เอเอฟพี - วาติกันแถลงในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ระบุว่า พระสันตะปาปาฟรานซิส ประทับพักผ่อนและคืนวันเสาร์ผ่านไปอย่างเงียบสงบ หลังจากที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า โป๊ปอยู่ในภาวะวิกฤต ต้องให้ออกซิเจนและรับการถ่ายเลือด
เมื่อคืนวันเสาร์ (22 ก.พ.) สำนักวาติกันรายงานว่า พระสันตะปาปาที่มีพระชนมายุ 88 พรรษา และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลีในกรุงโรมตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ทรงมีพระอาการระบบหายใจล้มเหลวเรื้อรังและต้องรับการถ่ายเลือด
ต่อมาในเช้าวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) วาติกันออกแถลงการณ์ฉบับใหม่ระบุว่า พระสันตะปาปาประทับพักผ่อนและคืนวันเสาร์ผ่านไปอย่างเงียบสงบ
แรกเริ่มเดิมทีนั้น พระสันตะปาปาทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรจากโรคหลอดลมอักเสบ แต่ต่อมาได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคปอดอักเสบทั้งสองข้าง ซึ่งแถลงการณ์เมื่อค่ำวันเสาร์ระบุว่า พระอาการเข้าขั้นวิกฤตและพระสันตะปาปายังไม่พ้นอันตราย
อย่างไรก็ตาม พระสันตะปาปายังทรงรู้สึกตัวและมีสติดี และทรงใช้เวลาทั้งวันประทับบนเก้าอี้ แม้ว่าจะทรงทุกข์ทรมานจากการประชวรมากกว่าเมื่อวันศุกร์ก็ตาม และการพยากรณ์โรคยังต้องเฝ้าระวัง
แถลงการณ์เสริมว่า ช่วงเช้าวันเสาร์พระสันตะปาปาทรงมีอาการหอบหืดเรื้อรังและต้องได้รับออกซิเจนความเข้มข้นสูง การตรวจเลือดยังพบภาวะเกล็ดเลือดต่ำซึ่งสัมพันธ์กับภาวะโลหิตจางทำให้ต้องถ่ายเลือด
หนังสือพิมพ์กอร์เรียเร เดลลา เซราของอิตาลีรายงานเมื่อเช้าวันอาทิตย์ว่า พระอาการโป๊ปเลวร้ายลง ขณะที่ลา รีพับลิการะบุว่า เป็นวันที่มืดมนที่สุดของวาติกัน
ฟาบริซิโอ เปรเกลียสโก ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสชั้นนำของอิตาลี ให้สัมภาษณ์กับลา สแตมปาว่า สถานการณ์ของพระสันตะปาปายังคงน่ากังวลมาก ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงและไม่กี่วันนี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญ
วาติกันยืนยันแล้วว่า พระสันตะปาปาจะไม่ทรงปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนในวันอาทิตย์เพื่อนำการสวดมนต์กับผู้แสวงบุญเช่นเดียวกับสุดสัปดาห์ก่อนหน้านี้
รายงานระบุว่า กลุ่มแม่ชีและบาทหลวงจากทั่วโลกรวมตัวกันที่หน้าทางเข้าโรงพยาบาลเพื่อสวดมนต์ให้โป๊ปฟรานซิส และประชาชนจุดเทียนและถือภาพพระสันตะปาปาร่วมส่งกำลังใจให้พระประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก
โป๊ปฟรานซิสเคยตรัสว่า ตำแหน่งพระสันตะปาปาคือหน้าที่ตลอดชีวิต แต่ยังเปิดช่องสำหรับการลาออกแบบเดียวกับพระสันตะปาปาองค์ก่อนหน้าคือ โป๊ปเบเนดิกต์ที่ 16
พระสันตะปาปาฟรานซิสทรงย้ำว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะลงจากตำแหน่ง แต่ด้วยอาการประชวรในขณะนี้ทำให้เกิดคำถามว่า พระองค์จะสามารถเป็นผู้นำชาวคริสต์นิกายคาทอลิกเกือบ 1,400 ล้านคนทั่วโลกได้ต่อไปหรือไม่
ที่ผ่านมา พระสันตะปาปาฟรานซิสเคยประชวรมาก่อน ตั้งแต่การผ่าตัดลำไส้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 จนถึงการผ่าตัดไส้เลื่อนปี 2023 พระองค์ยังมีภาวะน้ำหนักเกิน รวมถึงปวดสะโพกและเข่าเรื้อรัง ซึ่งทำให้ต้องใช้เก้าอี้เข็นเป็นส่วนใหญ่