มาร์ค รุตต์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในวันเสาร์ (1 มี.ค.) บอกกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ว่าจำเป็นต้องหาทางฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่างการประชุมในทำเนียบขาวในวันศุกร์ (28 ก.พ.) พร้อมเตือนสติถ้าไม่ได้อาวุธของอเมริกา ในนั้นรวมถึงจรวดพิฆาตรถถัง "เจฟลิน" ทางยูเครนอาจไม่อยู่รอดมาจนถึงตอนนี้
เหตุเผชิญหน้ากันปะทุขึ้นสืบเนื่องจากความเห็นต่างในแนวทางยุติการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี โดย เซเลนสกี เสาะหาคำรับประกันความมั่นคงอย่างหนักแน่นจากรัฐบาลทรัมป์ ที่ยื่นมือทางการทูตเข้าหาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
การประชุมที่แตกหักครั้งนี้ ที่ รุตต์ ให้คำจำกัดความว่า "เคราะห์ร้าย" ฉุดความสัมพันธ์ระหว่างเคียฟกับผู้สนับสนุนทางทหารรายใหญ่ของพวกเขา ดำดิ่งสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ "ผมบอกกับโวโลดิมีร์ ไปว่า ผมคิดว่าคุณจำเป็นต้องหาหนทางหนึ่งๆ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับโดนัลด์ ทรัมป์ และรัฐบาลอเมริกา มันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเดินหน้า" เลขาธิการนาโตบอกกับบีบีซี แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างเขากับเซเลนสกีในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
รุตต์ เผยต่อเขาได้บอกกับ เซเลนสกี ไปว่า "เราจำเป็นต้องให้ความเคารพกับสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ทำเพื่อยูเครนจนถึงตอนนี้" พร้อมเตือนสติเซเลนสกี ว่า ทรัมป์ เป็นหนึ่งในผู้มอบจรวดต่อต้านรถถังเจฟลิน แก่ยูเครนในปี 2019 ที่ช่วยให้กองกำลังของเคียฟต่อสู้ต้านทานการรุกรานของรัสเซีย
"หากปราศจากเจฟลินในปี 2022 ครั้งที่การโจมตีเต็มรูปแบบเริ่มต้นขึ้น ยูเครนจะอยู่ ณ จุดใดก็ไม่รู้" รุตต์กล่าว "ผมบอกกับเขาว่าเราจำเป็นต้องมอบเครดิตแก่ทรัมป์ สำหรับสิ่งที่เขาทำในตอนนี้ สิ่งที่อเมริกาทำในตอนนั้นและสิ่งที่อเมริกายังคงทำอยู่"
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับคำกล่าวหาบางส่วนที่ผู้นำทั้ง 2 ตอบโต้กันไปมาในวันศุกร์ (28 ก.พ.) ทางเลขาธิการนาโตปฏิเสธแสดงความคิดเห็นแบบลงรายละเอียด โดยบอกเพียงว่าอเมริกาลงทุนอย่างมากในพันธมิตรทหารแห่งนี้ ในนั้นรวมถึงในมาตรการ 5 แห่งการป้องกันตนเองร่วม
รุตต์ เรียก ทรัมป์ ว่าเป็นเพื่อน แต่ไม่ตอบคำถามโดยตรง เมื่อถูกถามว่า ทรัมป์ พูดถูกหรือไม่ที่กล่าวหา เซเลนสกี กำลังวางเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือที่ ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี จำเป็นต้องบรรลุข้อตกลง ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ จะถอนตัว "ผมมั่นใจอย่างที่สุดว่า สหรัฐฯ ต้องการนำยูเครนเข้าสู่สันติภาพที่ยั่งยืน และชัดเจนว่าเราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันในเรื่องนี้ เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะไปถึงจุดนั้น"
เมื่อถูกถามว่าพันธมิตรทหารนาโตมีศักยภาพเพียงพอหรือไม่ในการเติมเต็มช่องว่าง หากสหรัฐฯ ถอนการสนับสนุนทางทหารที่มอบแก่ยูเครน ทาง รุตต์ ตอบว่า "ข้ามคำถามนี้ไปเถิด มันสำคัญยิ่งที่เราจำเป็นต้องร่วมมือกัน ทั้งสหรัฐฯ ยูเครน และยุโรป ในการนำสันติภาพมาสู่ยูเครน มันคือสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังต่อสู้เพื่อสิ่งนั้น และเป็นสิ่งที่เรากำลังต่อสู้เช่นกัน"
(ที่มา : รอยเตอร์)