เอเอฟพี/MGRออนไลน์ - ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง วันพฤหัสบดี (6 ก.พ.) แสดงความยินดีกับผู้นำไทย แพทองธาร ชินวัตร ที่ออกมาตรการแข็งกร้าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์เถื่อนและการพนันออนไลน์จากพม่าลักพาคนจีนหลอกไปทำงานเหมือนดาราจีน หวังซิง โดนบังคับทำงานในคอลเซ็นเตอร์เถื่อนที่พม่า ต้องฝึกพิมพ์ดีด โดนโกนศีรษะเชื่อถูกสั่งให้หลอกคนจีนด้วยกัน
เอเอฟพีรายงานวันนี้ (6 ก.พ.) ว่า ผู้นำจีนได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร ในวันพฤหัสบดี (6) ระหว่างการหารือร่วมกันที่กรุงปักกิ่ง
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้แสดงความขอบคุณผู้นำไทยต่อมาตรการแข็งกร้าวในการต่อต้านศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์จากพม่าที่มีเป้าหมายไปที่ชาวจีน
จีนถือเป็นตลาดสำคัญสำหรับไทยในการฟื้นภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยใหม่หลังจากวิกฤตโควิด-19
แต่ทว่ามีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากรู้สึกตกใจจากรายงานที่ออกมาว่ามีนักท่องเที่ยวจีนถูกลักพาตัวไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พม่า
โดยคดีที่ดังไปทั่วโลกคือ คดีนักแสดงจีน หวังซิง หรือซิงซิง บินเข้าไทยโดยโดนหลอกว่าจะทำงานให้บริษัทบันเทิงชื่อดังไทยแต่เมื่อนั่งแท็กซี่และผ่านข้ามแดนไปที่พม่า กลับถูกส่งให้ไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พบต้องฝึกพิมพ์ดีด โดนโกนศีรษะ ตำรวจไทยน่าจะเชื่อถูกสั่งให้หลอกคนจีนด้วยกัน
เอเอฟพีรายงานว่า ในขณะที่หารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีไทย ประธานาธิบดีสีกล่าวว่า
“จีนรู้สึกซาบซึ้งต่อมาตรการแข็งกร้าวที่ออกโดนไทยเพื่อต่อสู้การพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการหลอกออนไลน์” CCTV สื่อทางการจีนรายงาน
และเสริมว่า “ทั้งสองฝ่ายต้องเดินหน้ากระชับความร่วมมือทางความมั่นคง การบังคับใช้ทางกฎหมายและความร่วมมือทางกระบวนการทางยุติธรรม เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและทรัพย์สิน”
ทั้งนี้ ทางการไทยวันพุธ (5) สั่งตัดไฟ 5 พื้นที่ในพม่าที่เชื่อว่าศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งอยู่ โดยไทยได้กล่าวถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทาเหล่านี้ว่า เป็นปัญหาทางความมั่นคงของไทย
สื่อในไทยรายงานวันนี้ (6) ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานเปิดปฏิบัติการสับสวิตช์ไฟไปยังชายแดนไทย-พม่า ด้วยระบบสั่งการอัตโนมัติควบคุมระยะไกล หลัง สมช.มีมติให้งดจ่ายไฟเพราะเชื่อมโยงสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวม 5 จุด ทันที
เป็นการตัดไฟรวม 20.37 เมกะวัตต์ รายได้ต่อเดือน 50 ล้านบาท ต่อปี 600 ล้านบาท แต่ปรากฏในหลายพื้นที่ที่เป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์บริเวณริมแม่น้ำเมย เมืองเมียวดี พม่ายังสามารถดำเนินธุรกิจต้มตุ๋นหลอกลวงต่อไปได้
แต่ทว่าดูเหมือนการตัดไฟฟ้าจากทางการไทยจะทำอะไรแก๊ํงคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้เพราะ สื่อไทยรายงานว่าตั้งแต่มีข่าวไทยจะตัดไฟฟ้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้สั่งตุนน้ำมันจำนวนมากและซื้อเครื่องปั่นไฟสำรองไว้เรียบร้อยแล้ว
เอเอฟพีรายงานว่า ศูนย์คอลเซ็นเตอร์เถื่อนเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดในพม่าที่กำลังเกิดสงครามกลางเมืองและมีแก๊งผิดกฎหมายที่ในไทยเรียกว่า แก๊งจีนเทาเป็นคนคุม โดยศูนย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ใช้ชาวต่างชาติที่หลอกมาเป็นเจ้าหน้าที่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เอเอฟพีเคยรายงานก่อนหน้าว่า กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกที่แม้แต่นายกรัฐมนตรีไทยคนปัจจุบันยังเคยตกเป็นเหยื่อเกือบหลงกลมาแล้วเมื่อเดือนที่แล้ว
โดยปลอมเสียงเป็นผู้นำเพื่อนบ้านให้โอนเงินบริจาคเข้าบัญชีธนาคารต่างแดนแต่ไหวตัวทันพร้อมออกมาเตือนสังคมให้ระวังตัว ซึ่งในกรณีของดาราชายชาวจีน
พบว่าไทยต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบทางการท่องเที่ยวจากข่าวหวังซิงโดนหลอกข้ามแดนไปทำงาน เพราะเมื่อวันหยุดตรุษจีนล่าสุดพบมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยลดลงไปอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนๆ หน้าที่อาจสื่อให้เห็นว่า ประเทศไทยไม่ปลอดภัยอีกต่อไป