เอเจนซีส์/รอยเตอร์/เอพี/MGRออนไลน์ - เปียงยางทดสอบขีปนาวุธใต้น้ำสู่ภาคพื้นแบบนำวิถีเมื่อเวลาราว 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (25 ม.ค.) บินไกล 1,500 กม. นาน 2 ชม. เข้าเป้าหมายชัดตรงทุกเป้า อ้างทดสอบเครื่องยนต์มิสไซล์รับทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวรอบ 2 มีรายงานเตรียมส่งทหารเกาหลีเหนือไปรบในยูเครนรอบใหม่หลังตายเป็นเบือนับพัน
เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ว่า สำนักข่าวทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานวันอาทิตย์ (26) ว่า ผู้นำเปียงยาง คิม จองอึน เดินทางไปควบคุมการทดสอบการยิงมิสไซล์เมื่อเวลาราว 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันก่อนหน้า (25) ด้วยตัวเอง
KCNA รายงานว่าเป็นมิสไซล์ยิงจากใต้น้ำสู่ภาคพื้น และในการทดสอบเดินทางไกล 1,500 กม. และถึงเป้าหมายราว 7,507 วินาที (2.085-2.086 ชม.)
สื่ออังกฤษชี้ว่าเป็นการยิงครั้งแรกหลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าสู่อำนาจรอบใหม่ ทั้งนี้ ทรัมป์กลายเป็นผู้นำเพียงคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ยอมพบประธานาธิบดีเปียงยางถึง 2 ครั้ง และมีรายงานว่าจดหมายที่คิมส่งถึงเขาได้นำกลับไปบ้านหลังจากสิ้นสมัยการดำรงตำแหน่งในปี 2021
ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์ในวันพฤหัสบดี (23) ว่า เขาจะติดต่อกับคิมอีกครั้งพร้อมยกยอว่าผู้นำเกาหลีเหนือเป็นคนฉลาด
KCNA เปิดเผยว่า การทดสอบวันเสาร์ (25) นี้เป็นการทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธแต่ทว่าไม่ได้เปิดเผยสถานที่ของการทดสอบ และในรายงานของ KCNA ยังกล่าวไปถึงแถลงการณ์ที่ออกมาจากกระทรวงต่างประเทศเกาหลีเหนือ
ซึ่งในแถลงการณ์กระทรวงระบุว่า จะมีมาตรการต่อต้านอย่างหนักหน่วงที่สุดต่อสหรัฐฯ ตราบเท่าที่วอชิงตันยังปฏิเสธความมีอธิปไตยของเปียงยาง
ในแถลงการณ์ของกระทรวงเปียงยางตามรายงานของสื่อทางการเกาหลีเหนือได้ชี้ไปว่า การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้คู่อรินั้นเป็นตัวสร้างความตึงเครียดในภูมิภาค
KCNA รายงานคำพูดของผู้นำเกาหลีเหนือว่า “การป้องปรามสงครามของเกาหลีเหนือหมายความถึงมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น" พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีคิม จองอึนยังประกาศให้คำมั่นจะทำให้กองทัพของตัวเองมีความเข้มแข็งมากขึ้น
“ประธานาธิบดีคิม จองอึน ยืนยันว่า เกาหลีใต้จะมีความพยายามอย่างแข็งแกร่งเสมอ...เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญของตัวเองและหน้าที่เพื่อปกป้องอย่างถาวรและสันติภาพที่ถาวรและเสถียรภาพบนพื้นฐานของแสนยานุภาพทางการทหารที่พัฒนาอย่างทรงพลังในอนาคต”
รอยเตอร์รายงานวันอาทิตย์ (26) ว่า คณะเสนาธิการร่วมทางการทหารเกาหลีใต้ JCS ได้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงมิสไซล์หลายลูกจากบนแผ่นดินใหญ่มุ่งหน้าออกไปยังชายฝั่งทางตะวันตกเมื่อเวลาราว 16.00 น.ของวันเสาร์ (25)
ตามการรายงานกล่าวว่า การทดสอบมิสไซล์เปียงยางเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความสามารถทางการป้องกันประเทศต่อข้าศึกสำคัญในความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางความมั่นคงของภูมิภาค
ทั้งนี้ ก่อนหน้าในวันศุกร์ (23) กองทัพเกาหลีใต้สงสัยว่า เปียงยางอยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อส่งกำลังทหารเกาหลีเหนือล็อตใหม่เดินทางเข้าไปรัสเซียเพื่อรบในยูเครน เอพีรายงานวานนี้ (25)
เกิดขึ้นหลังประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้เคยเปิดเผยว่ารัสเซียเสียทหารเกาหลีเหนือไปร่วม 4,000 นาย แต่ทว่าในการประเมินของเพนตากอนให้ตัวเลขไว้ที่ 1,200 นาย
ทั้งนี้ นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอังคาร (21) ว่า เชลยเกาหลีเหนือที่ถูกยูเครนจับได้สารภาพว่า เขาไม่รู้ว่าศัตรูฝ่ายตรงข้ามที่ต้องรบด้วยเป็นใครหลังจากโดนส่งตัวออกจากกรุงเปียงยาง ขณะที่เอพีเคยรายงานเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ว่า สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้ได้แถลงต่อรัฐสภาว่า ทหารเกาหลีเหนือ 2 นายที่ถูกยูเครนจับตัวไว้ได้ไม่แสดงความปรารถนาที่จะขอลี้ภัยในเกาหลีใต้ ซึ่งผู้นำยูเครนได้ประกาศว่า พร้อมที่จะคืนเชลยศึกเกาหลีเหนือ 2 นายส่งคืนให้รัสเซียเพื่อแลกเปลี่ยนกับเชลยศึกทหารยูเครนกลับสู่เคียฟ
เอพีรายงานวันเสาร์ (25) ว่า ทหารเกาหลีเหนือถูกมองว่ามีระเบียบวินัยสูงและได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีแต่ไร้ประสบการณ์ในการสู้รบและไม่คุ้นเคยกับสมรภูมิรบพื้นที่ราบที่เป็นพื้นรบส่วนใหญ่ในสงครามยูเครนส่งผลทำให้ทหารเปียงยางเหล่านี้กลายเป็นเป้าโดยง่ายจากโดรนและปืนใหญ่
ขณะเดียวกัน สำนักงานข่าวกรองเกาหลีใต้สัปดาห์ที่แล้วได้ประเมินว่ามีทหารเกาหลีเหนือ 300 นายเสียชีวิต และอีก 2,700 นายบาดเจ็บ