รอยเตอร์ - ฝูงชนในเทลอาวีฟปรบมือดีใจหลังตัวประกันอิสราเอล 4 คนได้รับอิสรภาพ เช่นเดียวกับในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ที่มีการฉลองหลังยิวปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์ในวันเสาร์ (25 ม.ค.) ทว่าในวันเดียวกันนั้นกองกำลังอิสราเอลได้ขัดขวางไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางกลับถิ่นฐานทางตอนเหนือของกาซา โดยอ้างว่าฮามาสไม่ยอมปล่อยตัวประกันคนหนึ่ง
ตัวประกันทั้ง 4 คนที่เป็นทหารหญิงทั้งหมดที่ได้รับการปล่อยตัวภายใต้การแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษครั้งที่ 2 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่มีเป้าหมายในการปูทางสู่การยุติสงครามถาวรในกาซานั้น ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทหารไปยังศูนย์การแพทย์ราบินชานเมืองเทลอาวีฟและได้พบกับครอบครัว โดยแพทย์ยืนยันว่า ทั้งสี่มีสุขภาพแข็งแรงดีแม้มีร่องรอยของการถูกคุมขังในสภาพเลวร้ายในกาซานานกว่า 15 เดือนก็ตาม
ตัวประกันเหล่านั้นซึ่งได้แก่ แครินา เอรีฟ แดเนียลลา กิลโบ นามา เลวี วัย 20 ปี และลิรี อัลแบ็ก วัย 19 ปี ยิ้มแย้มและโบกมือระหว่างเดินขึ้นเวทีในกาซาซิตี้โดยมีนักรบติดอาวุธสวมหน้ากากอยู่ด้านข้างเพื่อส่งตัวต่อให้คณะกรรมการกาชาดสากล
ผู้คนที่อัดแน่นชมการถ่ายทอดการปล่อยตัวประกันบนจอทีวีขนาดใหญ่ในบริเวณที่เรียกว่า จัตุรัสตัวประกันในเทลอาวีฟ ต่างยินดีและส่งเสียงดังพร้อมชูธงชาติอิสราเอล
ในเวลาต่อมาชาวอิสราเอลจำนวนหนึ่งได้ชุมนุมในเทลอาวีฟเรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันว่า ตัวประกันทั้งหมดที่เหลืออยู่จะได้เดินทางกลับบ้าน
ที่รามัลเลาะห์ซึ่งเป็นที่ตั้งองค์การบริหารปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงเมืองราฟาห์ทางใต้ของกาซา ชาวปาเลสไตน์มากมายกู่ร้องด้วยความยินดีเมื่อขบวนรถบัสนำนักโทษที่ได้รับอิสรภาพมาถึง
อย่างไรก็ดี สื่อที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลอียิปต์รายงานว่า นักโทษปาเลสไตน์ 70 คนจากทั้งหมด 200 คนที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้ เดินทางถึงอียิปต์ด้วยรถบัสเพื่อเนรเทศไปยังประเทศที่สาม เนื่องจากนักโทษเหล่านี้ถูกตัดสินประหารชีวิตจากการโจมตีอิสราเอล
การแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่แล้ว (19 ม.ค.) ซึ่งนับจากนั้นเป็นต้นมาขบวนรถลำเลียงความช่วยเหลือได้เข้าสู่กาซาวันละนับร้อยคัน กระนั้น สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในดินแดนดังกล่าวยังคงเลวร้าย
นอกจากนั้น เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำยูเอ็นยังเรียกร้องให้สำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ของยูเอ็น ซึ่งเป็นหน่วยงานบรรเทาทุกข์หลักในกาซา ยุติปฏิบัติการทั้งหมดในอิสราเอลภายในวันพฤหัสฯ ที่จะถึง (30 ม.ค.) เพื่อให้เป็นไปตามร่างกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอิสราเอล
เมื่อวันเสาร์อิสราเอลยังประกาศขัดขวางไม่ให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางกลับถิ่นฐานทางตอนเหนือของกาซาจนกว่าอาร์เบล เยฮัด ตัวประกันหญิงที่เป็นพลเรือนอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัว
สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุว่า เยฮัดอยู่ในกลุ่มตัวประกันที่ต้องได้รับการปล่อยตัวในวันเสาร์ ทว่า แหล่งข่าวในฮามาสเผยว่า ตัวประกันหญิงผู้นี้จะได้รับการปล่อยตัวในรอบถัดไปในวันเสาร์หน้า (1 ก.พ.)
ตำรวจอิสราเอลขัดขวางไม่ให้ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนเข้าสู่เส้นทางที่มุ่งหน้าสู่ตอนเหนือของกาซาที่อยู่ในความควบคุมของอิสราเอล โดยมีรถถังและยานยนต์หุ้มเกราะของอิสราเอลขวางอยู่บนถนน
อนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยที่เฟส 2 และ 3 ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นสุดท้าย สำหรับเฟส 2 นั้นจะมีการเจรจาเพื่อยุติสงครามในกาซา ทว่า นักวิเคราะห์เตือนว่า มีความเสี่ยงที่การเจรจาจะล่มเนื่องจากการแบ่งข้อตกลงออกเป็นหลายเฟส และความไม่ไว้ใจกันอย่างรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
สำหรับเฟสแรกที่กินเวลา 6 สัปดาห์นั้นจะมีการปล่อยตัวประกัน 33 คน แลกกับการปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ราว 1,900 คนจากเรือนจำในอิสราเอล