เครื่องบินฝึกขั้นสูงของกองทัพอากาศไต้หวันที่พัฒนาขึ้นเองภายในประเทศประสบอุบัติเหตุตกในวันนี้ (15 ก.พ.) หลังแจ้งว่าเครื่องยนต์ล้มเหลว ขณะที่นักบินดีดตัวออกจากเครื่องได้ทันรอดตายอย่างหวุดหวิด
อุบัติเหตุไม่คาดฝันนี้ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่สำหรับเครื่องบินขับไล่ AT-5 Brave Eagle ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Aerospace Industrial Development Corporation (AIDC) ด้วยงบประมาณราว 68,600 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และเริ่มมีการทดสอบบินครั้งแรกเมื่อปี 2020
กองทัพอากาศไต้หวันระบุว่า เครื่องบินลำนี้ออกเดินทางจากฐานทัพอากาศจื้อหาง (Chihhang) ในเทศมณฑลไถตงทางตะวันออกของเกาะไต้หวันเพื่อฝึกภารกิจใช้อาวุธ ก่อนที่นักบินจะแจ้งเหตุเครื่องยนต์ล้มเหลวทั้ง 2 ตัว
นักบินคนเดียวซึ่งควบคุมเครื่องแบบ 2 ที่นั่งได้รับการช่วยเหลือหลังดีดตัวออกจากเครื่องบินได้ทันท่วงที ขณะที่เครื่องบินฝึกที่เพิ่งผ่านการใช้งานมาเพียง 183 ชั่วโมงร่วงลงสู่ทะเล
กองทัพอากาศไต้หวันยืนยันว่าได้มีการตั้งทีมสอบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว
ทั้งนี้ กองทัพอากาศไต้หวันมีแผนที่จะรับมอบเครื่องบินขับไล่รุ่นนี้จำนวน 66 ลำ ภายในปี 2026 เพื่อนำมาทดแทนเครื่องบินขับไล่รุ่น AT-3 และเครื่องบินฝึก F-5 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีประวัติตกบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
กองทัพไต้หวันใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตในสหรัฐฯ เป็นหลัก ทว่ารัฐบาลก็ให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมกลาโหมภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงเวลาที่ไต้หวันต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากจีนซึ่งเปิดปฏิบัติการทางทหารข่มขู่รอบเกาะอยู่บ่อยๆ
สำหรับเครื่องบินขับไล่ AT-5 นั้นถือเป็นเครื่องบินรบที่ไต้หวันผลิตเองลำแรกหลังจากรุ่น F-CK-1 Ching-kuo Indigenous Defence Fighter หรือ IDF ซึ่งถูกนำมาใช้งานเมื่อกว่า 3 ทศวรรษก่อน
AT-5 ถูกออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการโจมตีทั้งแบบอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นดิน และสามารถลงจอดหรือเทกออฟด้วยทางวิ่งระยะสั้นได้ นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบอาวุธหลายอย่างซึ่งยังอยู่ในขั้นของการทดสอบ
ที่มา : รอยเตอร์