xs
xsm
sm
md
lg

ยุโรปร้อนใจ! มาครงนัดประชุมสุดยอดฉุกเฉิน รับมือถูกทรัมป์เท ไม่ได้ร่วมเจรจายุติสงครามยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารกองเกียรติยศของฝรั่งเศสเดินอยู่ในลานพระราชวังเอลิเซ ที่เป็นทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ในกรุงปารีส เตรียมตัวต้อนรับเหล่าผู้นำของยุโรป ซึ่งกำลังจะเดินทางมาร่วมการประชุมซัมมิตฉุกเฉินในตอนเย็นวันจันทร์ (17 ก.พ.)
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสนัดหารือฉุกเฉินผู้นำชาติสมาชิกรายสำคัญของสหภาพยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร และนาโต ที่กรุงปารีสในวันจันทร์ (17 ก.พ.) เพื่อระดมวิธีรับมืออเมริกา หลังจากตลอดสัปดาห์ที่แล้วคณะบริหารทรัมป์เดินเกมรุกทางการทูตที่ดูเหมือนอ้าแขนรับรัสเซียและเมินเฉยทอดทิ้งพันธมิตรเก่าแก่อย่างยุโรป ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง ลอนดอนประกาศก้องพร้อมส่งทหารไปร่วมรักษาสันติภาพในยูเครน ทว่าชาติอื่นๆ ยังลังเลหรือกระทั่งปฏิเสธ

แม้มีสัญญาณเตือนมานานหลายเดือนก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีรอบสองจะกลับคืนสู่ทำเนียบขาว ทว่า บรรดาผู้นำในยุโรป กลับดูเหมือนเพิกเฉยลางร้ายนี้ ซ้ำยังแสดงความหวังกันว่า ทรัมป์จะนำอเมริกาเคียงข้างยุโรปอย่างที่เคยเป็นมา ขณะที่ประเทศเหล่านี้ก็จะเริ่มปรับปรุงเรื่องกลาโหมของพวกเขาและลดการพึ่งพิงวอชิงตัน

แต่การปราศรัยของรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ และพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระหว่างเยือนยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการตั้งคำถามอย่างแรงๆ ทั้งต่อความมุ่งมั่นในเรื่องความมั่นคงและหลักการประชาธิปไตยพื้นฐานของยุโรป และมาครงชี้ว่า การที่สหรัฐฯ ออกมาตำหนิและข่มขู่ว่าจะไม่ร่วมมือด้วยทั้งๆ ที่ยุโรปกำลังหวั่นวิตกถึงเผชิญอันตรายทางทหารจากรัสเซียเช่นนี้ ก่อให้เกิดความรู้สึกช็อกที่สั่นสะเทือนถึงระบบที่ยึดถือกันอยู่

จุดพลิกผันครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อทรัมป์ตัดสินใจกลับลำนโยบายของอเมริกาที่ใช้มาเป็นปีๆ ด้วยการโทรคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อหาทางยุติสงครามในยูเครน ตามด้วยคีธ เคลล็อกก์ ผู้แทนพิเศษด้านยูเครนและรัสเซียของทรัมป์ ประกาศชัดเจนเมื่อวันเสาร์ (15 ก.พ.) ว่า ยุโรปจะไม่มีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพ แม้วอชิงตันส่งแบบสอบถามให้ประเทศต่างๆ ในยุโรปตอบว่า จะร่วมสนับสนุนอย่างไรเพื่อรับประกันความมั่นคงให้เคียฟ รวมทั้งถามชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ว่า ต้องการอะไรจากวอชิงตันในการเข้าร่วมการจัดการความมั่นคงของยูเครนก็ตาม

วอชิงตันยังเตือนพันธมิตรในนาโตว่า ยุโรปจะไม่ใช่เป้าหมายด้านความมั่นคงที่สำคัญอันดับแรกของอเมริกาอีกต่อไป และอเมริกาอาจโยกย้ายกองกำลังไปยังเอเชียเพื่อโฟกัสไปที่การรับมือจีน

นอกจากนั้น การที่เครมลินร่วมผลักดันการเจรจากับทำเนียบขาวที่กำลังจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่วันนี้ที่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งไม่ได้แค่หารือเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่ยังรวมถึงสถานการณ์ความมั่นคงของยุโรปด้วยนั้น ทำให้ชาติยุโรปกลัวว่า ปูตินอาจฟื้นข้อเรียกร้องที่เคยประกาศก่อนบุกยูเครนในปี 2022 ในการจำกัดกองกำลังนาโตในยุโรปตะวันออกและการเกี่ยวข้องของอเมริกาในภูมิภาคดังกล่าว

อันนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แสดงความเห็นว่า สัปดาห์ที่แล้วคือช่วงเวลาสำคัญแห่งการอยู่รอดที่ยุโรปต้องปกป้องตัวเอง และก็เป็นสิ่งที่มาครงหวังว่าจะได้สานต่อหาทางออกกันในการประชุมที่กำหนดมีขึ้นตอนเย็นวันจันทร์ ร่วมกับผู้นำเยอรมนี สหราชอาณาจักร อิตาลี โปแลนด์ สเปน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก อียู รวมถึงมาร์ก รึตเตอ เลขาธิการนาโต

สำนักประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงว่า การประชุมที่ปารีสครั้งนี้จะหารือเกี่ยวกับ “สถานการณ์ในยูเครน” และ “ความมั่นคงในยุโรป”

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า พวกเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสยอมรับว่า ไม่คาดหวังจะมีการตัดสินที่หนักแน่นใดๆ จากการประชุมนี้ นอกเหนือจากการแสดงความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกันของพวกผู้นำยุโรป

อังกฤษประกาศพร้อมส่งทหารเข้ายูเครน

ในวันอาทิตย์ (16) นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร ประกาศที่กรุงลอนดอนว่า หากจำเป็น ตนพร้อมส่งทหารไปร่วมรักษาสันติภาพในยูเครน หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่า สหราชอาณาจักรยินดีช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในข้อตกลงสันติภาพที่กำลังจะเปิดเจรจากัน

ต่อมาในบทความที่เขาเขียนลงหนังสือพิมพ์เดลีเทเลกราฟฉบับวันจันทร์ (17) สตาร์เมอร์ระบุว่า การสนับสนุนและการรับประกันความมั่นคงของอเมริกายังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสันติภาพที่ยั่งยืน เนื่องจากอเมริกาสามารถป้องปรามไม่ให้ปูตินกลับไปโจมตียูเครนอีก

ท่าทีของสตาร์เมอร์ตอกย้ำว่า การเกี่ยวข้องกับอเมริกายังมีความสำคัญสำหรับอนาคตอันใกล้ เนื่องจากชาติยุโรปต้องใช้เวลาเป็นปีกว่าจะเพิ่มกำลังผลิตอาวุธและรวมเข้าสู่กองกำลังที่สามารถปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพได้

อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทุสก์ ของโปแลนด์ กลับกล่าวในวันจันทร์ ขณะออกเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมที่ปารีสว่า ประเทศของเขาไม่มีแผนจดส่งทหารเข้าไปยังดินแดนของยูเครน โดยจะสนับสนุนยูเครนทางด้านการส่งกำลังบำรุงและทางการเมืองอย่างที่กระทำอยู่

ด้านรัฐมนตรีต่างประเทาศ มานูเอล อับบราเรส ของสเปน กล่าวในวันเดียวกันว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการจัดส่งทหารไปยูเครน โดยที่เขาเห็นว่าจะต้องพูดกันก่อนในเรื่องการสร้างสันติภาพที่ถาวรขึ้นมา

(ที่มา : เอพี/ เอเอฟพี/รอยเตอร์)
กำลังโหลดความคิดเห็น