มาร์ก คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดา ชนะศึกเลือกตั้งภายในพรรคลิเบอรัลตามผลที่ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ (9 มี.ค.) และเตรียมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนใหม่แทนที่ จัสติน ทรูโด
คาร์นีย์ จะเข้ามากุมบังเหียนแคนาดาในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งจะต้องเตรียมตัวสำหรับศึกเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้
คาร์นีย์ วัย 59 ปี ได้รับคะแนนโหวตสูงถึง 86% เอาชนะอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง คริสเทีย ฟรีแลนด์ ในการเลือกตั้งที่มีสมาชิกพรรคเกือบ 152,000 คนร่วมลงคะแนน
“มีใครบางคนกำลังพยายามทำลายเศรษฐกิจเราให้อ่อนแอ” คาร์นีย์ เอ่ยถึง ทรัมป์ ท่ามกลางเสียงโห่ดังสนั่นในที่ประชุมพรรค “เขากำลังโจมตีคนทำงาน ครอบครัว และภาคธุรกิจของแคนาดา และเราจะไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จ”
คาร์นีย์ ย้ำว่า “ทุกอย่างจะไม่ดำเนินไปอย่างที่เคยเป็น... เราจะต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่เราเองก็คาดไม่ถึงมาก่อน และด้วยความรวดเร็วอย่างที่เราไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้”
ทรูโด ประกาศเมื่อเดือน ม.ค. ว่าจะสละตำแหน่งผู้นำแคนาดาหลังครองอำนาจมานานกว่า 9 ปี เนื่องจากคะแนนนิยมเสื่อมถอยลงอย่างมากและทำพรรคลิเบอรัลตัดสินใจจัดการโหวตเลือกผู้นำพรรคคนใหม่
คาร์นีย์ ซึ่งถือเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ยืนยันว่า ตนเองคือตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะพลิกฟื้นคะแนนนิยมของพรรคลิเบอรัลและเข้ามากำกับดูแลการเจรจาการค้ากับ ทรัมป์ ซึ่งขู่จะรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาจนอาจกระทบต่อเศรษฐกิจแดนเมเปิลที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
รัฐบาล ทรูโด ได้ประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สินค้าอเมริกันมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ คาร์นีย์ ยืนยันว่า “รัฐบาลของผมจะคงมาตรการรีดภาษีต่อไป จนกว่าชาวอเมริกันจะให้ความเคารพต่อเรา”
ชัยชนะของ คาร์นีย์ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่แคนาดาได้นายกฯ “คนนอก” ที่แทบไม่เคยผ่านประสบการณ์เล่นการเมืองมาก่อน
อย่างไรก็ตาม คาร์นีย์ ยืนยันว่าการที่ตนเคยเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางของชาติ G7 ถึง 2 ประเทศ ได้แก่ แคนาดาและอังกฤษ ทำให้ตนเป็นแคนดิเดตที่เหมาะที่สุดที่จะดีลกับคนอย่างทรัมป์
ความท้าทายจากมาตรการรีดภาษีของทรัมป์ รวมถึงคำขู่ยึดแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ทำให้โอกาสพลิกฟื้นคะแนนนิยมของพรรคลิเบอรัลภายใต้ คาร์นีย์ เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักพบว่าพรรคลิเบอรัลมีคะแนนนิยมตามหลังพรรคฝ่ายค้านคอนเซอร์เวทีฟของ ปิแอร์ ปัวลิแยฟร์ อยู่ราวๆ 20 จุด หรือมากกว่า ทว่าจากโพลล่าสุดพบว่า ทั้งพรรคลิเบอรัลและคอนเซอร์เวทีฟน่าจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้ทั้งคู่
แคนาดามีกำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้ แต่แหล่งข่าวในพรรคลิเบอรัล 2 คนระบุว่า คาร์นีย์ อาจจะประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในอีก “ไม่กี่สัปดาห์” ข้างหน้า
คาร์นีย์ เคยเป็นผู้บริหารธนาคารโกลด์แมนแซคส์มานาน 13 ปี ก่อนจะได้รับเลือกเป็นรองผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาในปี 2003 จากนั้นก็ย้ายไปเป็นรัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังแคนาดาในเดือน พ.ย. ปี 2004 ก่อนจะกลับมาเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางในปี 2008 ขณะมีอายุเพียง 42 ปี
เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากว่ามีฝีมือในการบริหารจัดการวิกฤตการเงิน โดยจัดตั้งกลไกกู้ยืมฉุกเฉินและยังเสนอให้ธนาคารกลางแคนาดาใช้นโยบายคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ในช่วงเวลาหนึ่ง
ผลงานของ คาร์นีย์ สร้างความประทับใจจนถึงขั้นที่ธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจจ้างเขาไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าการในปี 2013 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติที่ไม่ใช่คนอังกฤษคนแรกในรอบ 300 ปี และยังเป็นบุคคลแรกที่เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางในกลุ่ม G7 ถึง 2 แห่งด้วย
ที่มา : รอยเตอร์
