xs
xsm
sm
md
lg

'คิม จองอึน' เมิน 'ทรัมป์' แบะท่าขอ 'สานสัมพันธ์' ประกาศเดินหน้าเสริมเขี้ยวเล็บกองกำลังนิวเคลียร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาวิจารณ์ความร่วมมือทางทหาร 3 ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นว่าเป็นตัวการกระพือความตึงเครียดในภูมิภาค พร้อมประกาศกร้าวว่าโสมแดงจะมีมาตรการตอบโต้ ซึ่งรวมถึงการเสริมเขี้ยวเล็บกองกำลังนิวเคลียร์อย่างไม่หยุดยั้ง

รายงานของสำนักข่าว KCNA เมื่อวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) อ้างคำพูดของ คิม ซึ่งชี้ว่า การที่สหรัฐฯ ส่งทรัพย์สินนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เข้ามาในภูมิภาค ตลอดจนซ้อมรบและกระชับความร่วมมือทางทหารกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ส่งผลกระทบต่อดุลอำนาจในภูมิภาค และเป็นความท้าทายร้ายแรงต่อบรรยากาศในด้านความมั่นคง

"เกาหลีเหนือไม่ได้อยากให้สถานการณ์ในภูมิภาคตึงเครียดโดยไม่จำเป็น แต่เราก็จะใช้มาตรการตอบโต้อย่างต่อเนื่องเพื่อธำรงไว้ซึ่งดุลอำนาจทางทหารในภูมิภาค" คิม กล่าวระหว่างไปเยือนกระทรวงกลาโหมเมื่อวันเสาร์ (8) เนื่องในวันครบรอบการสถาปนากองทัพโสมแดง

ก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ แห่งญี่ปุ่นในวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ ภายใต้การนำของตนจะมีการ "สานสัมพันธ์" กับเกาหลีเหนือ พร้อมแสดงความกังวลร่วมกับผู้นำญี่ปุ่นเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของโสมแดง

ทรัมป์ ยังเอ่ยอ้างถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนกับ คิม จองอึน โดยทั้งสองเคยจัดประชุมซัมมิตถึง 2 ครั้งที่สิงคโปร์และเวียดนามในช่วงรัฐบาลทรัมป์เทอมหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม KCNA ระบุว่า ผู้นำโสมแดง "ได้ออกมาชี้แจงอีกครั้งถึงนโยบายอันหนักแน่นในการเดินหน้าพัฒนากองกำลังนิวเคลียร์"

ในประเด็นสงครามรัสเซีย-ยูเครน ผู้นำคิมกล่าวว่า "กองทัพและประชาชนชาวเกาหลีเหนือจะสนับสนุนและส่งเสริมมาตรการอันชอบธรรมของกองทัพและประชาชนชาวรัสเซียในการที่จะปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และบูรณภาพแห่งดินแดน โดยยึดมั่นในสปิริตแห่งข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย"

เดือนที่แล้ว เกาหลีใต้ออกมาตั้งข้อสงสัยว่าเกาหลีเหนืออาจเตรียมที่จะส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติมในรัสเซีย จากเดิมที่ส่งไปแล้วประมาณ 11,000 นายเพื่อสนับสนุนกองทัพหมีขาวในการทำสงครามรุกรานยูเครน

KCNA ยังได้เผยแพร่บทความแสดงความคิดเห็นในวันอาทิตย์ (9) โดยวิพากษ์วิจารณ์กิจกรรมทางทหารระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่าการกระทำอันก้าวร้าวจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์

ที่มา : รอยเตอร์
กำลังโหลดความคิดเห็น