เพนนี หว่อง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ระบุวันนี้ (28 ก.พ.) ว่าทางการออสซี่ “ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง” ที่ไทยตัดสินใจส่งตัวชาวมุสลิมอุยกูร์ 40 คนกลับจีนโดยไม่เต็มใจ พร้อมแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของคนเหล่านี้เมื่อกลับไปอยู่ในมือปักกิ่ง
องค์กรสิทธิมนุษยชนกล่าวหาจีนว่ากดขี่และละเมิดสิทธิชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นมุสลิมกลุ่มน้อยที่มีอยู่ราวๆ 10 ล้านคนในภูมิภาคซินเจียงทางตะวันตกของจีน ขณะที่ปักกิ่งปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เคยมีการละเมิดสิทธิของคนเหล่านี้
รัฐบาลไทยออกมาแถลงยอมรับเมื่อวันพฤหัสบดี (27) ว่าได้มีการเนรเทศชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีนในช่วงก่อนรุ่งสาง จนเรียกเสียงประณามอื้ออึงจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชนทั่วโลก ในขณะที่จีนยืนยันว่าการขอส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศเป็นไปตามข้อกฎหมายและความร่วมมือระหว่างไทยและจีน
“รัฐบาลออสเตรเลียขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ทางการไทยตัดสินใจส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปยังจีนโดยที่พวกเขาไม่เต็มใจ” หว่อง ระบุในถ้อยแถลง
การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนยังคงเกิดขึ้นทั้งๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นได้ย้ำเตือนไทยแล้วว่าไม่ควรทำ โดยที่ผ่านมาชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ถูกกักตัวอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี หลังจากที่หลบหนีออกจากจีนเมื่อปี 2014
ผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นชี้ว่า ชาวอุยกูร์กลุ่มนี้เสี่ยงตกเป็นเหยื่อการทรมาน การถูกปฏิบัติอย่างโหดร้าย และอาจได้รับอันตรายอย่างชนิด “แก้ไขกลับคืนไม่ได้” หากถูกส่งกลับจีน
หว่อง ย้ำว่า รัฐบาลออสเตรเลียมีความห่วงใยต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในซินเจียง และการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ รวมถึงมุสลิมกลุ่มน้อยอื่นๆ ในแดนมังกร
“เราเคยแสดงความกังวลไปยังรัฐบาลไทยหลายครั้ง และได้แจ้งให้ทางการจีนทราบแล้วถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อกลุ่มคนเหล่านี้” เธอกล่าว
ปัจจุบันมีชาวมุสลิมอุยกูร์อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในออสเตรเลียหลายพันคน
ที่มา : รอยเตอร์