Google Maps จะดำเนินการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็น “อ่าวอเมริกา” (Gulf of America) สำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ หลังจากที่ชื่อดังกล่าวถูกกำหนดลงในระบบข้อมูลชื่อภูมิศาสตร์ของสหรัฐฯ (US Geographic Names System) อย่างเป็นทางการ
Google แถลงผ่าน X เมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ว่า คำว่า “อ่าวอเมริกา” จะเห็นได้เฉพาะผู้ใช้งานในสหรัฐฯ เท่านั้น และยังคงเป็นคำว่า “อ่าวเม็กซิโก” สำหรับผู้ใช้งานในเม็กซิโก ส่วนผู้ใช้งานที่อยู่ในประเทศอื่นๆ จะมองเห็นทั้ง 2 ชื่อบน Google Maps
กระทรวงมหาดไทยสหรัฐฯ ในยุครัฐบาลทรัมป์ 2.0 ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (24) ว่าได้ทำการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกาอย่างเป็นทางการแล้ว ในขณะที่ยอดเขาเดนาลี (Denali) ในรัฐอะแลสกาซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือก็ถูกเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อยอดเขาแมคคินลีย์ (Mount McKinley)
Google Maps เตรียมที่จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อของยอดเขาดังกล่าวในลักษณะเดียวกัน
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เซ็นคำสั่งบริหารให้เปลี่ยนชื่อสถานที่ต่างๆ ภายในไม่กี่ชั่วโมงแรกหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เทอมสองเมื่อวันที่ 20 ม.ค. โดยเป็นการทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อตอนหาเสียง
ประธานาธิบดี คลอเดีย เชนบาม แห่งเม็กซิโก เคยออกมาพูดติดตลกในเดือนนี้ว่า ทวีปอเมริกาเหนือซึ่งรวมถึงดินแดนสหรัฐอเมริกา ก็น่าจะเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อ “เม็กซิกันอเมริกา” ซึ่งเป็นชื่อทางประวัติศาสตร์ที่ถูกใช้ในแผนที่ยุคแรกๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อไปสอบถาม Google เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่โฆษกบริษัทก็ให้อ้างอิงตามโพสต์ที่ปรากฏบน X
ทั้งนี้ Google เคยใช้ธรรมเนียมการตั้งชื่อตามท้องถิ่นมาแล้วกับสถานที่อื่นๆ ซึ่งมีข้อพิพาทในเรื่องการเรียกขาน ตัวอย่างเช่น น่านน้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้จะถูกเรียกว่า Sea of Japan (East Sea) เมื่อทำการสืบค้นแผนที่จากนอกประเทศทั้งสอง เป็นต้น
ในปี 2012 รัฐบาลอิหร่านเคยขู่จะดำเนินคดีกับ Google หลังจากที่บริษัทตัดสินใจถอดคำว่า Persian Gulf ในแผนที่ Google Maps ซึ่งทำให้น่านน้ำระหว่างอิหร่านกับคาบสมุทรอาระเบียไม่มีชื่อ ทว่าปัจจุบันท้องทะเลแถบนั้นถูกกำหนดชื่อว่า Persian Gulf (Arabian Gulf) เมื่อสืบค้นจากต่างประเทศ
ที่มา : รอยเตอร์