xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันลง-ทองขึ้นไม่หยุดกังวลสงครามการค้า หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกจากแรงหนุนกลุ่มเอไอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ราคาน้ำมันขยับลงมากกว่า 2% ในวันพุธ (5 ก.พ.) จากข้อมูลคลังปิโตรเลียมสำรองของสหรัฐฯ และสัญญาณอุปสงค์อ่อนแอ ท่ามกลางแนวโน้มสงครามการค้าระหว่างอเมริกากับจีน ปัจจัยนี้กระตุ้นให้ทองคำเดินหน้าทุบสถิติ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มเอไอ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดที่ 71.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานในวันพุธ (5 ก.พ.) พบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในโรงกลั่นทั้งหลายต้องเผชิญกับอุปสงค์เบนซินที่อ่อนแอ

นอกจากนี้ ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ชาติผู้นำเข้าพลังงานรายใหญ่ ซึ่งปัจจัยนี้เป็นตัวกดดันราคาเช่นกัน หลังจากจีนเมื่อวันอังคาร (4 ก.พ.) กำหนดมาตรการรีดภาษีน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว และถ่านหินที่นำเข้าจากอเมริกา ตอบโต้ที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน

ข้อวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ (5 ก.พ.) โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 0.23% ปิดที่ 2,860.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันพุธ (5 ก.พ.) จากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ นักลงทุนเมินรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังของอัลฟาเบ็ทและชั่งน้ำหนักเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 317.24 จุด (0.71 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 44,873.28 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 23.60 จุด (0.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,061.48 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 38.31 จุด (0.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,692.33 จุด

หุ้นของอัลฟาเบ็ท บริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 7.3% หลังจากเผยแพร่รายงานมีรายได้จากธุรกิจคลาวด์ การเติบโตต่ำกว่าคาดหมายในวันอังคาร (4 ก.พ.) และประกาศการลงทุนเพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) 75,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของกลุ่มกลุ่มเอไอ หลังจากตกอยู่ในภาวะสั่นคลอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามหลัง DeepSeek บริษัทสัญชาติจีน เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ต้นทุนต่ำ ทั้งนี้ เอ็นวิเดีย ที่กลายเป็นบริษัทที่หุ้นดำดิ่งหนักที่สุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดีดตัวขึ้น 3.3% ในวันพุธ (5 ก.พ.)

การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินครั้งถัดไปจะมีขึ้นในเดือนมีนาคม และมีนักลงทุนเพียง 16.5% ที่คาดหมายว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้่ยในตอนนั้น โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งถัดไปน่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น