นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ออกมากล่าวชื่นชมแนวความคิดของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เสนอให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา ระบุ “ไม่มีอะไรผิดตรงไหน” แม้ถูกประชาคมโลกวิจารณ์อื้ออึงก็ตาม
องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนประณามข้อเสนอของ ทรัมป์ ว่าเป็นการล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) หลังบอกให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาแบบ “ถาวร” แถมยังเปรยว่าสหรัฐฯ อยากจะยึดครองกาซาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจด้วย
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อ Fox News เมื่อวานนี้ (5 ก.พ.) เนทันยาฮู ไม่ได้เอ่ยตรงๆ ถึงแนวคิดของ ทรัมป์ ในการให้สหรัฐฯ เข้ายึดครองกาซา แต่สนับสนุน “การเปิดทางให้ชาวกาซาที่ต้องการย้ายออกไปสามารถกระทำได้”
ผู้นำยิวยังตั้งคำถามด้วยว่า “ผมหมายถึงว่า มันมีอะไรผิดตรงไหนหรือ? พวกเขาสามารถออกมาได้ จากนั้นก็กลับเข้าไปได้ พวกเขาอาจจะย้ายที่อยู่ใหม่แล้วค่อยกลับเข้าไป แต่ยังไงคุณจำเป็นต้องฟื้นฟูกาซา”
เนทันยาฮู กล่าวด้วยว่า เขาไม่คิดว่า ทรัมป์ มีแนวคิดที่จะส่งทหารอเมริกันเข้าไปต่อสู้กับฮามาสในกาซา และไม่เชื่อว่าวอชิงตันจะให้ทุนสนับสนุนฟื้นฟูกาซาด้วย
“นี่คือแนวคิดดีๆ อย่างแรกที่ผมได้ยินมาเลย... มันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม และผมคิดว่าน่าจะนำไปปฏิบัติ ทดลองปฏิบัติเพื่อให้ได้ผลจริง เพราะผมคิดว่ามันจะช่วยสร้างอนาคตที่เปลี่ยนไปสำหรับทุกคน” เนทันยาฮู กล่าว
ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.เป็นต้นมา ทรัมป์ ออกมาพูดย้ำเรื่องการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ในกาซาออกไปยังประเทศอาหรับอื่นๆ เช่น อียิปต์และจอร์แดน แต่ก็ถูกทั้งบรรดาชาติอาหรับและผู้นำปาเลสไตน์ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
พวกผู้ช่วย ทรัมป์ ต่างออกมาปกป้องข้อเสนอนี้ แต่ก็ส่งสัญญาณล่าถอยจากรายละเอียดบางอย่างหลังถูกนานาชาติประณามอย่างรุนแรง
ปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซาซึ่งเวลานี้ถูกยับยั้งไว้ด้วยข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปมากกว่า 47,000 คนในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา และทำให้หลายฝ่ายออกมาตราหน้าอิสราเอลว่ากำลัง “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และ “ก่ออาชญากรรมสงคราม” ซึ่งทางการอิสราเอลไม่เคยยอมรับ
ภัยสงครามยังทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านชีวิตต้องพลัดถิ่นที่อยู่ในดินแดนตัวเอง และก่อให้เกิดวิกฤตความหิวโหย
เหตุนองเลือดครั้งล่าสุดในความขัดแย้งยิว-ปาเลสไตน์ที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปี 2023 เมื่อกลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอลและสังหารผู้คนไปประมาณ 1,200 คน รวมถึงจับคนอิสราเอลและต่างชาติกลับไปเป็นตัวประกันในกาซาอีกราว 250 คน
ที่มา : รอยเตอร์