xs
xsm
sm
md
lg

ปั่นป่วนของแท้! ‘ทรัมป์’ เตรียมสั่ง ‘พักงาน’ ลูกจ้าง USAID ทั่วโลก-เรียกบุคลากรหลายพันคนกลับสหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศวานนี้ (4 ก.พ.) ว่าจะสั่ง “พักงาน” ลูกจ้างที่รับเงินเดือนโดยตรงจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ทั่วโลก และจะเรียกบุคลากรหลายพันคนที่ทำงานในต่างแดนกลับสหรัฐฯ

ประกาศบนเว็บไซต์ของ USAID ระบุว่า “ในวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 23.59 น. (EST) ลูกจ้างโดยตรงของ USAID ทั่วโลกจะอยู่ภายใต้คำสั่งพักงานเพื่อการบริหาร (administrative leave)” ยกเว้นเฉพาะบุคลากรบางส่วนซึ่ง “รับผิดชอบการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญยิ่งยวด เป็นผู้นำหลัก และได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการใดเป็นกรณีพิเศษ”

USAID มีการว่าจ้างพนักงานทั่วโลกมากกว่า 10,000 คน โดย 2 ใน 3 เป็นลูกจ้างในต่างประเทศ ตามข้อมูลของสำนักงานวิจัยแห่งสภาคองเกรส (CRS) และปัจจุบัน USAID มีการทำภารกิจอยู่ในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก

สำหรับเจ้าหน้าที่ USAID ที่ประจำการในต่างแดน รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเตรียมวางแผนร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับสหรัฐฯ ภายใน 30 วัน และผู้บริหาร USAID จะพิจารณาข้อยกเว้นเป็นรายกรณีไป โดยคำนึงถึงความยากลำบากในการเดินทางและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เหล่านั้น

ประกาศดังกล่าวลงท้ายว่า “ขอบคุณสำหรับความทุ่มเทของทุกคน”

คำสั่งปฏิรูปองค์กร USAID ครั้งใหญ่นี้คาดว่าจะกระทบต่อวิถีชีวิตของพนักงานหลายพันคนและครอบครัวของพวกเขา โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ นั้นมีเป้าหมายที่จะควบรวม USAID ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านมนุษยธรรมหลักที่มอบความช่วยเหลือมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ทั่วโลกให้เข้ามาเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แทนที่จะปฏิบัติงานในฐานะองค์กรอิสระ

เมื่อวันจันทร์ (3) มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้กลายเป็นหัวหน้า USAID ในทางพฤตินัย ชี้ว่าหน่วยงานแห่งนี้ “ไม่มีการตอบสนองโดยสิ้นเชิง” (completely unresponsive) และยังกล่าวหาเจ้าหน้าที่ว่า “ไม่เต็มใจที่จะตอบคำถามง่ายๆ” เกี่ยวกับโครงการทั้งหลายแหล่ของ USAID

รูบิโอ ยังได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังสภาคองเกรสเกี่ยวกับแผนปฏิรูปองค์กรแห่งนี้ โดยระบุว่าบางแผนกของ USAID อาจถูกควบรวมเข้ากับกระทรวงการต่างประเทศ และส่วนที่เหลือก็จะถูก “ยุบทิ้งไป”

อย่างไรก็ดี เนื่องจาก USAID เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นโดยสภาคองเกรสในฐานะองค์กรอิสระภายในฝ่ายบริหาร ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงไม่มีอำนาจที่สั่งยุบทิ้งโดยปราศจากความเห็นชอบของสภา ตามรายงานของ CRS ในสัปดาห์นี้

หลายร้อยโครงการของ USAID ซึ่งครอบคลุมภารกิจช่วยเหลือชีวิตประชากรทั่วโลกต้องถูกระงับ หลังจากที่ ทรัมป์ กลับขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 ม.ค. และเซ็นคำสั่งบริหารระงับเงินช่วยเหลือต่างชาติเกือบทั้งหมด โดยเขาอ้างว่าต้องการมั่นใจว่าเงินทองเหล่านั้นถูกใช้อย่างสอดคล้องกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First)

ในปีงบประมาณ 2023 สหรัฐฯ ได้อนุมัติงบประมาณ 72,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือต่างประเทศ โดยมีตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพผู้หญิงในพื้นที่ขัดแย้งเรื่อยไปจนถึงการเข้าถึงน้ำสะอาด การรักษา HIV/AIDS ความมั่นคงทางพลังงาน และงานต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน

ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 42% ของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั่วโลก ตามข้อมูลของสหประชาชาติในปี 2024

ที่มา : รอยเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น