สหรัฐฯ ขายอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารให้แก่รัฐบาลต่างชาติเพิ่มขึ้น 24% ในปี 2024 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 318,700 ล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) จากการเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา ตัวเลขดังกล่าวรวมไปถึงยอดขายเครื่องบินขับไล่ 18,800 ล้านดอลลาร์แก่อิสราเอล แม้ประเทศแห่งนี้กำลังเผชิญข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
ยอดขายอาวุธมหาศาลดังกล่าวของสหรัฐฯ ที่มาจากขวบปีสุดท้ายของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน และถูกเผยแพร่ออกมาในวันศุกร์ (24 ม.ค.) เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะโลกไร้เสถียรภาพมากกว่าเดิมและความตึงเครียดต่างๆ ในระดับภูมิภาค
จากข้อมูลพบว่ายอดขายทางทหารโดยตรงของบรรดาบริษัทต่างๆ ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 200,800 ล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2024 จากระดับ 157,500 ล้านดอลลาร์ ในปี 2023 ส่วนยอดขายที่ดำเนินการผ่านรัฐบาลอเมริกา เพิ่มขึ้นจากระดับ 80,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับ 117,900 ในปี 2024
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่าการขายและการส่งมอบอาวุธ ถูกมองในฐานะ "เป็นเครื่องมือทางนโยบายต่างประเทศที่สำคัญของสหรัฐฯ ที่อาจมีความหมายโดยนัยในระยะยาวสำหรับความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก"
ยอดขายที่อนุมติในปี 2024 ยังรวมไปถึงวงเงิน 23,000 ล้านดอลลาร์ หรืออาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ สำหรับอัพเกรดฝูงบินรบ F-16 และอากาศยานอื่นๆ แก่กองทัพตุรกี รวมถึงฝูงบินรบ F-15 มูลค่า 18,800 ล้านดอลลาร์ แก่อิสราเอล และการขายรถถับเอบรามส์ M1A2 แก่โรมาเนีย มูลค่า 2,500 ล้านดอลลาร์
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า "อเมริกาใช้แนวทางนำทุกอย่างรอบด้านเข้าสู่การพิจารณาในการขายอาวุธ ชั่งน้ำหนักทั้งทางการเมือง สังคม มนุษยชน การปกป้องพลเรือน เช่นเดียวกับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย ในนั้นรวมถึงเศรษฐกิจและการเมือง ครั้งที่ต้องตัดสินใจจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารแก่พันธมิตรและคู่หูอย่างเหมาะสม"
อย่างไรก็ตาม ProPublica องค์กรสื่อสารมวลชนเชิงสืบสวนของสหรัฐฯ ระบุว่า แอนโทนี บลิงเคน ที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา เพิกเฉยต่อคำเตือนอย่างชัดแจ้ง เกี่ยวกับการที่อิสราเอลละเมิดสิทธิมนุษยชนท่ามกลางสงครามในกาซา และยังคงเดินหน้าอนุมัติถ่ายโอนอาวุธให้แก่ประเทศแห่งนี้ แม้ละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ เองก็ตาม
มีชาวปาเลสไตน์แล้วมากกว่า 47,200 คน ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในกาซา ภาพถ่ายต่างๆ เผยให้เห็นภาพแห่งการทำลายล้าง เมืองทั้งเมืองในฉนวนแห่งนี้กลายสภาพเป็นเศษอิฐเศษปูน จากระเบิด ขีปนาวุธ เครื่องบินและอาวุธอื่นๆ ที่สหรัฐฯ จัดหาให้แก่อิสราเอล
กลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย พวกผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ และแม้กระทั่งบรรดาอดีตเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลสหรัฐฯ ต่างกล่าวหารัฐบาลไบเดน รู้ดีว่ากำลังสนับสนุนปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในกาซา
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 กลุ่มสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอตช์ เผยแพร่รายงานฉบับหนึ่งที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกรณีที่อิสราเอลง่วนอยู่กับความพยายามขัดขวางชาวปาเลสไตน์จากการกลับคืนสู่พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซา
ท่ามกลางยอดขายที่ล้นทะลัก รายงานข่าวของอัลจาซีราห์ ระบุว่าบรรดาบริษัทคู่สัญญากลาโหมของสหรัฐฯ กำลังอยู่ในภาวะเคร่งเครียดต้องเร่งผลิตให้ทันต่ออุปสงค์อาวุธที่พุ่งสูง โดยที่ความต้องการอาวุธเฟื่องขึ้น เป็นผลจากปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย
บรรดารัฐมนตรีกลาโหมทั่วโลก พากันต่อแถวยื่นใบสั่งซื้อเพื่อเพิ่มคลังแสงของตนเองด้วยอาวุธของสหรัฐฯ ในขณะที่สต๊อกอาวุธของอเมริกาเองก็ร่อยหรอลง หลังจากส่งมอบอาวุธและกระสุนจำนวนมากไปให้ยูเครน ในการสนับสนุนทำสงครามกับรัสเซีย
(ที่มา : อัลจาซีราห์)