ราคาน้ำมันขยับลงต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันพุธ (22 ม.ค.) ตลาดทบทวนข้อเสนอรีดภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ทางพลังงาน ปัจจัยนี้ผลักทองคำปรับขึ้น ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 39 เซนต์ ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 29 เซนต์ ปิดที่ 79.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทรัมป์ กล่าวว่ารัฐบาลของเขากำลังพิจารณารีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในวันเดียวกับที่เขาเคยบอกว่า เม็กซิโก และแคนาดาอาจต้องเจอกับเพดานภาษีราว 25%
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังประกาศรีดภาษีสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรปเช่นกัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม และขู่รีดภาษีรอบใหม่เล่นงานรัสเซีย หากว่าประเทศแห่งนี้ไม่ทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน
ด้านราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันพุธ (22 ม.ค.) ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และกรณีขาดความชัดเจนเกี่ยวกับแผนนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ ซึ่งนักลงทุนเกรงว่ามันอาจโหมกระพือสงครามการค้าและก่อความผันผวนแก่ตลาด โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 7.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,767.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเช่นกันในวันพุธ (22 ม.ค.) นักลงทุนขานรับด้วยความคึกคักต่อรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของเน็ตฟลิกซ์ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงแผนโครงสร้างพื้นฐานปัญญาประดิษฐ์ในภาคเอกชน
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 130.92 จุด (0.30 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 44,156.73 เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 37.13 จุด (0.61 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,086.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 252.56 จุด (1.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,009.34 จุด
นักลงทุนพากันวางเดิมพันไปยังสัญญาณแห่งความหวังในภาคปัญญาประดิษฐ์ หลัง ทรัมป์ แถลงแผนลงทุน 500,000 ล้านดอลลาร์ ในโครงสร้างพื้นฐานด้านเอไอภาคเอกชน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความเคลื่อนไหวของหุ้นเน็ตฟลิกซ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างแรง หลังจากบริษัทแห่งนี้รายงานว่ามีจำนวนสมาชิกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เปิดทางให้พวกเขาปรับเพิ่มราคาสำหรับแผนบริการต่างๆ ส่วนใหญ่
(ที่มา : รอยเตอร์)