เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าเขาพร้อมส่งทหารของประเทศไปยังยูเครน ส่วนหนึ่งในกองกำลังสันติภาพใดๆ ในยุคหลังสงครามระหว่างเคียฟกับมอสโก ในขณะที่การเจรจาที่มีเป้าหมายยุติความขัดแย้งมีกำหนดเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้
สตาร์เมอร์ เผยว่าเขาไม่ได้ตัดสินใจส่งกำลังพลสหราชอาณาจักรทั้งหญิงและชายเข้าไปเสี่ยงอันตราย แต่การรับประกันไว้ซึ่งสันติภาพที่ยั่งยืนในยูเครนนั้น เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องปรามประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จากการรุกรานใดๆ อีกในอนาคต
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ดับกระแสความกังวล ระบุยูเครนและยุโรปจะเป็นส่วนหนึ่งของการ "เจรจาจริงๆ จังๆ ใดๆ" ในการยุติสงครามกับรัสเซีย ส่งสัญญาณว่าการเจรจาระหว่างอเมริกากับรัสเซียในสัปดาห์นี้ เป็นเพียงแค่การหยั่งเชิงลองดูว่า ปูติน มีความจริงจังกับสันติภาพมากแค่ไหน
นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ เขียนลงในเดลี เทเลกราฟ สื่อมวลชนอังกฤษ ว่า "การยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เมื่อมันมาถึง มันไม่อาจเป็นเพียงแค่การหยุดไว้ชั่วคราวเฉยๆ ก่อนปูตินจะหวนกลับมาโจมตีอีกรอบ"
สตาร์เมอร์ คาดหมายว่า โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โดนัล ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี และบรรดาผู้นำยุโรปคนอื่นๆ จะเดินทางมายังกรุงปารีส หลังประธานาธิบดีเอ็นมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เชิญมาประชุมพูดคุยหารือเกี่ยวกับยูเครน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาพันธมิตรยุโรปในนาโตและยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังแถลงว่าได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย โดยไม่ได้มีการปรึกษาหารือพวกเขาก่อนใดๆ และบอกว่าจะเริ่มกระบวนการสันติภาพ ในขณะที่ คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษด้านยูเครนของทรัมป์ บ่งชี้ว่ายูเครนและผู้นำชาติยุโรปอื่นๆ จะไม่มีพื้นที่บนโต๊ะเจรจาสันติภาพใดๆ
(ที่มา : รอยเตอร์)