รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความสับสนงุนงงให้กับบรรดาชาติพันธมิตรยุโรปเมื่อวานนี้ (14 ก.พ.) หลังกล่าวโจมตีผู้นำยุโรปว่าปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก (free speech) และล้มเหลวในการสกัดกั้นผู้อพยพ จนทำให้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมนีออกมาตอบโต้อย่างรุนแรง และสร้างบรรยากาศอึมครึมให้กับการประชุมด้านความมั่นคงที่มิวนิก (Munich Security Conference) ซึ่งมุ่งแสวงหาทางออกให้กับสงครามยูเครน
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการเจรจาสันติภาพยูเครนน่าจะถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการประชุมความมั่นคงมิวนิก หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ยกหูโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ในสัปดาห์นี้ แต่ปรากฏว่ารองประธานาธิบดี แวนซ์ กลับแทบไม่พูดถึงรัสเซียหรือยูเครนเลยในสุนทรพจน์ที่กล่าวต่อที่ประชุม
แวนซ์ กล่าวว่า ภัยคุกคามต่อยุโรปที่เขากังวลมากที่สุดไม่ใช่รัสเซียหรือว่าจีน หากแต่เป็นสิ่งที่เขาเรียกว่า “การถดถอยจากค่านิยมพื้นฐานในการปกป้องเสรีภาพในการแสดงออก” รวมถึงคลื่นผู้อพยพที่เขาชี้ว่ายุโรป “คุมไม่อยู่”
บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมนี ขึ้นเวทีตอบโต้ แวนซ์ ภายในวันเดียวกัน โดยบอกว่า “รับไม่ได้” กับคำพูดของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมชี้ว่า แวนซ์ ไม่เพียงตั้งคำถามต่อระบอบประชาธิปไตยในเยอรมนีเท่านั้น แต่กำลังปรามาสชาติยุโรปทั้งหมด
สงครามน้ำลายครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองต่อสถานการณ์โลกที่แตกต่างระหว่างรัฐบาล ทรัมป์ กับบรรดาผู้นำยุโรป และทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายยากที่จะแสวงหาจุดยืนร่วมในวิกฤตการณ์ต่างๆ รวมถึงเรื่องยูเครนด้วย
ผู้แทนที่เข้าร่วมประชุมหลายคนนั่งฟังสุนทรพจน์ของ แวนซ์ แบบอึ้งๆ และแทบจะไม่มีเสียงปรบมือเลยในระหว่างที่เขาพูด
หลังจากที่กล่าวสุนทรพจน์แล้ว แวนซ์ ยังสร้างความตกตะลึงด้วยการไปพบกับ อลิซ ไวเดล ผู้นำพรรคขวาจัด Alternative for Germany (AfD) ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกตำหนิว่า “แทรกแซง” อย่างไม่เหมาะสมก่อนถึงศึกเลือกตั้งทั่วไปเยอรมนีที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ การที่ ทรัมป์ ต่อสายพูดคุยโดยตรงกับ ปูติน สร้างความวิตกกังวลไม่น้อยต่อบรรดาผู้นำยุโรปซึ่งพยายามโดดเดี่ยว ปูติน มาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียเปิดศึกรุกรานยูเครนในเดือน ก.พ. ปี 2022 และยังทำให้พวกเขากลัวว่าจะถูกกีดกันออกจากกระบวนการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของยุโรปเองด้วย
แวนซ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล (WSJ) ก่อนการประชุมที่มิวนิกจะเริ่มขึ้นว่า ทรัมป์ อาจจะใช้เครื่องมือทั้งทางเศรษฐกิจและทางทหารเพื่อกดดัน ปูติน ซึ่งต่อมา วิลเลียม มาร์ติน โฆษกของแวนซ์ ได้ออกมาปฏิเสธการตีความของ WSJ ที่ระบุว่า แวนซ์ กำลังข่มขู่ผู้นำหมีขาว
เซเลนสกี กล่าวต่อที่ประชุมว่า เขาจะยอมพูดคุยกับ ปูติน ก็ต่อเมื่อยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับ ทรัมป์ และผู้นำยุโรปแล้วเท่านั้น
ทั้ง แวนซ์ และ เซเลนสกี ยังปฏิเสธที่จะเผยรายละเอียดว่าพวกเขาพูดคุยอะไรกันบ้างที่มิวนิก แต่ประธานาธิบดียูเครนย้ำว่าประเทศของเขา “ต้องได้รับการค้ำประกันความมั่นคงที่แท้จริง”
ด้าน อันนาเลนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ออกมาเตือนถึงความพยายามบีบบังคับให้ยูเครนต้องยอมรับข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
“สันติภาพจอมปลอมที่ถูกบังคับเหนือชาวยูเครนและยุโรปจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น” เธอกล่าว “สันติภาพจอมปลอมไม่อาจนำมาซึ่งความมั่นคงที่ยั่งยืน ทั้งต่อประชาชนชาวยูเครน ชาวยุโรป หรือต่อสหรัฐฯ เอง”
ที่มา : รอยเตอร์