อเมริกางัดข้ออิทธิพลมากขึ้นเหนือคลองปานามา
รุตต์ บอกกับ ทรัมป์ ว่าเขาจะปล่อยให้ประเด็นคำถามเกี่ยวกับอนาคตของเกาะกรีนแลนด์ เป็นเรื่องของฝ่ายอื่นๆ "ผมไม่ต้องการลากนาโตเข้าสู่ประเด็นโต้เถียง" พร้อมระบุมันควรเป็นหัวข้อสำหรับประเทศต่างๆ ในแถบขั้วโลกเหนือ สืบเนื่องจากจีนและรัสเซียใช้เส้นทางทางน้ำในพื้นที่แถบนี้เช่นกัน
ทรัมป์ เน้นย้ำว่าด้วยที่เดนมาร์กปฏิเสธพูดคุยในประเด็นนี้ เขาจึงอาจส่งทหารสหรัฐฯ เพิ่มเติมเข้าไปเสริมกำลังตามฐานทัพต่างๆ ของอเมริกาที่อยู่บนเกาะกรีนแลนด์ "เรากำลังเจรจาต่อรองกับเดนมาร์ก เรากำลังต่อรองกับกรีนแลนด์ เราจำเป็นต้องทำมัน เราต้องการมันจริงๆ เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ ผมคิดว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมนาโตถึงจำเป็นต้องเข้าร่วมไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง เพราะว่าเราต้องการกรีนแลนด์จริงๆ เพื่อความมั่นคงแห่งชาติ มันสำคัญเป็นอย่างมาก" ผู้นำอเมริการะบุ
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ยังหาทางบ่อนทำลายคำกล่าวอ้างของเดนมาร์กเหนือเกาะแห่งนี้ "คุณก็รู้ เดนมาร์กนั้นอยู่ห่างไกลมากๆ และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลยจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เรือลำหนึ่งขึ้นฝั่งเมื่อราว 200 ปีก่อน หรืออะไรแบบนั้น? และพวกเขาบอกว่าพวกเขามีสิทธิเหนือมัน ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผมไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น"
(ที่มา : รอยเตอร์)