ทรัมป์ประกาศโครงการลงทุนมูลค่าอย่างน้อยที่สุด 500,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในอเมริกา ที่นำโดยซอฟต์แบงก์ ออราเคิล และโอเพนเอไอ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อก้าวนำทิ้งห่างพวกประเทศคู่แข่งในเทคโนโลยีเอไอที่กำลังมีความสำคัญยิ่งยวดมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อธุรกิจ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันอังคาร (21 ม.ค.) ว่า โครงการลงทุนดังกล่าวที่มีชื่อว่า “สตาร์เกต” เป็นสักขีพยานความเชื่อมั่นที่มีต่อศักยภาพของอเมริกา
ขณะที่ แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพนเอไอ มาซาโยชิ ซัน หัวเรือใหญ่ซอฟต์แบงก์จากญี่ปุ่น และแลร์รี เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งออราเคิล เข้าร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาวด้วย
ซันเผยว่า ทั้งสามบริษัทตกลงลงทุนเริ่มต้น 100,000 ล้านดอลลาร์ และสูงสุด 500,000 ล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 4 ปีต่อจากนี้ไป
โครงการร่วมทุนนี้เกิดขึ้นขณะที่บรรดาบิ๊กเทคพยายามอย่างหนักในการตอบสนองความต้องการท่วมท้นมหาศาลที่มีต่อการประยุกต์ใช้งานจากการคำนวณของเทคโนโลยีเอไอ
ทรัมป์กล่าวว่า สตาร์เกตจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั้งทางกายภาพและแบบเสมือนที่จะส่งเสริมความก้าวหน้าใหม่ๆ ในเทคโนโลยีเอไอ ซึ่งรวมถึงการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดยักษ์หลายๆ แห่งที่จะนำไปสู่การสร้างงานกว่า 100,000 ตำแหน่งในอเมริกา
ในเวลาต่อมา โอเพนเอไอ ผู้พัฒนาแชตจีพีที โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า โปรเจกต์นี้ไม่เพียงสนับสนุนการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมใหม่ของอเมริกาเท่านั้น แต่ยังนำเสนอความสามารถเชิงยุทธศาสตร์ในการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ และเหล่าพันธมิตรอีกด้วย
โพสต์ดังกล่าวเสริมว่า ซอฟต์แบงก์และโอเพนเอไอจะเป็นหุ้นส่วนหลักของสตาร์เกต โดยซอฟต์แบงก์รับผิดชอบด้านการเงิน และโอเพนเอไอรับผิดชอบด้านปฏิบัติการ นอกจากนั้นยังมีเอ็มจีเอ็กซ์ กองทุนเทคโนโลยีจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นนักลงทุนรายที่ 4 ขณะที่อาร์ม ไมโครซอฟท์ เอ็นวีเดีย ออราเคิล และโอเพนเอไอเป็นหุ้นส่วนเทคโนโลยีหลัก
เอลลิสันจากออราเคิล บริษัทซอฟต์แวร์ชั้นนำของอเมริกา กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลแห่งแรกของสตาร์เกตอยู่ระหว่างการก่อสร้างที่รัฐเทกซัส โดยจะมีการสร้างศูนย์ข้อมูล 20 แห่ง แต่ละแห่งมีพื้นที่ 500,000 ตารางฟุต และเสริมว่า โครงการนี้อาจสนับสนุนเอไอที่ทำการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพระบบอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยแพทย์ดูแลผู้ป่วย
ทั้งนี้ในปัจจุบัน เทกซัสกำลังกลายเป็นตัวเลือกใหม่มาแรงแทนที่แคลิฟอร์เนียสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในอเมริกา
ขณะที่โอเพนเอไอสำทับว่า กำลังประเมินสถานที่ที่เป็นไปได้ในการตั้งแคมปัสขึ้นทั่วอเมริกา ควบคู่ไปกับการดำเนินการข้อตกลงขั้นสุดท้าย
ผู้บริหารบิ๊กเทคทั้งสามกล่าวขอบคุณทรัมป์ โดยอัลต์แมนบอกว่า โครงการนี้คงไม่มีทางเป็นไปได้ถ้าไม่มีประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกาผู้นี้
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า การประกาศข่าวล่าสุดนี้เป็นโครงการเดียวกับที่เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี ดิ อินฟอร์เมชัน รายงานตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้วว่า โอเพนเอไอและไมโครซอฟท์กำลังร่วมมือกันในโครงการศูนย์ข้อมูลมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ที่จะครอบคลุมซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอ อีกทั้งยังมีชื่อว่า “สตาร์เกต” ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2028 หรือไม่
ข่าวนี้ออกมาหลังจากในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) คลาคล่ำไปด้วยเหล่าผู้บริหารบริษัทไฮเทคชื่อดังมากมาย เช่น ทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิล มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอเมตา และเจฟฟ์ เบโซส นายใหญ่แอมะซอน
นอกจากนั้น ในวันจันทร์ ทรัมป์ยังยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากเอไอที่มีต่อผู้บริโภค พนักงาน และความมั่นคงของชาติ เท่ากับว่า ขณะนี้อเมริกาไม่มีแนวทางในการพัฒนาเอไอระดับประเทศ แม้แต่ละรัฐกำลังพยายามกำหนดมาตรการของตนเองก็ตาม
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)