เอเจนซีส์/เอเอฟพี/เอพี/MGRออนไลน์ – ตัวประกันไทย 5 คนได้รับการปล่อยตัวจากฮามาสในกาซาวันพฤหัสบดี(30 ม.ค)ก่อนที่จะส่งเข้าศูนย์การแพทย์ชามีร์ (Shamir Medical Center) เพื่อตรวจเช็กร่างกาย โชวถือธงชาติไทยให้เห็น แม่จากจ.อุดรดีใจวิดีโอคอลหาลูก พบหน่วยข่าวกรองลับตุรกีช่วยดีลทำให้ 5 ตัวประกันไทยได้รับอิสรภาพจากฮามาส เชื่อยังคงเหลือตัวประกันไทยอีก 1 คนยังมีชีวิตแต่ 2 คนเสียชีวิตแล้วแต่ศพยังติดอยู่ในกาซา
ไทม์ออฟอิสราเอลรายงานวันนี้ (25 ม.ค)ว่า ตัวประกันคนไทยจำนวน 5 คนได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระจากกลุ่มฮามาสในวันพฤหัสบดี(25) โดยสถานทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟได้เผยแพร่ภาพ 5 ตัวประกันคนไทยนายวัชระ ศรีอ้วน วัย 33 ปี นายพงษ์ศักดิ์ แทนนา วัย 36 ปี นายเสถียร สุวรรณคำ วัย 35 ปี นายบรรณวัชร แซ่ท้าว วัย 27 ปี และนายสุรศักดิ์ ลำเนา วัย 32 ปี ได้ถือธงชาติไทย
ขณะเดียวกัน วัชระ ศรีอ้วน หลังการปล่อยตัวได้พูดคุยกับครอบครัวของเขาที่จ.อุดรธานีเป็นครั้งแรกในวันเดียวกัน(30) โดยมีภาพข่าวจากเอเอฟพีแสดงหน้าจอโทรศัพท์ที่มีการวิดีโอคอลระหว่างกัน
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า ตัวประกันไทยทั้งหมดถูกส่งเข้าศูนย์การแพทย์ชามีร์( Shamir Medical Center) เพื่อตรวจเช็กร่างกาย โดยรัฐบาลไทยแถลงตามการรายงานของเอเอฟฟีว่า ตัวประกันทั้ง 5 คนจะสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ภายใน 10 วันหลังจากนี้
กระทรวงต่างประเทศไทยคาดว่า คนทั้งหมดจะเดินทางกลับไทยภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์
โฆษกกระทรวงต่างประเทศไทยแถลง “ถึงแม้พวกเขาจะดูมีสุขภาพดั แต่พวกเขาถูกจับมานานร่วม 15 เดือน..ดังนั้นผมคิดว่าคนเหล่านี้สามารถเดินทางกลับได้ภายใน 10 วัน”
เอเอฟพีรายงานว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลังการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30) จะยังคงมีตัวประกันไทยในมือของฮามาสเหลืออยู่อีก 3 คนและเชื่อกันว่ามีตัวประกันไทย 2 คนจากทั้งหมดได้เสียชีวิตลงแล้ว
กระทรวงต่างประเทศไทยแถลงว่า “ประเทศไทยเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดรวมถึงพลเมืองไทย 1 คนโดยเร็ว เพื่อคนเหล่านี้สามารถเดินทางกลับบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัยไปหาครอบครัวอันเป็นที่รัก”
สื่อยิวรายงานว่า ก่อนหน้ารัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลได้แจ้งต่อรัฐมนตรีต่างประเทศไทยว่า ตัวประกันคนไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาจากกาซานั้นมีสุขภาพดี
เป็นการประเมินสุขภาพเบื้องต้นที่พบว่าคนเหล่านี้แข็งแรงก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปโรงพยาบาลที่อิสราเอลสำหรับการตรวจเช็กร่างกายและรักษาพยาบาลต่อไป
ด้านเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล พรรณนภา จันทรารมย์ ได้กล่าวต่อประธานาธิบดีอิสราเอล ไอแซค เฮอร์ซอก(Isaac Herzog) ในวันพฤหัสบดี(30)ว่า วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมากที่สุดในชีวิตจากที่ได้พบประธานาธิบดีอิสราเอลและการที่ตัวประกันไทย 5 คนเป็นอิสระ พร้อมย้ำว่าถือเป็นข่าวดีสำหรับตัวเอง สำหรับประเทศไทย และสำหรับผู้เกี่ยวข้อง
ไทม์สออฟอิสราเอลรายงานว่า เอกอัครราชทูตไทยยังเปิดเผยต่อว่า เชื่อว่ายังคงมีตัวประกันไทยที่ยังคงมีชีวิตอีก 1 คนในการควบคุมของกลุ่มฮามาสในกาซา
ทั้งนี้เชื่อว่า ณัฐพงษ์ ปินตา (Pinta Nattapong) ยังคงมีชีวิตส่วนศพของคนไทย 2 คนได้แก่ สุทธิศักดิ์ รินทลักษ์ ( Sudthisak Rinthalak) และ สนธยา อัครศรี (Sonthaya Oakkharasri) ยังคงอยู่ในมือของฮามาส
ขณะที่ประธานาธิบดีอิสราเอลเปิดเผยกับทูตไทยว่า อิสราเอลรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นพี่น้องคนไทยสามารถหลุดออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายจากการโดนจับเป็นตัวประกันในกาซา และเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงรู้สึกยินดีและสวดภาวนาสำหรับคนอื่นๆ
พร้อมกันนี้เฮอร์ซอกกล่าวต่อว่า เขาหวังว่าคนเหล่านี้จะฟื้นตัวโดยไวและสามารถเดินทางกลับบ้านได้ในที่สุด
เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า คำมี ลำเนา แม่ของหนึ่งในตัวประกัน สุรศักดิ์ ลำเนา เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อจากสถานทูตว่าลูกชายเป็นหนึ่งในตัวประกันที่จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30)
ในการให้สัมภาษณ์กับเอพี เธอกล่าวว่า “ดิฉันไม่สามารถรอที่จะได้เห็นลูก” พร้อมเสริมต่อว่า “ดิฉันเฝ้ารอลูกชายมานาน”
สุรศักดิ์ ลำเนาทำงานในภาคการเกษตรของอิสราเอลมานาน 15 เดือนก่อนทีจะถูกกลุ่มฮามาสจับไปจากเมืองเยชา(Yesha) ห่างออกไปไม่กี่ไมล์จากพรมแดนทางด้านใต้สุดของเขตฉนวนกาซา
และมีรายงานเปิดเผยว่าสำนักข่าวกรองลับตุรกีช่วยเหลือดีลจนทำให้ตัวประกันไทยสามารถได้รับอิสรภาพในวันพฤหัสบดี(30) จากส่วนหนึ่งของข้อตกลงหยุดยิงกาซาที่อิสราเอลทำร่วมกับฮามาสและมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 ม.ค ก่อนหน้า
เอเอฟพีรายงานโดยอ้างจากสำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีว่า สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติตุรกี MIT ตามคำสั่งของประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ได้เจรจากับฮามาสและประสบความสำเร็จสามารถช่วยออกมาได้
ทั้งนี้พบว่าผู้นำตุนกีพบผู้นำกลุ่มฮามาส มุฮัมหมัด อิสมาอิล ดาร์วิช (Muhammad Ismail Darwish )ที่กรุงอังการาวันพุธ(29) และในการหารือมีรัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ฮาคาน ไฟดาน( Hakan Fidan )และหัวหน้าสำนักงานข่าวกรองตุรกี MIT อิบราฮิม คาลิน (Ibrahim Kalin) ร่วมอยู่ด้วย