ตำรวจเกาหลีใต้ในวันอังคาร (11 ก.พ.) อยู่ระหว่างสอบปากคำครูระดับประถมรายหนึ่ง ซึ่งว่ากันว่าก่อเหตุลงมือแทงเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เสียชีวิต ในเมืองเดจอน ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน
เหตุการณ์นี้ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการดูแลหลังเลิกเรียนเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) ได้สร้างความรู้สึกช็อกแก่ผู้คนทั่วประเทศ และกระตุ้นให้รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกคำสั่งให้ทบทวนมาตรฐานความปลอดภัยภายในโรงเรียน
รายงานข่าวระบุว่า ครูผู้หญิงซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย เข้ารับการรักษาทางการแพทย์จากบาดแผลทำร้ายตัวเอง ตามหลังการเสียชีวิตของเด็กผู้หญิงภายในห้องโสตทัศนูปกรณ์ ที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของโรงเรียน จากการเปิดเผยของ ยุค จอง มย็อง ผู้บังคับการสถานีตำรวจเขตตะวันตกของเมืองเดจอน
ผู้ต้องสัย ซึ่งมีอายุ 40 ปีเศษๆ ให้ปากคำกับตำรวจว่า เธอเพิ่งกลับมาทำงานเมื่อไม่นานที่ผ่านมา หลังลาพักด้วยเหตุผลทางสุขภาพ และเธอบอกกับตำรวจว่าตนเองเข้ารับการรักษาโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่ปี 2018
หลังจากได้รับแจ้งว่าเด็กชั้น ป.1 รายนี้ สูญหายไปตอนเวลา 17.15 น.ของวันจันทร์ (ตามเวลาท้องถิ่น) ตำรวจและครอบครัวเด็ก พากันออกตามหาหนูน้อยไปทั่วโรงเรียนและพื้นที่ข้างเคียง สุดท้ายแล้วยายของเธอเป็นคนพบตัวเด็กหญิงอยู่ภายในห้องโสตทัศนูปกรณ์ ตอนเวลา 17.50 น. จากนั้นก็รุดนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล แต่ไม่ทันการณ์ เธอได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว
ชเว ซาง-มก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งทำหน้าที่แทนประธานาธิบดียุน ช็อก-ยอล ที่ถูกถอดถอน เรียกร้องให้ดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียดในเหตุฆาตกรรมครั้งนี้ และออกคำสั่งให้พวกเจ้าหน้าที่ศึกษาธิการ นำมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นมาใช้ เพื่อรับประกันว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
พบเห็นชาวบ้านหลายคนนำดอกไม้และจดหมายแสดงความเสียใจ มาวางไว้บริเวณประตูโรงเรียน ซึ่งปิดการเรียนการสอนในวันอังคาร (11 ก.พ.)
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)