ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ลงนามในคำสั่งบริหารกำหนดมาตรการคว่ำบาตรศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) โทษฐานสืบสวน "โดยไม่มีมูลความจริง" ล็อกเป้าเล่นงานอเมริกาและพันธมิตรใกล้ชิดอย่างอิสราเอล จากการเปิดเผยของทำเนียบขาว
คำสั่งของทรัมป์ ระบุว่าศาลในเมืองเฮกแห่งนี้ ใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยการออกหมายจับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ผู้ซึ่งพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.)
ในคำสั่งยังระบุด้วยว่า ศาลอาญาระหว่างประเทศ "ง่วนอยู่กับการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีมูลความจริง ล็อกเป้าเล่นงานอเมริกาและพันธมิตรใกล้ชิดของเรา อิสราเอล" อ้างถึงกรณีที่ไอซีซีตรวจสอบคำกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม โดยกำลังพลสหรัฐฯ ในอัฟกานิสภานและทหารอิสราเอลในกาซา
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์และห้ามการเดินทางพวกเจ้าหน้าที่ไอซีซี ลูกจ้างหรือสมาชิกในครอบครัวของพวกเขา เช่นเดียวกับใครก็ตามที่เล็งเห็นว่ามีส่วนช่วยในการสืบสวนของศาลแห่งนี้
มาตรการคว่ำบาตรนี้แสดงให้เห็นถึงจุดยืนของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนอิสราเอลอย่างแข็งขัน หลังจาก เนทันยาฮู เพิ่งเดินทางเยือนทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ซึ่งระหว่างนั้น ทรัมป์ ได้เปิดเผยแผนการหนึ่งที่สหรัฐฯ จะเข้าควบคุมฉนวนกาซาและโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ไปยังประเทศอื่นในตะวันออกกลาง
ทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลต่างก็ไม่ได้เป็นรัฐสมาชิกของศาลอาญาระหว่างประเทศ ในขณะที่ทางไอซีซียังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์
ไอซีซี ออกหมายจับ เนทันยาฮู รวมไปถึง โยอาฟ แลแลนด์ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล และโมฮัมเมด เดอีฟ ผู้บัญชาการทหารของฮามาส ที่เวลานี้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน
หมายจับดังกล่าวเป็นการอนุมัติตามคำขอที่ยื่นโดย คาริม ข่าน อัยการไอซีซี เมื่อเดือนพฤษภาคม สำหรับ "อาญากรรมต่างๆ ที่ก่อกับมนุษย์และอาชญากรรมสงครามที่ก่อขึ้นในช่วงเวลาอย่างน้อยวันที่ 8 ตุลาคม 2023 จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2024"
ครั้งดำรงตำแหน่งประธนาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์เคยกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินและแบนวีซ่า ฟาตู เบนซูดา อัยการของไอซีซี ณ ขณะนั้น รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ของศาลแห่งนี้ในปี 2020
ทรัมป์ ให้คำจำกัดความศาลไอซีซีว่าเป็น "ศาลเถื่อน" และรัฐบาล ณ ขณะนั้นของเขา เคลื่อนไหวคว่ำบาตรและแบนวีซ่าดังกล่าว หลังจาก เบนซูดา ที่เกิดในแกมเบีย เปิดการสืบสวนเล่นงานกำลังพลของสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน ตามคำกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงคราม
แม้ในคำสั่งครั้งนั้นของเขาไม่ได้เอ่ยชื่ออิสราเอล แต่พวกเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลทรัมป์ ณ ขณะนั้น บอกว่าพวกเขารู้สึกขุ่นเคืองเช่นกัน ต่อกรณีที่ เบนซูดา เปิดการสืบสวนสถานการณ์ในดินแดนของชาวปาเลสไตน์ในปี 2019
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเหล่านั้น ไม่นานหลังเข้ารับตำแหน่งในปี 2021 ผลก็คืออัยการข่าน ถอดสหรัฐฯ ออกจากการสืบสวนในประเด็นอัฟกานิสถาน แล้วหันไปเล็งเป้าเล่นงานตอลิบานแทน
ในเดือนพฤศจิกายน ไบเดน ประณามอย่างดุเดือดเช่นกัน ต่อการออกหมายจับเนทันยาฮู
ขณะเดียวกัน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว ได้ผ่านร่างกฎหมายหนึ่งสำหรับคว่ำบาตรไอซีซี แต่วุฒิสมาชิกจากเดโมแครตขัดขวางมันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยบอกว่าร่างกฎหมายนี้อาจก่อไฟย้อนศรเล่นงานบรรดาพันธมิตรและเหล่าบริษัทของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ในกรณีออกหมายจับเนทันยาฮุ สมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงความกระตือรือร้นสนับสนุนเล่นงานศาลอาญาระหว่างประเทศเช่นกัน
(ที่มา : เอเอฟพี)