เอเจนซีส์ - หุ้นสหรัฐฯ ตก เงินบิตคอยน์สะเทือน และวอลล์สตรีทตระหนกหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ปัดความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะเผชิญหน้ากับเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้
CNN ของสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (10 มี.ค.) ว่า ความวิตกว่านโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดการเทขายหุ้นออกเป็นวงกว้างในวันจันทร์ (10)
พบว่าดัชนีใหญ่ 3 แห่งเปิดตลาดมาด้วยตัวแดง หุ้นสหรัฐฯ รูดลงตลอดทั้งวันถึงแม้ว่าจะสามารถไต่ขึ้นมาได้ในช่วงสั้นๆ ของตอนบ่ายแต่ยังคงปิดด้วยตัวแดง
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดต่ำกว่าอยู่ที่ 890 จุด หรือ 2.08% ดึงกลับมาได้จากการตกไปกว่า 1,100 จุดในช่วงเวลาหนึ่ง
ส่วน S&P 500 ตกลงเช่นกัน เป็นการตกไปที่ 2.7% ส่วนดัชนี Nasdaq Composite ที่ส่วนใหญ่เน้นด้านอุตสาหกรรมไฮเทคตกสูงสุดไปถึง 4%
CNN ของสหรัฐฯ ชี้ว่า ทั้งดาวโจนส์และ S&P 500 ต่างปิดในวันที่เลวร้ายที่สุดของปี ส่วน Nasdaq Composite กลายเป็นวันที่ปิดต่ำสุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่กันยายนปี 2022 ร่วงลงรุนแรงที่สุดในบรรดาดัชนีหลัก
การเทขายออกเป็นวงกว้างเกิดมาจากความวิตกของบรรดานักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
ซึ่งในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศทางโทรทัศน์วันอาทิตย์ (9) ของผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า “เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเห็นระยะเวลาของการเปลี่ยนผ่าน” พร้อมกันนี้ทรัมป์ไม่ยอมปัดความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย (recession)
โดยเมื่อโดนถามจากนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ว่า เขาคาดการณ์จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้หรือไม่ ทรัมป์ตอบกลับมาว่า
“ผมเกลียดที่ต้องคาดการณ์อะไรพวกนี้ มันจะมีระยะเวลาเปลี่ยนผ่านเพราะพวกเรากำลังจะทำในสิ่งที่ใหญ่เอามากๆ”