ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมากางแผนที่ระบุตำแหน่งที่ตั้งของแหล่ง “แรร์เอิร์ธ” และแร่ธาตุสำคัญอื่นๆ ในดินแดนยูเครนระหว่างให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์เมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ.) โดยหวังใช้ข้อมูลเหล่านี้ดึงดูดใจประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้ยอมทำข้อตกลงปกป้องยูเครนจากการรุกรานของรัสเซีย
ทรัมป์ ซึ่งประกาศจะทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนปิดฉากลงอย่างรวดเร็ว ระบุเมื่อวันจันทร์ (3) ว่าเขาต้องการให้ยูเครนส่งแรร์เอิร์ธและแร่ธาตุอื่นๆ ให้สหรัฐฯ เพื่อแลกกับเงินช่วยเหลือทำสงครามต่อไป
“ถ้าเรากำลังพูดถึงข้อตกลง งั้นก็มาทำข้อตกลงกัน เราพร้อมอยู่แล้ว” เซเลนสกี กล่าว โดยย้ำว่ายูเครนจำเป็นต้องได้รับการค้ำประกันความมั่นคงจากชาติพันธมิตร หากจะมีข้อตกลงยุติสงครามเกิดขึ้นในอนาคต
รัฐบาลยูเครนเริ่มเสนอไอเดียให้ชาติพันธมิตรเข้าไปลงทุนสำรวจแหล่งแร่สำคัญตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ระหว่างที่ เซเลนสกี เสนอ “แผนแห่งชัยชนะ” ที่เขาเชื่อว่าจะทำให้เคียฟมีอำนาจต่อรองมากที่สุด และบีบให้มอสโกต้องยอมเข้าสู่โต๊ะเจรจา
เซเลนสกี กล่าวว่า ทรัพยากรแร่ธาตุของยูเครนเกือบ 20% ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นแรร์เอิร์ธ อยู่ในดินแดนซึ่งปัจจุบันถูกยึดครองโดยรัสเซีย
แรร์เอิร์ธเป็นกลุ่มแร่ธาตุหายากซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กแรงสูง (high performance magnets) มอเตอร์ไฟฟ้า เรื่อยไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และ เซเลนสกี เตือนว่ารัสเซียอาจจะนำเอาทรัพยากรเหล่านั้นไปมอบให้ชาติศัตรูของสหรัฐฯ อย่าง “เกาหลีเหนือ” และ “อิหร่าน” ก็เป็นได้
“เราจำเป็นต้องหยุดปูติน และปกป้องทรัพยากรที่เรามีอยู่ในภูมิภาคอันรุ่มรวยอย่างดนีโปร (Dnipro) ทางตอนกลางของยูเครน” เขากล่าว
กองทัพรัสเซียรุกคืบยึดดินแดนทางตะวันออกของยูเครนได้มากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในขณะยูเครนเผชิญปัญหาขาดแคลนกำลังพล และเริ่มโอดครวญถึงอนาคตว่าจะยังได้รับอาวุธจากตะวันตกอยู่อีกหรือไม่
แผนที่ที่ เซเลนสกี เอามากางบนโต๊ะในสำนักงานประธานาธิบดีที่กรุงเคียฟแสดงให้เห็นแหล่งแร่ธาตุต่างๆ ในยูเครน รวมถึงในดินแดนฝั่งตะวันออกที่ถูกระบุว่ามีแรร์เอิร์ธอยู่ ซึ่งปัจจุบันครึ่งหนึ่งอยู่หลังเส้นแนวรบในฝั่งของรัสเซีย
เซเลนสกี อ้างว่ายูเครนมี “ไทเทเนียม” สำรองมากที่สุดในยุโรป โดยไทเทเนียมนั้นเป็นแร่ธาตุที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ รวมถึงสามารถนำใช้ประโยชน์ในด้านพลังงานนิวเคลียร์และอาวุธด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งไทเทเนียมส่วนใหญ่ถูกระบุว่าอยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของยูเครน ซึ่งยังห่างไกลจากแนวรบมาก
แม้รัฐบาลยูเครนจะพยายามปรับจูนนโยบายต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของคณะบริหารชุดใหม่ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของเคียฟ แต่ เซเลนสกี ยืนยันว่า เขาไม่ได้เสนอยกทรัพยากรให้อเมริกาฟรีๆ แต่แสวงหา “การเป็นหุ้นส่วน” เพื่อเข้ามาพัฒนาทรัพยากรเหล่านี้ร่วมกัน
“ชาวอเมริกันช่วยเหลือเรามากที่สุด ดังนั้นพวกเขาก็ควรจะได้รับประโยชน์กลับไปมากที่สุด พวกเขาจะได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรก และผมเองก็อยากจะพูดเรื่องนี้กับประธานาธิบดีทรัมป์” เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์
ผู้นำยูเครนยังบอกด้วยว่า รัสเซียรู้รายละเอียดหมดว่าแหล่งทรัพยากรในยูเครนตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง จากผลการสำรวจทางธรณีวิทยาในยุคสหภาพโซเวียตซึ่งถูกนำกลับไปยังมอสโกตอนที่เคียฟประกาศเอกราชในปี 1991
นอกจากนี้ เซเลนสกี ยังเผยว่าเคียฟและทำเนียบขาวกำลังหารือแนวคิดที่จะใช้สถานที่กักเก็บก๊าซใต้ดินของยูเครนเพื่อเก็บก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐฯ
“ผมทราบว่ารัฐบาล ทรัมป์ สนใจเรื่องนี้มาก เราพร้อมและเต็มใจที่จะทำสัญญาส่ง LNG มายังยูเครน และแน่นอนว่าเราพร้อมจะเป็นศูนย์กลางสำหรับภูมิภาคยุโรปทั้งหมด”
ทรัมป์ แถลงในวันศุกร์ (7) ว่าอาจจะพบกับ เซเลนสกี ภายในสัปดาห์หน้าเพื่อหารือแนวทางขับไล่ทหารรัสเซียออกไปจากยูเครน แต่ไม่ได้บอกว่าจะเป็นการหารือซึ่งหน้า หรือคุยทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
ที่มา : รอยเตอร์