กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันเตือนรัฐบาลจีนวันนี้ (28 ก.พ.) ให้ดูบทเรียนจากการรุกรานและขยายอาณาเขตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าสุดท้ายแล้วจะจบลงที่ความล้มเหลว โดยเป็นการตอบโต้ที่ฝ่ายจีนออกมาแถลงว่าไต้หวันจะต้องตกอยู่ในกำมือจีนแน่ไม่ช้าก็เร็ว
ไต้หวันซึ่งปกครองตนเองด้วยระบอบประชาธิปไตยออกมาร้องเรียนเรื่องที่กองทัพจีนใช้ปฏิบัติการทางทหารข่มขู่หนักขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงการซ้อมรบนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวันในสัปดาห์นี้ที่ปักกิ่งอ้างว่าเป็นภารกิจ “ตามวงรอบปกติ”
กระทรวงกลาโหมจีนได้มีถ้อยแถลงวานนี้ (27) หลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับปฏิบัติการซ้อมรบประจำปีภายใต้รหัส “ฮั่นกวง” ของไต้หวันที่จะเกิดขึ้นในช่วงหลังของปีนี้ โดยระบุว่า ไต้หวันไม่ต่างอะไรกับ “ตั๊กแตนที่พยายามหยุดยั้งรถม้า” และ “ไม่ช้าก็เร็วเราจะนำพวกคุณกลับมา”
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันออกมาตอบโต้ทันควันว่า การที่จีนยกระดับข่มขู่ทางทหารในภูมิภาคถือเป็นการบ่อนทำลายเสถียรภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกลายเป็น “ตัวก่อปัญหา” รายใหญ่ที่สุดของประชาคมโลก ณ เวลานี้
“ปีนี้จะครบรอบ 80 ปีการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 และประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การรุกรานและขยายดินแดนในรูปแบบใดก็ตามจะจบลงด้วยความล้มเหลว” กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
“พฤติกรรมของกองทัพคอมมิวนิสต์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเป็นการเดินซ้ำรอยความผิดพลาดของผู้รุกราน และกำลังผลักจีนไปสู่ความพ่ายแพ้”
กระทรวงยืนยันว่า กองทัพไต้หวันกำลังเร่งเสริมเขี้ยวเล็บเพื่อปกป้องอธิปไตยและธำรงไว้ซึ่งเสรีภาพและระบอบประชาธิปไตย รวมถึงมีความร่วมมือกับชาติต่างๆ เพื่อรักษาความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค
รัฐบาลไต้หวันปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีนเรื่อยมา และยืนยันว่าอนาคตของไต้หวันมีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้นที่จะตัดสินใจ
สงครามโลกครั้งที่ 2 และการรุกรานจีนเต็มรูปแบบของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นในปี 1937 ซึ่งเป็นปฐมบทของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ปะทุขึ้นในปี 1939 ถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อนทางประวัติศาสตร์ทั้งสำหรับจีนและไต้หวัน
รัฐบาลที่ปกครองจีนในขณะนั้นคือสาธารณรัฐจีน และกองกำลังของพวกเขามีบทบาทสำคัญในการต่อต้านญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสาธารณรัฐจีนได้หลบหนีไปยังไต้หวันในปี 1949 หลังพ่ายแพ้สงครามให้พรรคคอมมิวนิสต์ของ เหมา เจ๋อตง และรัฐบาลปักกิ่งในปัจจุบันได้ลดบทบาทความสำคัญในประวัติศาสตร์ของกองกำลังสาธารณรัฐจีนลงมาก
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนตอบรับคำเชิญของรัสเซียให้เดินทางไปร่วมพิธีรำลึกชัยชนะของสหภาพโซเวียตเหนือกองทัพนาซีเยอรมนี ตามรายงานของสื่อรัสเซียในเดือนนี้
ไต้หวันเคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และก็มีชาวไต้หวันบางส่วนที่ร่วมสู้รบอยู่ในกองทัพญี่ปุ่นด้วย
ที่มา : รอยเตอร์