คาโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว เน้นย้ำว่าสหรัฐฯ จะไม่มอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอีกต่อไป สืบเนื่องพวกเขาให้ความสำคัญสูงสุดกับการเจรจาสันติภาพ ขณะที่การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นตามหลังการเปิดศึกวิวาทะกันระหว่างประธานาธิบโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กับ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ผู้มาเยือน
"เราจะไม่เขียนเช็คเปล่าสำหรับสงครามให้กับประเทศหนึ่งที่อยู่ห่างไกลมากๆ อีกต่อไป หากปราศจากสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน" เลวิตต์กล่าว "มันเป็นเรื่องเยี่ยมที่กล้องกำลังบันทึกภาพ เพราะว่าประชาชนชาวอเมริกาและทั่วโลกจะได้เห็นในสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์และคณะทำงาน กำลังต่อรองกันอย่างลับๆ ในการเจรจากับฝ่ายยูเครน" เธอกล่าว
ถ้อยแถลงของเธอมีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลทรัมป์ เผยว่าประธานาธิบดีรายนี้ กำลังพิจารณาและไม่ตัดความเป็นไปได้ในการระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดที่กำลังส่งมอบแก่ยูเครน ตามหลังการปะทะคารมกันอย่างเผ็ดร้อนระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี
การพบปะกันระหว่าง ทรัมป์ กับ เซเลนสกี ยุติลงโดยปราศจากการลงนามใดๆ ในข้อตกลงแร่หายาก หลังจากการพูดคุยได้ลุกลามกลายเป็นการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับเงินช่วยเหลือที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครน และเงื่อนไขต่างๆ ในว่าที่ข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย ต่อมา ทรัมป์ ได้สั่งการให้พวกเจ้าหน้าที่ของเขาแจ้งให้พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนออกจากทำเนียบขาว แม้มีเสียงประท้วงมาจากคณะผู้แทนของยูเครนก็ตาม
เซเลนสกี เรียกร้องซ้ำๆ ให้สหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าส่งมอบอาวุธแก่ยูเครน ในฐานะเครื่องรับประกันความมั่นคงที่จะช่วยเสริมความเข้มแข็งแก่สถานะของยูเครน ในการเจรจาสันติภาพในอนาคตใดๆ กับรัสเซีย
หลังจากเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เบื้องต้นรัฐบาลทรัมป์มีแนวโน้มจะหยุดส่งมอบความช่วยเหลือทั้งหมดที่ป้อนแก่ยูเครน ทว่านับตั้งแต่นั้นได้ตัดสินใจเดินหน้าส่งมอบอาวุธแก่เคียฟต่อไป รัฐบาลทรัมป์บอกว่าไม่สนับสนุนการส่งมอบอาวุธเพิ่มเติม แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ระงับการส่งมอบอาวุธใดๆ ที่เริ่มขึ้นในสมัยของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน
กระนั้นก็ตาม ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่งในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ให้ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศ เป็นเวลา 90 วัน ในนั้นรวมไปถึงยูเครน
รอยเตอร์รายงานในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ว่ากลุ่มก๊กฝ่ายตรงข้ามภายในรัฐบาลทรัมป์ กำลังถกเถียงกันว่าสหรัฐฯ ควรเดินหน้าจัดหาอาวุธแก่ยูเครนต่อไปหรือไม่
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มอบความช่วยเหลือด้านการทหารแก่ยูเครนไปแล้วมูลค่ากว่า 65,900 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
(ที่มา : เคียฟอินดิเพนเดนท์/นิวยอร์กโพสต์/ยูเครนฟรอนต์ไลน์ส)