เอเจนซีส์ - สำนักข่าวกรองลับเกาหลีใต้ยืนยัน ไม่เห็นทหารเกาหลีเหนือปรากฏในสนามรบที่คูร์สไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดรัสเซียอาจถอนออกไปหลังสูญเสียหนัก ขณะที่เคียฟเปิดกว้างพร้อมเจรจาโดยตรงกับเกาหลีใต้ในการส่งตัว 2 เชลยทหารเกาหลีเหนือ
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันศุกร์ (7 ก.พ.) ว่า สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ NIS National Intelligence Service) ในกรุงโซลสัปดาห์นี้ออกมายืนยันการรายงานของสื่อที่ว่ากองกำลังเกาหลีเหนือถูกถอนพ้นจากแนวหน้าช่วงกลางเดือนมกราคม
การเข้ามาเกี่ยวข้องสงรามยูเครนของเปียงยางกลับต้องจ่ายราคาแพง เจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับในเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เชื่อว่ามีทหารเกาหลีเหนือร่วม 300 นายถูกสังหารและอีก 2,700 นายได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ มกราคมที่ผ่านมาประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้โพสต์คลิปเชลยสงครามเกาหลีเหนือ 2 นายที่ยูเครนจับตัวไว้ได้ โดย 1 คนจากจำนวนทั้งหมดอ้างว่า ผู้บัญชาการของพวกเขาได้บอกกับทหารเกาหลีเหนือว่า “จะส่งไปซ้อมรบ”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองลับเกาหลีใต้อ้างว่า ได้พบโน้ตข้อความในศพทหารเปียงยางที่ชี้ว่า เปียงยางต้องการให้ทหารเหล่านั้นฆ่าตัวตายมากกว่าที่จะยอมถูกจับเป็นเชลย
ซึ่งการเข้าร่วมกองกำลังเกาหลีเหนือส่งผลทำให้มีความวิตกว่า สงครามที่กำลังดำเนินอยู่อาจเป็นอันตรายต่อฝ่ายยูเครนท่ามกลางการอ้างออกมาจากเจ้าหน้าที่การทหารในกรุงโซลว่า เปียงยางกำลังเตรียมการที่จะส่งกำลังทหารไปรัสเซียเพิ่ม
สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ NIS แถลงว่า การสูญเสียจำนวนมากเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่จะถอนทหารเกาหลีเหนือออกไปจากสนามรบในแคว้นคูร์สค์ (Kursk) ที่ยูเครนเปิดฉากรุกอย่างไม่คาดฝันเมื่อสิงหาคมปีที่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญ เซธ โจนส์ (Seth Jones) ประจำศูนย์ธิงแทงก์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ศูนย์ด้านยุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ CSIS (Center for Strategic and International Studies) ออกมาประเมินสัปดาห์นี้ว่า น่าจะมีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตหรือบาดเจ็บราว 50% ของจำนวนทั้งหมดที่ส่งไปรบให้รัสเซีย
โคเรียไทม์สของเกาหลีใต้รายงานวันพฤหัสบดี (6) ว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี เปิดกว้างเพื่อการหารือร่วมกับโซลถึงการส่งตัวเชลยศึกเกาหลีเหนือ 2 นายที่อยู่ในการควบคุมของเคียฟไปยังเกาหลีใต้ อ้างอิงจากเอกอัครราชทูตยูเครนประจำเกาหลีใต้ ดมิโตร โปโนมาเรนโก (Dmytro Ponomarenko)
ขณะที่เคียฟยังไม่ได้เริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการกับโซล เอกอัครราชทูตยูเครนชี้ว่า เคียฟมีความปรารถนาต้องการร่วมมือในการส่งทหารเกาหลีเหนือกลับไปหากว่าพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับไปประเทศบ้านเกิด
ไม่นานหลังทหารเปียงยางทั้ง 2 นายโดนเคียฟจับ กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้ได้แถลงว่าจะหารือกับเจ้าหน้าที่ยูเครนถึงความเป็นไปได้ที่จะนำทหารเหล่านี้มาที่เกาหลีใต้หากว่าทหารเกาหลีเหนือมีความปรารถนาเช่นนั้น
โดยภาพการสอบปากคำทหารทั้งสองถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนได้โพสต์เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าทั้งสองอ้างว่าในครั้งแรกไม่รู้ว่าตัวเองถูกส่งไปยังสมรภูมิรบจริง แต่เชื่อว่าคนทั้งสองกำลังเข้าร่วมการซ้อมรบ
ระหว่างการสอบปากคำพบว่า หนึ่งในทหารเกาหลีเหนือให้การว่า ประจำอยู่ในหน่วยสอดแนมมาตั้งแต่เข้าร่วมกองทัพมาตั้งแต่อายุ 17 ปี