กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าบริษัทสตาร์ทอัป DeepSeek ของจีนซึ่งเปิดตัวโมเดลเอไอต้นทุนต่ำสะเทือนโลก มีการใช้ชิปปัญญาประดิษฐ์ที่สหรัฐฯ ห้ามส่งออกไปยังจีนหรือไม่ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว
สัปดาห์ที่แล้ว DeepSeek ซึ่งมีฐานที่นครหางโจวได้เปิดตัวผู้ช่วยเอไอแบบใช้งานฟรีที่อ้างว่าใช้ฐานข้อมูลน้อยกว่า และต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวของโมเดลเอไอที่บริษัทยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ คิดค้นขึ้นมา และภายในไม่กี่วันก็ได้กลายเป็นแอปพลิเคชันที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดใน App Store จนทำให้สหรัฐฯ กังวลว่าความเป็นผู้นำด้านเอไอของตนอาจถูกสั่นคลอน ขณะที่กระแสความบูมของ DeepSeek ยังส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งกราวรูดเมื่อวันจันทร์ (27)
ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้มีมาตรการจำกัดการส่งออกชิปเอไอของ Nvidia เพื่อไม่ให้ชิปรุ่นก้าวหน้าที่สุดตกไปถึงมือจีน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ พบว่ามีขบวนการลักลอบนำเข้าชิปเอไอไปยังจีนที่เชื่อมโยงไปถึงประเทศต่างๆ ตั้งแต่มาเลเซีย สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว
ล่าสุด ทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และ DeepSeek ยังไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่โฆษกของ Nvidia ยอมรับว่า บริษัทมีลูกค้าหลายรายที่ทำธุรกิจอยู่ในสิงคโปร์ และใช้ชิปของ Nvidia ในผลิตภัณฑ์ที่ส่งขายให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตก
“เราขอยืนยันว่า หุ้นส่วนของเราปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหากเราได้รับข้อมูลเป็นอื่นก็จะมีมาตรการตอบสนองทันที” โฆษก Nvidia ระบุ
DeepSeek เปิดเผยว่า บริษัทใช้ชิป H800 ของ Nvidia ซึ่งสามารถสั่งซื้อได้อย่างถูกกฎหมายในปี 2023 นอกจากนี้ยังมีชิปรุ่น H20 ที่พลังการประมวลผลต่ำกว่า และยังคงสามารถถูกส่งออกไปจีนได้
สหรัฐฯ เคยพิจารณาที่จะควบคุมการส่งออกชิปเหล่านี้ในยุคของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ขณะที่เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็กำลังหารือเรื่องนี้อยู่เช่นกัน
ดาริโอ อาโมเดอี ซีอีโอของ Anthropic ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า “ดูเหมือนชิปเอไอจำนวนไม่น้อยที่ DeepSeek ใช้จะยังคงเป็นชิปที่ไม่ได้ถูกแบน (แต่สมควรที่จะแบน) ชิปที่ถูกส่งออกไปก่อนที่สหรัฐฯ จะสั่งแบน และบางส่วนก็น่าจะเป็นชิปที่ถูกลักลอบนำเข้าจีน”
ที่มา : รอยเตอร์