xs
xsm
sm
md
lg

ดับกังวลโดนทรยศ! ทรัมป์รับปากให้ยูเครนมีส่วนร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ยืนยันว่ายูเครนจะมีส่วนร่วมในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย และมีความเป็นไปได้ว่าการประชุมระหว่าง 3 ชาติอาจมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันศุกร์ (14 ก.พ.) ท่ามกลางความกังวลว่าเคียฟและบรรดาพันธมิตรยุโรปจะถูกทิ้งไว้วงนอก จนถึงขั้นรัฐมนตรีอเมริกาต้องออกมารับปากว่าจะไม่มีการทรยศหักหลังใดๆ

ระหว่างพูดคุยกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว ทรัมป์บอกว่ายูเครนจะมีที่นั่งบนโต๊ะเจรจา ระหว่างการเจรจาสันติภาพใดๆ กับรัสเซีย เพื่อยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานเกือบครบ 3 ปีแล้ว "พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งในนั้น เราจะมียูเครนและเรามีรัสเซีย และเราจะมีคนอื่นๆ เกี่ยวข้อง คนมากมาย" ทรัมป์ระบุ

เมื่อถูกถามว่าเขาไว้วางใจปูตินหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "ผมเชื่อว่าเขาอยากเห็นบางอย่างเกิดขึ้น ผมไว้ใจเขาในเรื่องนี้" นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียจะพบปะกันในมิวนิกในวันศุกร์ (14 ก.พ.) และยูเครนจะเกี่ยวข้องด้วย

ก่อนหน้านี้ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (13 ก.พ.) ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าประธานาธิบดีอเมริกากำลังทรยศยูเครน ด้วยการเปิดฉากพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งกระตุ้นให้บรรดามหาอำนาจยุโรปต้องออกมาแสดงจุดยืน ยืนกรานว่าพวกเขาและเคียฟต้องมีส่วนร่วมบนโต๊ะเจรจาด้วย

ในวันพุธ (12 ก.พ.) ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่พันธมิตรยุโรป ด้วยการตกลงเปิดเจรจากับมอสโก เพื่อยุติสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 ปี ในการพูดคุยทางโทรศัพท์อย่างเปิดเผยกับปูติน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่อำนาจ

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดหมายว่าเขาจะพบปะกับปูติน ในซาอุดีอาระเบีย เพื่อเจรจาสันติภาพในยูเครน ท่าทีที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์ตึงเครียดน้อยลง ซึ่งโหมกระพือความกังวลว่าเคียฟอาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

ท่าทีดังกล่าวของทรัมป์ ยังมีขึ้นหลังจากรัฐบาลของเขาดับความหวังเป้าหมายต่างๆ ของยูเครน ที่หวังทวงคืนทุกดินแดนที่สูญเสียไปให้รัสเซีย และเช่นเดียวกับกรณีที่เคียฟพยายามผลักดันเข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต เพื่ออยู่ใต้ร่มเงาการป้องกันของพันธมิตรทหารแห่งนี้

"ไม่มีการทรยศ มันคือการรับรองว่าทั่วโลกและสหรัฐฯ ทุ่มทุนและให้ความใส่ใจกับสันติภาพ" เฮกเซธ กล่าวก่อนหน้าประชุมร่วมกับบรรดารัฐมนตรีกลาโหมนาโตในบรัสเซลส์ "มันเป็นสิ่งจำเป็นที่ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องยอมรับในสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาไม่ต้องการเช่นกัน"

เมื่อวันพุธ (12 ก.พ.) วังเครมลินเผยว่าการเจรจาระหว่างปูตินกับทรัมป์ ใช้เวลาเกิอบ 1 ชั่วโมงครึ่ง และทั้ง 2 ผู้นำ เห็นพ้องต้องกันว่า "ถึงเวลาแล้วที่ต้องร่วมมือกัน" ทั้งนี้หลังจากพูดคุยกับปูติน ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ต่อสายคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน และเล่ารายละเอียดต่างๆ ที่พูดคุยกับปูติน ให้ เซเลนสกี ฟัง

เซเลนสกี มีกำหนดพบปะกับ เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ที่ประชุมความมั่นคงในมิวนิก ในวันศุกร์ (14 ก.พ.) เพื่อเริ่มต้นการเจรจา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการพบปะหารือรอบล่าสุด ของการประชุมระดับสูงที่เกิดขึ้นไปแล้วหลายรอบ หลังจาก สกอต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงเคียฟและร่วมประชุมในเมืองหลวงของยูเครนเมื่อวันพุธ (12 ก.พ.) ในประเด็นอนุญาตให้วอชิงตันเข้าถึงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน แลกกับแรงสนับสนุนด้านความมั่นคง

บรรดาผู้สนับสนุนยุโรปของเคียฟ แสดงความกังวลว่า ทรัมป์ อาจบีบให้ ยูเครน ยอมรับข้อตกลงสันติภาพแย่ๆ ที่จะปล่อยให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับปูตินที่อยู่ในภาวะฮึกเหิมเต็มพิกัด ในนั้นรวมถึง โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ที่ปฏิเสธ "สันติภาพที่เกิดจากการบังคับใดๆ" ในขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของเขา บอกว่า "รู้สึกเสียใจ" ที่ดูเหมือนวอชิงตันกำลังยอมอ่อนข้อแก่เครมลิน

ความเห็นนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันพุธ (12 ก.พ.) เฮกเซธ วางกรอบความคาดหมายของสหรัฐฯ ที่มีต่อการระงับความขัดแย้ง โดยชี้ว่ามันไม่มีทางเป็นจริงที่ยูเครนจะทวงคืนดินแดนทั้งหมด หรือก้าวมาเป็นสมาชิกนาโต เขาบอกด้วยว่าถึงเวลาแล้วที่ยุโรปจำเป็นต้องเริ่มเข้ามาแบกรับภาระสัดส่วนขนาดใหญ่ของความช่วยเหลือที่มอบแก่ยูเครน และอเมริกาจะไม่ประจำการทหาร ในฐานะเครื่องรับประกันความมั่นคงภายใต้ข้อตกลงใดๆ

ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในวันพุธ (12 ก.พ.) บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศจากมหาอำนาจหลักๆ ในยุโรป ในนั้นรวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์และสหราชอาณาจักร บอกว่า "ยูเครนและยุโรปจำเป็นต้องเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา"

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น