มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ออกมาตอบโต้ประเทศต่างๆ ที่ประณามความเห็นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับฉนวนกาซา เหน็บแนมชาติเหล่านั้นให้ก้าวออกมาแล้วช่วยเหลือดินแดนปาเลสไตน์ที่พังราบเป็นหน้ากลองด้วยตนเอง
บรรดาชาติอาหรับและพวกผู้นำปาเลสไตน์ ส่งเสียงคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อคำชี้แนะของทรัมป์ เกี่ยวกับการโยกย้ายพลเรือนมากกว่า 2 ล้านคนออจากกาซา ตามหลังสงครามทำลายล้าง อย่างไรก็ตาม รูบิโอ ยืนยันอีกครั้งว่าความเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น เป็นข้อเสนอแห่งการบูรณะฟื้นฟู เนื่องจากเวลานี้ กาซา ไม่สามารถอยู่อาศัยได้
เขากล่าวว่าความเห็นอันเป็นที่ถกเถียงของทรัมป์ มีเป้าหมายบางส่วนคือกระตุ้นให้ประเทศอื่นๆ "ที่มีทั้งศักยภาพทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี" เข้าช่วยเหลือบูรณะฟื้นฟูฉนวนกาซาเช่นกัน "ข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์ อยู่ในและเป็นส่วนหนึ่งของทางออกนั้น" รูบิโอ ให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐโดมินิกัน
"ถ้าประเทศอื่นๆ บางชาติมีความตั้งใจก้าวออกมาและดำเนินการด้วยตนเอง มันจะเป็นเรื่องยอดเยี่ยม แต่ดูเหมือนไม่มีใครเร่งรีบก้าวออกมาทำเรื่องนั้น" เขากล่าว "มีหลายประเทศในภูมิภาคที่แสดงความกังวลมากกว่าเกี่ยวกับประชาชนชาวปาเลสไตน์ เราสนับสนุนให้พวกเขาก้าวออกมา และหาทางแก้ไขปัญหาและหาคำตอบของปัญหาของพวกเขา"
คำกล่าวของรูบิโอ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เน้นย้ำอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) เกี่ยวกับแผนที่เสนอให้อิสราเอลส่งมอบฉนวนกาซาแก่สหรัฐฯ ครั้งที่ความขัดแย้งสิ้นสุดลง และบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องส่งทหารอเมริกาเข้าควบคุมหรือมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพัฒนาหลังจากนั้น
ทรัมป์ เน้นย้ำแผนที่สร้างความตกตะลึงที่เขาเปิดเผยออกมาครั้งแรกเมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.) เกี่ยวกับการโยกย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2 ล้านคน จากฉนวนกาซาไปยังที่ไหนสักแห่งในตะวันออกกลาง "ฉนวนกาซาจะถูกส่งมอบแก่สหรัฐฯ โดยอิสราเอล หลังการสู้รบสิ้นสุดลง" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีทหารของสหรัฐฯ เสถียรภาพจะครอบงำทั่วภูมิภาค"
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่ทั่วโลก ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ผู้มาเยือน เมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่าอเมริกาจะเข้ายึดฉนวนกาซา "สหรัฐฯ จะยึดฉนวนกาซาและเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย เราจะเป็นเจ้าของมัน" เขากล่าว และบอกว่าอเมริกาจะดำเนินการรื้อถอนระเบิดที่ไม่ทำงานและเศษซากหักพังต่างๆ รวมถึงฟื้นฟูฉนวนที่ถูกสงครามฉีกขาดเป็นชิ้นๆ แห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อย และรัฐบาลของเขาดูเหมือนจะกลับลำท่าทีดังกล่าวในวันพุธ (5 ก.พ.) หลังมันถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นชุดๆ จากชาวปาเลสไตน์ บรรดารัฐบาลชาติอาหรับและเหล่าผู้นำโลก
รูบิโอ บอกว่าแนวคิดนี้ "ไม่ได้มีเจตนาสร้างความเป็นปรปักษ์" ในขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่าไม่มีพันธสัญญาจะส่งทหารสหรัฐฯ เข้าไปประจำการ และการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ใดๆ จะเป็นเพียงแค่ "ชั่วคราว"
แต่กระนั้นประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน ในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ยังคงแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการเดินหน้าแผนนี้ต่อไป ในขณะที่แผนเดิมที่แถลงออกมาในเบื้องต้นนั้น รวมไปถึงการโยกย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์จำนวนมาก
ทรัมป์ กล่าวในตอนนั้นว่า ด้วยแผนของเขาเกี่ยวกับการส่งมอบฉนวนกาซาแก่สหรัฐฯ โดยอิสราเอล ชาวปาเลสไตน์จะถูกโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในชุมชนที่ปลอดภัยและสวยงามกว่าเดิม อีกทั้งได้อยู่ในบ้านใหม่ๆ และทันสมัยในภูมิภาค "พวกเขาจะมีโอกาสอย่างแท้จริงที่จะพบกับความสุขและเป็นอิสระ"
"สหรัฐฯ ภายใต้การทำงานร่วมกับทีมพัฒนาที่ยอดเยี่ยมจากทั่วทุกมุมโลก จะเริ่มต้นการบูรณะฟื้นฟูอย่างช้าๆ และระมัดระวัง ในสิ่งที่จะกลายมาเป็นหนึ่งในการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมที่สุดและน่าตื่นตะลึงที่สุดในโลกใบนี้" ทรัมป์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ในวันอังคาร (4 ก.พ.) ส่งสัญญาณที่ผสมผสานว่าตามแผนของเขานั้น ใครกันจะเป็นผู้อยู่อาศัยในฉนวนกาซาในยุคหลังสงคราม โดยเขาบอกเพียงว่า "จะเป็นประชาชนของโลก แต่จะมีชาวปาเลสไตน์ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน"
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ว่า ทรัมป์ ได้สร้างความประหลาดใจแก่คณะทำงานของเขาเองและฝ่ายอิสราเอล ด้วยแผนสำหรับกาซาที่เขียนขึ้นมาด้วยความเร่งรีบ ไม่ได้มีการพูดคุยหารือกับเพนตากอนหรือกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาก่อน
ในส่วนของกระทรวงกลาโหมอิสราเอล รับลูกด้วยการออกคำสั่งในวันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) ให้กองทัพเตรียมพร้อมพาผู้สมัครใจเดินทางออกจากกาซา ตามหลังความคิดเห็นของทรัมป์
(ที่มา : เอเอฟพี)