สหรัฐฯ พบกล่องดำ-เตรียมกู้ซาก ‘ฮ.-เครื่องบิน’ พุ่งชนที่วอชิงตัน ส.ว.มะกันจี้ถามควรไหมกองทัพ ‘ฝึกบิน’ ใกล้สนามบินพลเรือน

พนักงานสอบสวนสหรัฐฯ เตรียมเดินหน้ากู้ซากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ซึ่งประสบอุบัติเหตุพุ่งชนกลางอากาศจนมีผู้เสียชีวิตรวม 67 รายที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันพุธ (29) ท่ามกลางประเด็นคำถามร้อนแรงเกี่ยวกับความปลอดภัยทางอากาศในพื้นที่เมืองหลวงสหรัฐฯ

หลังจากที่สามารถกู้ “กล่องดำ” ทั้ง 2 ใบจากซากเครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์สที่ร่วงตกลงไปในแม่น้ำโพโตแมค สืบเนื่องจากการชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐฯ เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา (29) ล่าสุดทีมประดาน้ำได้เตรียมที่จะกู้ซากเครื่องบินและค้นหาชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมในวันนี้ (31) ตามข้อมูลจากสำนักงานดับเพลิงวอชิงตัน

“ตลอดคืนนี้เราจะยังใช้เรือจากหน่วยงานระดับท้องถิ่น รัฐ และส่วนกลางเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ และปฏิบัติการค้นหาที่ผิวน้ำ” สำนักงานดับเพลิงวอชิงตัน ระบุในถ้อยแถลง

คณะกรรมการความปลอดภัยขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) กำลังตรวจวิเคราะห์กล่องบันทึกเสียงภายในห้องนักบิน (cockpit voice recorder) และกล่องบันทึกข้อมูลการบิน (flight data recorder) ของเครื่องบินรุ่น CRJ700 ซึ่งตกพร้อมผู้โดยสาร 60 ชีวิตและลูกเรืออีก 4 คน ขณะที่ลูกเรือ 3 นายบนเฮลิคอปเตอร์เสียชีวิตหมดเช่นกัน

ทางการสหรัฐฯ ยังไม่สามารถระบุเจาะจงสาเหตุของการพุ่งชนกันได้ ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์สกำลังร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานแห่งชาติ โรนัลด์ เรแกน วอชิงตัน

กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า เพดานบินสูงสุดที่เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ใช้สำหรับการเดินทางอยู่ที่ 200 ฟุต ทว่าในความเป็นจริงอาจบินสูงกว่านั้น เพราะปรากฏว่าการพุ่งชนเกิดขึ้นที่ระดับความสูง 300 ฟุต ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ FlightRadar24

บันทึกการสื่อสารทางวิทยุพบว่า เจ้าหน้าที่ประจำหอควบคุมการบินได้แจ้งเตือนไปยังนักบินเฮลิคอปเตอร์ว่ามีเครื่องบินกำลังลงจอด และสั่งให้มันรีบเปลี่ยนเส้นทาง

ขณะเดียวกัน มีข้อมูลจากแหล่งข่าวว่าในคืนเกิดเหตุหอควบคุมการบินมีเจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวดูแลการขึ้นลงของเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ แทนที่จะเป็น 2 คน ซึ่งถือเป็นสถานการณ์ที่ “ไม่ปกติ” แต่ก็อาจจะถือว่าเพียงพอสำหรับช่วงเวลาที่การสัญจรทางอากาศน้อย

โรเบิร์ต ไอซอม ซีอีโอของอเมริกันแอร์ไลน์ส ระบุว่านักบินผู้ควบคุมเครื่อง อเมริกัน อีเกิล เที่ยวบินที่ 5342 มีประสบการณ์บินมาแล้ว 6 ปี ส่วนเครื่องลำเกิดเหตุเป็นเครื่องบิน Bombardier ที่ปฏิบัติการโดย PSA Airlines

พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กลำนี้ “ถูกบินด้วยลูกเรือที่มีประสบการณ์มากพอสมควร” และทหารทั้ง 3 นายก็สวมแว่นมองกลางคืนในระหว่างการฝึกด้วย

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าได้สั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดของหน่วยงานกองทัพที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว และจะมีการทบทวนการฝึกบินในภูมิภาคดังกล่าว

ขณะเดียวกัน มาเรีย แคนต์เวลล์ สมาชิกคณะกรรมการพาณิชย์ของวุฒิสภาจากพรรคแดโมแครต ได้ออกมาเรียกร้องวานนี้ (30) ให้สหรัฐฯ กองทัพสหรัฐฯ ทบทวนการบินเฮลิคอปเตอร์ใกล้ท่าอากาศยานที่คับคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ

“คำถามสำคัญที่ดิฉันมีก็คือ ทำไมพวกคุณเอาเครื่องบินทหารมาฝึกบินใกล้กับเส้นทางที่เครื่องบินพลเรือนจะขึ้นและลงจอดขนาดนั้น? ทำไมเส้นทางที่อยู่ถัดไปจากเส้นทางบินพลเรือนถึงถูกนำมาใช้” เธอกล่าว

รายงานเมื่อปี 2021 ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ มีการนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินในรัศมี 30 ไมล์จากสนามบินเรแกนมากถึง 11,000 เที่ยวต่อปี

ที่มา : รอยเตอร์