xs
xsm
sm
md
lg

ทรัมป์เปิดหน้าชกเขย่า "เวทีดาวอส" อ้างกลุ่มชาติผลิตน้ำมันทำสงครามยูเครนยืดเยื้อ-บีบชาตินาโตเพิ่มงบการทหาร 5% "มหาเศรษฐีบลูมเบิร์ก" คนดังประกาศบริจาคให้ UN สภาพอากาศโลกแทน "สหรัฐฯ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ วันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ใช้เวลา 45 นาทีที่การประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เปิดประเด็นร้อนกล่าวหาบรรดาชาติผู้ผลิตน้ำมันโลกทำให้สงครามยูเครนยืดเยื้อโดยใช่เหตุ พร้อมบีบชาติสมาชิกนาโตให้เพิ่มงบประมาณการทหารขึ้นอีก 5% รับการกลับมาสู่ทำเนียบขาวสมัย 2 ของตัวเอง ด้านมหาเศรษฐีอเมริกัน ไมเคิล บลูมเบิร์ก สร้างปรากฏการณ์รอบ 2 ประกาศบริจาคเงินก้อนโตเข้าสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกช่วยแทนสหรัฐฯ

เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กลางที่ประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในวันพฤหัสบดี (23) กล่าวหาบรรดาชาติผู้นำผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลกล้มเหลวในการลดราคาน้ำมัน พร้อมข่มขู่ที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ทั้งหมด

ทรัมป์เรียกร้องให้ซาอุฯ และกลุ่มโอเปกลดราคาน้ำมันเพื่อส่งผลทำให้รัสเซียต้องเสียรายได้จากการขายเชื้อเพลิงและจนต้องยุติสงครามยูเครนไปโดยปริยาย

ในตอนหนึ่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่แถลงว่า “...หากว่าราคาต่ำลง สงครามรัสเซีย-ยูเครนจะยุติลงทันที”

นอกจากนี้ พบว่าผู้นำสหรัฐฯ ยังส่งสัญญาณในการจะปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าสู่สหรัฐฯ ครั้งใหญ่ในความพยายามต้องการให้บริษัทต่างชาติเข้าไปลงทุนและผลิตภายในสหรัฐฯ อันจะเป็นการเพิ่มตำแหน่งงานให้อเมริกันชน

“หากว่าพวกคุณไม่ผลิตสินค้าของตัวเองในสหรัฐฯ ที่ถือเป็นเสมือนสิทธิพิเศษของพวกคุณเอง และดังนั้นง่ายมาก พวกคุณต้องจ่ายภาษีที่อยู่ในจำนวนที่แตกต่าง..แต่มันยังคงเป็นภาษี”

เดอะการ์เดียนรายงานว่า ทรัมป์ในการแถลงทางออนไลน์ในระยะเวลา 45 นาที ยังกล่าวเรียกร้องกดดันไปยังชาติพันธมิตรนาโตให้เพิ่มงบประมาณทางการทหารอีก 5% เพื่อแบ่งเบาภาระให้แก่สหรัฐฯ ทางด้านการทหาร

“ผมกำลังจะขอให้ชาตินาโตทุกประเทศต้องเพิ่มงบประมาณทางการทหารอีก 5% ของ GDP ที่ซึ่งสมควรเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน” พร้อมตัดพ้อว่า การมีงบการทหารระดับต่ำนั้นดูเหมือนเป็นการไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐฯ

ทรัมป์ยังออกมาเดินหน้าชนกับเฟดของสหรัฐฯ ด้วยการเรียกร้องธนาคารกลางสหรัฐฯ หั่นอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลกที่ทรัมป์อ้างว่า จะสามารถส่งอานิสงส์ได้ทันที

เดอะการ์เดียนรายงานว่า และเป็นไปอย่างที่คาดประธานาธิบดีทรัมป์บนเวทีดาวอสได้กล่าวถึง “จีน” และการไม่เป็นธรรมทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และได้โจมตีเหน็บแนมผู้นำคนก่อนหน้าจากพรรคเดโมแครตไปในตัว

เขาย้ำว่า “พวกเราขาดดุลอย่างมหาศาลกับจีน ประธานาธิบดี โจ ไบเดนปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น”

ทั้งนี้ ทรัมป์กล่าวว่า นโยบายภาษีของเขาแตกต่างออกไปจากภาษีนำเข้าเดิมที่จะบวกเข้าไปกับราคาสินค้าและกระทบผู้บริโภคในสหรัฐฯ ปลายทาง

โดยอ้างว่านโยบายภาษีของตัวเองจะเป็นภาษีโดยตรงร่วมหลายพันล้านดอลลาร์ และอาจถึงขั้นล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่คลังสหรัฐฯ เพื่อทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งและทำให้ก้อนหนี้ลดลง

ก่อนหน้าทรัมป์เคยออกมาชี้ว่า จะเพิ่มอัตราภาษีขาเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา และจีน รวมไปถึงกำลังพิจารณาขึ้นภาษีจากกลุ่ม EU แต่ในเวลาต่อมาผู้นำอเมริกันคนใหม่ดูเหมือนต้องการที่จะขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ทั้งหมด

ผู้นำสหรัฐฯ ยังปกป้องว่า นโยบายภาษีของเขาจะนำมาสู่ราคาสินค้าถีบตัวและส่งผลต่อเงินเฟ้อ

และเป็นที่น่าสนใจว่า ทรัมป์ที่ได้ประกาศถอนสหรัฐฯ จากข้อตกลงสภาพอากาศโลกปารีส ยังคงปฏิเสธไม่ยอมรับความเป็นจริงที่ว่า วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกมีอยู่จริง

ซึ่งอัลญาซีเราะฮ์ของกาตาร์รายงานว่า มหาเศรษฐีสหรัฐฯ ไมเคิล บลูมเบิร์ก ในวันพฤหัสบดี (23) ประกาศว่ามูลนิธิการกุศลของเขาจะยื่นมือเข้ามามอบเงินแทนที่สหรัฐฯ ที่ต้องถอนตัวออกไปตามคำสั่งทางบริหารของทรัมป์

และถือเป็นครั้งที่ 2 ที่บลูมเบิร์กเข้ามาช่วยออกเงินให้สหประชาชาติทางด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศโลก หรือ UNFCCC เพราะในปี 2017 ในสมัยรัฐบาลทรัมป์ 1.0 บลูมเบิร์กได้บริจาคเงินแทนเป็นจำนวน 15 ล้านดอลลาร์

สื่อกาตาร์รายงานว่า สหรัฐฯ ที่เป็นชาติยักษ์ใหญ่มีสัดส่วนบริจาคคิดเป็น 22% หรือราว 96.5 ล้านดอลลาร์ในตลอดระยะเวลา 1 ปี (2024-2025)


กำลังโหลดความคิดเห็น