สมาชิกระดับอาวุโสในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพูดคุยเจรจาในการติดต่ออย่างลับๆ กับบรรดาคู่ปรับทางการเมืองของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ตามรายงานข่าวของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกาในวันพฤหัสบดี (6 มี.ค.) ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นท่ามกลางข่าวคำกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันบางส่วน ว่า เซเลนสกี ทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
เซเลนสกี ที่วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหมดลงไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้ระงับจัดการเลือกตั้งสืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึก และปฏิเสธโอนถ่ายอำนาจประธานาธิบดีให้แก่ประธานรัฐสภา ซึ่งถือเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ
โพลิติโก อ้างอิงแหล่งข่าวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยูเครน 3 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศจากรีพับลิกันรายหนึ่ง ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่ามีการพูดคุยอย่างลับๆ กับอดีตนายกรัฐมนตรียูลิยา ทีโมเชนโก และอดีตประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก เกี่ยวกับการกลับมาจัดเลือกตั้ง
ทรัมป์ ให้คำจำกัดความ เซเลนสกี ว่า "เผด็จการที่ไม่มีการเลือกตั้ง" ขณะที่คณะทำงานของเขากล่าวหาผู้นำยูเครน ว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางวาระสันติภาพของประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากจุดยืนที่ไม่ยอมยืดหยุ่นใดๆ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่อเมริกาบางส่วน ถึงขึ้นเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง ตามหลังเปิดศึกโต้เถียงกับ ทรัมป์ อย่างเผ็ดร้อน ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (28 ก.พ.)
ต่อหน้าสาธารณะ ทีโมเชนโก และโปโรเชนโก สนับสนุนความเป็นผู้นำของเซเลนสกี ในความขัดแย้งกับรัสเซีย อย่างไรก็ตามในทางลับแล้ว มีรายงานข่าวนักการเมืองยูเครนทั้ง 2 คน กำลังวางสถานะของตนเองให้เป็นที่นิยมชมชอบของวอชิงตัน
ทีโมเชนโก ต้องชดใช้โทษจำคุก 7 ปี ฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม เธอได้รับอิสระในปี 2014 ท่ามกลางการประท้วงสนับสนุนให้ยูเครนสร้างพันธมิตรกับสหภาพยุโรปและตีตัวออกห่างจากรัสเซีย กระแสที่ทำให้ วิกตอร์ ยานูโควิช ประธานาธิบดี ณ ขณะนั้น ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรัสเซียตังยง ถูกโค่นอำนาจ และมันนำไปสู่การปล่อยตัวเธอก่อนกำหนด
เมื่อเดือนที่แล้ว เซเลนสกี ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตร โปโรเชนโก เช่นเดียวกับ วิคเตอร์ เมดเวดชุค ผู้นำฝ่ายค้านที่หลบหนีอยู่ในต่างแดน
ในวันอังคาร (4 มี.ค.) เซเลนสกี แสดงความมุ่งมั่นต่อทางออกอย่างสันติในความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และคร่ำครวญว่าการประชุมระหว่างเขากับทรัมป์ "ไม่ได้เป็นไปในแนวทางที่ควรจะเป็น" อย่างไรก็ตามเขาไม่ยอมรับว่าตนเองนั้นทำผิดพลาดไป
ข่าวลือรอบใหม่เกี่ยวกับความพยายามเปลี่ยนตัวผู้นำยูเครน มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลทรัมป์ระงับป้อนอาวุธและหยุดแชร์ข้อมูลข่าวกรองด้านการทหารแก่ยูเครน ในส่วนของพันธมิตรยุโรปของเอเมริกา แม้ประกาศเดินหน้าให้การสนับสนุนเคียฟต่อไป แต่พวกเขาก็ยอมรับว่าศักยภาพในการมอบความช่วยเหลือของพวกเขาจะลดลงอย่างรุนแรงหากปราศจากการสนับสนุนของอเมริกา
(ที่มา : โพลิติโก/อาร์ทีนิวส์)