เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - มีพลเมืองสิงคโปร์ทั้งหมด 111 คนเตรียมโดนเนรเทศออกจากสหรัฐฯ กลับบ้านเกิด หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นรับตำแหน่ง พบมีพลเมืองสิงคโปร์ 3 รายถูกเนรเทศไปแล้วก่อนหน้า
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า มีพลเมืองสิงคโปร์ 111 คนถูกรัฐบาลสหรัฐฯ สั่งขับออกนอกประเทศนับตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว
ชาวสิงคโปร์ที่ถูกสั่งเนรเทศนี้รวมอยู่ในกลุ่มพลเมืองต่างชาติ 1.4 ล้านคนที่ถูกสั่งขับออกจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมตัวของสำนักงานบังคับการเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ หรือ ICE (US Immigration and Customs Enforcement) แต่โดนหน่วยงานรัฐอื่น เป็นต้นว่า ตำรวจควบคุมตัวเนื่องมาจากทำผิดกฎหมาย
บัญชีของ ICE มีรายชื่อร่วม 7 ล้านคนซึ่งรวมถึงพลเมืองต่างชาติที่ต้องการแสวงหาการลี้ภัยและรอตามกระบวนการเข้าเมืองสหรัฐฯ
หรืออาจเป็นคนเข้าเมืองถูกกฎหมายที่มีกรีนการ์ดแต่ทำผิดกฎหมายหรืออยู่ภายใต้การควบคุมตัวแบบติดกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว
ซึ่งจากทั้งหมด 7 ล้านคนตามบัญชี มีแค่ 1 ใน 5 เท่านั้นที่ได้รับคำสั่งให้เนรเทศออกไปในที่สุดและจะต้องถูกเนรเทศออกนอกอเมริกาภายใน 90 วันหลังรับคำสั่ง อ้างอิงตัวเลขล่าสุดเมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมา
สื่อสิงคโปร์รายงานว่า นอกจากนี้การไร้ความร่วมมือจากรัฐบาลต่างชาติอาจเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเนรเทศได้โดย ICE ได้ระบุ 14 ชาติรวมถึงคิวบา รัสเซีย จีน และอินเดีย ว่า “ไม่ให้ความร่วมมือ” และอีก 11 ชาตินั้นอยู่ในประเภท “เสี่ยงที่จะไม่ยอมร่วมมือ” ได้แก่ จาไมกา อิรัก กัมพูชา และเวียดนาม
ทั้งนี้พบมีพลเมืองสิงคโปร์ 3 คนได้ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. ปี 2023 ถึงวันที่ 30 ก.ย. ปี2024 ตรงกับระยะเวลางบประจำปี 2024 ของรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างอิงจากรายงานประจำปีของสำนักงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ส่งผลทำให้แดนลอดสิงคโปร์ที่ขึ้นชื่อว่า แดนศิวิไลซ์ประเทศที่มีพาสปอร์ตทรงอิทธิพลสูงสุดรั้งอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลกอ้างอิงจาก Passport Index การจัดลำดับหนังสือเดินทางทั่วโลกประจำปี 2025 มีพลเมืองถูกเนรเทศออกกลับ 22 คนระหว่างปีงบประมาณ 2019 ถึงปีงบประมาณ 2024
เกิดขึ้นหลังผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งและใช้มาตรการกวาดล้างผู้อพยพครั้งใหญ่พร้อมกับส่งตัวออกนอกประเทศ
โดยไม่กี่วันก่อนหน้า สหรัฐฯ ส่งตัวผู้อพยพกลับไปบ้านเกิดที่แดนละตินอเมริกา รวมไปถึงอินเดียที่จุดหมายปลายทางไกลที่สุด