ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยื่นคำขู่ในวันพุธ (5 มี.ค.) ว่าจะทำลายล้างกาซาหากกลุ่มฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมด พร้อมยื่นคำขาดให้พวกผู้นำฮามาส “รีบหนีไปเสีย” ในขณะที่ยังมีโอกาส
ทรัมป์ ซึ่งหนุนหลังอิสราเอลเต็มที่ท่ามกลางข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวที่กำลังง่อนแง่น ระบุว่า ตนได้ “จัดส่งทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการจบงานให้อิสราเอล” ขณะที่รัฐบาลของเขาเดินหน้าอัดอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐยิว
“ปล่อยตัวประกันทั้งหมดเดี๋ยวนี้ อย่าชักช้า และส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่พวกคุณสังหารมา ไม่งั้นพวกคุณจบแน่” ทรัมป์ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social หลังจากที่ได้พบปะอดีตตัวประกันชาวอเมริกันที่ได้รับอิสรภาพ
“นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย สำหรับพวกผู้นำ ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณต้องออกไปจากกาซาเสีย ในขณะที่ยังมีโอกาสอยู่” ทรัมป์ กล่าว
ผู้นำสหรัฐฯ ยังประกาศชัดเจนว่า ดินแดนกาซาทั้งหมดจะต้องพลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย หลังจากที่ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากการโจมตีแก้แค้นแบบไม่หยุดหย่อนของอิสราเอลหลังวันที่ 7 ต.ค. ปี 2023 เป็นต้นมา
“สำหรับประชาชนชาวกาซา อนาคตที่สวยงามรอพวกคุณอยู่ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นหากพวกคุณยังจับตัวประกันไว้ ถ้าพวกคุณยังขืนทำแบบนั้น คุณตาย!” ทรัมป์ กล่าวสำทับ
คำขู่จาก ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอลได้ออกมาประกาศเตือน “ผลลัพธ์ที่พวกคุณคาดคิดไม่ถึง” หากฮามาสไม่ส่งมอบตัวประกันที่เหลือกลับมายังอิสราเอล
ข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกหมดอายุลงไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์ทำให้สถานการณ์การสู้รบสงบลงไปได้นาน 6 สัปดาห์
แม้อิสราเอลจะยืนยันว่าต้องการขยายข้อตกลงเฟสแรกออกไปจนถึงกลางเดือน เม.ย. แต่กลุ่มฮามาสกลับเรียกร้องให้เดินหน้าสู่ ‘เฟสสอง’ ซึ่งจะนำไปสู่การยุติสงครามอย่างถาวร
รัฐบาลอิสราเอลไม่เพียงเพิ่มแรงกดดันต่อฮามาสในทางวาจาเท่านั้น แต่ยังระงับการส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเข้าไปในกาซาด้วย
“พวกฮามาสสูญเสียอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่พ่ายแพ้เสียทีเดียว ภารกิจของเราจึงยังไม่เสร็จสิ้น” เอยาล ซามีร์ ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลคนใหม่ ออกมาเตือนวานนี้ (5)
ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมนี ก็ได้ออกคำแถลงร่วมวานนี้ (5) เตือนว่าสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซากำลังเข้าขั้น “หายนะ” และเรียกร้องให้อิสราเอลเปิดทางส่งความช่วยเหลือต่างๆ เข้าไป “โดยไม่ชักช้า”
รัฐบาลแอฟริกาใต้ระบุว่า การที่อิสราเอลจำกัดการส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังกาซาถือเป็นการนำความอดอยากหิวโหยมาใช้เป็น “อาวุธ” ในสงคราม
สำนวนภาษาที่แข็งกร้าวของ ทรัมป์ มีขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่าได้มีการ “พูดคุยทางตรง” กับกลุ่มฮามาสเป็นครั้งแรก โดย อดัม โบห์เลอร์ ผู้แทนสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการตัวประกัน ได้หารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันที่ยังถูกจับอยู่
สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะพูดคุยกับฮามาสโดยตรงนับตั้งแต่ขึ้นบัญชีพวกเขาเป็นองค์กรก่อการร้ายในปี 1997 แต่ แคโรไลน์ เลียวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อมวลชนของทำเนียบขาวยืนยันว่า ผู้แทนสหรัฐฯ “มีอำนาจที่จะเจรจากับใครก็ได้”
ทั้งทำเนียบขาวและสำนักงานของ เนทันยาฮู ยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้มีการปรึกษาหารือกับอิสราเอลล่วงหน้าแล้ว
ปัจจุบันเชื่อว่ายังมีชาวอเมริกันถูกจับอยู่ในกาซาอีก 5 คน โดย 4 คนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว เหลือเพียง เอดาน อเล็กซานเดอร์ (Edan Alexander) เท่านั้นที่ยังคงมีชีวิตอยู่
ที่มา : เอเอฟพี
