xs
xsm
sm
md
lg

ขีดเส้นตาย! ‘ทรัมป์-มัสก์’ บีบ จนท.รัฐบาลกลางสหรัฐฯ 2 ล้านคนเลือกเอา รับข้อเสนอจ้างออก หรือไม่ก็ถูกปลดทันทีไม่มีชดเชย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้คนที่ไปประท้วงชูป้ายโจมตี อีลอน มัสก์ เป็นทำตัวเป็นจอมเผด็จการทั้งที่ไม่ได้ผ่านการเลือกตั้ง ระหว่างการชุมนุมซึ่งเกิดขึ้นที่ด้านนอกของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.)
คณะบริหารประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขีดเส้นตายภายในวันพฤหัสฯ (6 ก.พ.) ให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นลูกจ้างภาครัฐ 2 ล้านคน เลือกเอาระหว่างลาออกและรับเงินชดเชย 8 เดือน หรือไม่ก็เสี่ยงถูกปลดออกทันทีโดยไม่ได้อะไรเลย ทั้งนี้ในผู้ที่เจอข้อเสนอเช่นนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ซีไอเอและหน่วยงานข่าวกรองสำคัญอีกอย่างน้อย 4 แห่ง ก่อให้เกิดความกังวลว่า หน่วยงานที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของชาติเหล่านั้นอาจสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ รวมทั้งอาจถูกแทนที่ด้วยกลุ่มคนซึ่งเน้นหนักการันตีเรื่องจงรักภักดีทรัมป์

มีรายงานว่าทางสหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของพวกเจ้าหน้าที่ลูกจ้างภาครัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากอาจเป็นการดำเนินการอย่างผิดกฎหมายถึงแม้ได้รับการรับรองจากคณะบริหารทรัมป์ก็ตาม นอกจากนั้นพวกเขาได้ยื่นฟ้องศาลให้ระงับข้อเสนอดังกล่าว โดยศาลมีกำหนดพิจารณารับฟังการให้การในเวลา 13.00 น. วันพฤหัสฯ

ขณะที่จากข้อมูลของพวกแหล่งข่าวในทำเนียบขาวระบุว่า มีผู้รับข้อเสนอแล้วอย่างน้อย 40,000 คน หรือ 2% ของเจ้าหน้าที่ลูกจ้างรัฐบาลรวมทั้งสิ้น 2.3 ล้านคน โดยที่เป้าหมายของการดำเนินการคราวนี้คือ การปลดเจ้าหน้าที่ 100,000 คนเพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล 100,000 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแต่งตั้งอภิมหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดของโลก อีลอน มัสก์ ซึ่งได้บริจาคทางการเมืองก้อนโตช่วยเหลือการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์ และกลายเป็นคนสนิทไว้วางใจของประมุขทำเนียบขาวผู้นี้ ให้เป็นผู้นำการปรับโครงสร้างรัฐบาลครั้งมโหฬารครั้งนี้ ท่ามกลางการประท้วงและการกล่าวหาจากพรรคเดโมแครตว่า มัสก์ กำลังเข้าเทกโอเวอร์รัฐบาล

มัสก์ ซึ่งทรัมป์แต่งตั้งให้เป็นผู้รับผิดชอบหน่วยงานไม่เป็นทางการ ที่ใช้ชื่อว่า “กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล” (DOGE) ประกาศว่า นี่คือโอกาสที่เจ้าหน้าที่รัฐจะได้ไปท่องเที่ยวตากอากาศ หรือแค่นอนเล่นดูทีวีอยู่ที่บ้านโดยได้รับเงินเดือนและสวัสดิการเต็มจำนวน

แต่ในความเป็นจริง เจ้าหน้าที่ซึ่งตกลงลาออก อาจยังต้องทำงานตลอดระยะเวลา 8 เดือน ส่วนคนที่ไม่ยอมลาออกภายในวันพฤหัสฯ อาจถูกไล่ออกทันทีโดยไม่ได้รับเงินชดเชย

เอเวอเรตต์ เคลลี ประธานของสหภาพแรงงานภาครัฐ ที่มีชื่อว่า สหพันธ์ลูกจ้างรัฐบาลอเมริกัน (เอเอฟจีอี) ประกาศว่า สมาชิกสหภาพไม่ควรเชื่อคำพูดสวยหรูของมหาเศรษฐีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ตลอดจนบริวารของมหาเศรษฐีเหล่านั้น ซึ่งมุ่งหมายถึงมัสก์

เคลลีสำทับว่า แผนการลาออกดังกล่าวจริงๆ แล้ว ไม่มีเงินรองรับสนับสนุน ไม่มีข้อรับรองทางกฎหมาย และไม่มีหลักประกันใดๆ

เอเอฟจีอีซึ่งเป็นสหภาพแรงงานลูกจ้างภาครัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา โดยเป็นตัวแทนของเจ้าหน้าที่ 800,000 คน ยังเป็นแกนนำยื่นฟ้องร้องศาลสหรัฐฯ ในรัฐแมสซาชูเสตส์ ขอให้สั่งระงับการยื่นคำขาดฝ่ายเดียวอย่างผิดกฎหมายเช่นนี้ของรัฐบาล

ขณะที่รอยเตอร์ระบุว่า เป้าหมายใหญ่สุดในการปรับโครงสร้างของมัสก์เวลานี้ คือ องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเอสเอด) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือในต่างประเทศปีละเกือบ 50,000 ล้านดอลลาร์และว่าจ้างเจ้าหน้าที่ 4,675 คน แต่ก็ทำท่าขยายครอบคลุมถึงหน่วยงานอื่นๆ ด้วย เป็นต้นว่า เมื่อวันอังคาร (4) ทรัมป์ออกปากว่า ต้องการยุบกระทรวงศึกษาธิการที่ว่าจ้างบุคลากรภาครัฐ 4,245 คน

นอกจากนั้น ยังมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอจ้างออกกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านข่าวกรองอีกอย่างน้อย 4 แห่ง นอกเหนือจากสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยหน่วยงานอีก 4 แห่งเหล่านี้ ได้แก่ สำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานข่าวกรองภูมิสารสนเทศแห่งชาติ และสำนักงานลาดตระเวนแห่งชาติ

ก่อนหน้านี้ คือ เมื่อวันอังคาร (4) ซีไอเอเผยว่า พวกเจ้าหน้าที่ของทางสำนักงานได้รับข้อเสนอจ้างออก ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับคำมั่นของผู้อำนวยการคนใหม่คือ จอห์น แรตคลิฟฟ์ ที่เคยประกาศระหว่างการพิจารณารับรองของวุฒิสภาเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่า จะไม่ปลดหรือบีบเจ้าหน้าที่ซีไอเอออกด้วยมุมมองทางการเมืองหรือความคิดเห็นเกี่ยวกับทรัมป์ ทว่าก็ต้องมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

ความเคลื่อนไหวนี้ทำให้อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองบางคนกังวลว่า หน่วยงานด้านข่าวกรองจะสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์สูง และบ่อนทำลายศักยภาพในการรวบรวมและวิเคราะห์ข่าวกรอง

อดีตเจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังแสดงความกังวลเช่นเดียวกับสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งลาออกอาจถูกแทนที่ด้วยกลุ่มคนที่จงรักภักดีและพร้อมดำเนินการด้านข่าวกรองเพื่อตอบสนองมุมมองและนโยบายของทรัมป์

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น