เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - วาติกันแถลงวานนี้ (22 ก.พ.) ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสวัย 88 พรรษาอยู่ในขั้นวิกฤต ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและมีปัญหาเกล็ดเลือดต่ำ ข่าวลือลาออกสะพัด คริสตชนอเมริกาใต้แห่เข้าโบสถ์สวดอธิษฐานขอให้โป๊ปทรงหายประชวร
สกายนิวส์ของอังกฤษรายงานวันนี้ (23 ก.พ.) ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประทับรักษาพระองค์ในโรงพยาบาลที่กรุงโรมมาตั้งแต่วันศุกร์ (14 ก.พ.) หลังประสบปัญหาโรคหลอดลมอักเสบที่เกี่ยวข้องกับหืดหอบและในเวลาต่อมาสำนักงานวาติกันออกแถลงการณ์ว่า มีการพบว่าปอดทั้งสองข้างของพระองค์ติดเชื้อนิวโมเนีย
แต่ทว่าทั่วโลกกลับต้องตกตะลึกและวิตกต่อพระพลานามัยโดยเฉพาะในดินแดนอเมริกาใต้จากการที่โป๊ปฟรานซิสทรงเป็นโป๊ปพระองค์แรกที่มาจากดินแดนแห่งนี้ที่มีชาวคาทอลิกอาศัยมากที่สุดในโลก เมื่อวาติกันออกแถลงการณ์วันเสาร์ (22) ระบุว่า โป๊ปทรงมีพระอาการร้ายแรงอยู่ในขั้นวิกฤตต้องทรงได้รับการถวายเครื่องช่วยหายใจและการถ่ายพระโลหิต โดยพระอาการนั้นแย่กว่าวันก่อนหน้า
ในการแถลงอัปเดตพระอาการค่ำวันเสาร์ (21) สำนักวาติกันแถลงว่า สมเด็จพระสันตะปาปายังทรงมีพระอาการอยู่ในขั้นวิกฤต พร้อมเสริมว่า
“ในเช้าวันนี้พระองค์แสดงพระอาการประชวรวิกฤตหอบหืดทางเดินหายใจแบบเรื้อรัง (prolonged asthmatic respiratory crisis) และได้รับการถวายเครื่องควบคุมการให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง”
ซึ่งเป็นอาการประสบปัญหาในการหายใจคล้ายโรคหืดหอบ
ทั้งนี้ สกายนิวส์รายงานว่า พระองค์ทรงได้รับการถวายการรักษาด้วยวิธีการถ่ายพระโลหิต (การถ่ายเลือด) หลังพบมีเกล็ดเลือดต่ำจากสาเหตุภาวะโลหิตจาง (anaemia)
“พระประมุขแห่งโฮลีซีทรงยังคงรู้สึกพระองค์และทรงใช้เวลาทั้งวันที่เก้าอี้ที่ประทับถึงแม้จะทรงมีพระอาการมากกว่าวานนี้”
สำนักงานวาติกันแถลงว่า โป๊ปฟรานซิสจะไม่ทรงเป็นผู้นำในการประกอบพิธีวันอาทิตย์ (23) ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมเปิดเผยว่า พระองค์ทรงสามารถบรรทมได้เป็นอย่างดี
สกายนิวส์รายงานว่า เชื่อว่าโป๊ปน่าจะเตรียมร่างคำสอนเป็นรายลักษณ์อักษรในพิธีสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว (Angelus Prayer)
สาธุชนทั่วโลกต่างรู้สึกกังวลในพระอาการของพระองค์ รวมไปถึงการคาดการณ์ถึงการลาออกจากตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่เป็นข่าวลือออกมาในช่วงการประชวร
รอยเตอร์รายงานว่า ดินแดนอเมริกาใต้ที่ได้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเป็นโป๊ปคนแรกมาจากทวีปขั้วใต้แห่งนี้ที่มีชาวคริสต์นิกายคาทอลิกมากที่สุดในโลก
รอยเตอร์รายงานว่า คริสตชนคาทอลิกตั้งแต่จากเม็กซิโกไปจนถึงอาร์เจนตินาและไปจนจดแปซิฟิกและทั้งสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกต่างเข้าร่วมพิธีมิสซาอย่างคึกคัก จุดเทียนบูชาที่มีรูปพระองค์ประดับไว้ที่บนตัวเทียนพร้อมกล่าวสวดอธิษฐานเพื่อให้พระองค์พ้นขีดอันตราย
“จากการที่พระองค์ทรงเป็นชาวอเมริกาใต้ พระองค์ทรงตรัสภาษาของพวกเราและพระองค์ทรงมีความรู้สึกร่วมกับชุมชนชาวอเมริกาใต้เพราะพวกเราเนื่องมาจากวัฒนธรรมที่คล้ายกัน” กรีเซล ฮีเมเนซ (Grisel Jimenez) กล่าวเปิดใจ โดยเดินทางเข้าร่วมพิธีมิสซาที่มหาวิหารแห่งกวาดาลูเป (Basilica of Guadalupe) ในกรุงเม็กซิโก ซิตี
และที่อาร์เจนตินาซึ่งเป็นบ้านเกิดของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสนั้นพบว่า ในกรุงบัวโนสไอเรสมีภาพโป๊ปพร้อมกับข้อความประกาศว่า “เมืองขอสวดอธิษฐานเพื่อพระองค” ได้ถูกฉายทางโปรเจกเตอร์ไปบนเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ชื่อดังในช่วงเวลากลางคืนมาตั้งแต่วันศุกร์ไปจนถึงวันจันทร์
นอกจากนี้ อาร์เจนตินายังออกแถลงการณ์ทั่วประเทศก่อนหน้าไปยังทุกบ้านและชุมชนรวมถึงเมืองให้ช่วยกันสวดอธิษฐานเพื่อโป๊ปให้ทรงหายจากอาการประชวร
และที่บราซิลซึ่งเป็นประเทศคาทอลิกใหญ่ที่สุดในโลกพบว่า มีประชาชนต่างพากันร่วมสวดอธิษฐานเพื่อโป๊ปฟรานซิสเช่นกัน