xs
xsm
sm
md
lg

‘ทรัมป์’ ขู่ฟอดต่อเนื่องวันที่ 3 จะรีดภาษี-เพิ่มแซงก์ชัน บีบคั้นรัสเซียให้ยอมเจรจายุติสงครามในยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาเร่งรัดรัสเซียให้รีบบรรลุข้อตกลงยุติสงครามในยูเครนอีกเมื่อวันพุธ (23 ม.ค.) นับเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่องกันแล้วตั้งแต่ที่เขาสาบานตนขึ้นครองตำแหน่งสมัยสอง โดยคราวนี้ข่มขู่ว่าหากยังไม่ขยับ ก็จะรีดภาษีศุลกากรและเพิ่มมาตรการแซงก์ชันแดนหมีขาว อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์มองว่าทำเนียบเครมลินดูจะไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร เนื่องจากปัจจุบันอเมริกาห้ามนำเข้าสินค้าของรัสเซียเกือบทั้งหมดอยู่แล้ว รวมทั้งที่ผ่านมามอสโกยังเจอมาตรการลงโทษคว่ำบาตรมากมายหลากหลายจากทั้งวอชิงตันและบรัสเซลส์อยู่แล้ว

ในวันพุธ (22) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์บนทรูธ โซเชียล แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนเอง เรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน “ตกลงและหยุดสงครามน่าหัวเราะนี้ทันที”

ผู้นำสหรัฐฯ เสริมว่า ไม่ต้องการทำร้ายรัสเซีย นอกจากนั้นตนเองยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับปูติน และหวังว่าจะได้พบกันในไม่ช้า แต่เตือนว่า ถ้าสงครามในยูเครนยังไม่ยุติลงเร็วๆ นี้ เขาก็จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการขึ้นภาษี ภาษีศุลกากร และเพิ่มมาตรการแซงก์ชันทุกสิ่งทุกอย่างที่รัสเซียขายให้อเมริกา รวมทั้งลงโทษประเทศอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมในการทำสงครามนี้

ทั้งนี้ จากที่เคยยกย่องชื่นชมปูตินมาตลอด รวมทั้งประกาศที่จะยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นที่การบีบคั้นให้ยูเครนต้องยอมอ่อนข้อ ทว่าภายหลังผ่านพิธีสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันจันทร์ (20) ทรัมป์ก็กลับวิจารณ์ว่า ปูตินกำลังทำลายรัสเซียจากการทำสงครามในยูเครน และเร่งให้ประมุขวังเครมลินยอมทำข้อตกลงสันติภาพ

วันเดียวกันนั้น ปูตินแสดงความยินดีที่ทรัมป์ได้กลับสู่ทำเนียบขาว และเสริมว่า พร้อมหารือเรื่องยูเครนกับคณะบริหารชุดใหม่ของสหรัฐฯ โดยหวังว่า การหารือดังกล่าวจะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่ข้อตกลงหยุดยิงระยะสั้น

ขณะที่ดมิทรี โพลแยนสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำวอชิงตัน กล่าวว่า มอสโกจะรอดูว่า “ข้อตกลง” เพื่อยุติสงครามของทรัมป์หมายถึงอะไร ก่อนสำทับว่า คำถามสำคัญที่สุดคือ การจัดการต้นเหตุที่นำไปสู่วิกฤตยูเครน

จากนั้นในวันอังคาร ทรัมป์กล่าวกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า อาจออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ หากประธานาธิบดีปูตินปฏิเสธที่จะเจรจายุติสงครามกับยูเครน แล้วเมื่อวันพุธ เขาก็มาพูดย้ำอีกครั้งดังกล่าว

อย่างไรก็ดี เห็นกันว่า คำขู่เช่นนี้ของทรัมป์ดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก เนื่องจากในปัจจุบัน นอกจากสินค้าจำพวกปุ๋ย อาหารสัตว์ สังกะสี และเครื่องจักรจำนวนเล็กน้อยแล้ว รัสเซียก็ส่งออกไปยังอเมริกาน้อยมาก ภายหลังจากเจอมาตรการลงโทษคว่ำบาตรต่างๆ รวมทั้งการถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรอัตราสูงลิ่ว รวมทั้งต้องยุติการส่งออกน้ำมันที่เคยเป็นสินค้าออกมูลค่าสูงสุดที่ส่งให้อเมริกาตั้งแต่ปี 2023

จากสถิติของทางการสหรัฐฯ ปีที่ผ่านมา อเมริกานำเข้าผลิตภัณฑ์รัสเซียรวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 4,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 และ 14,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2022

นอกจากนั้น เวลานี้รัสเซียยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกแซงก์ชันหนักที่สุดในโลก โดยมาตรการแซงก์ชันจำนวนมากเกี่ยวข้องกับการที่มอสโกยกทัพบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 และออกโดยคณะบริหารของไบเดน

อย่างไรก็ดี มาตรการแซงก์ชันบางส่วนประกาศโดยคณะบริหารทรัมป์สมัยแรก และบางมาตรการย้อนกลับไปถึงปี 2014 ที่รัสเซียเข้าผนวกคาบสมุทรไครเมียของยูเครน

นอกจากนั้น ยังมีประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในสงครามยูเครน เช่น อิหร่านและเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นสองประเทศที่ถูกกล่าวหาบ่อยที่สุดว่า ช่วยรัสเซียในสงครามดังกล่าว และทั้งคู่อาจถูกอเมริกาแซงก์ชันเพิ่มเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกาไม่ได้ฟันธงว่า จะยังคงสานต่อนโยบายของไบเดนในการส่งอาวุธไปช่วยยูเครนหรือไม่ แต่บอกเพียงว่า กำลังจะคุยกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน รวมทั้งปูตินเร็วๆ นี้

(ที่มา : เอพี/รอยเตอร์/เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น