xs
xsm
sm
md
lg

PLANET#3 ‘เมแกน-แฮร์รี’ อยู่อเมริกาต่อไหวหรือ? เจออัดหนัก 2 ระลอกซ้อน โดนฉายา ‘วายร้าย’ ในสกู๊ปกรีดเละของแวนิตีแฟร์ สี่วันหลังถูกประณาม ‘ฉวยโอกาส PR ตัวเองบนหายนะของเหยื่อไฟป่า LA’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ยี่ห้อเดอะซัสเซกซ์ไม่เคยธรรมดาเลย!! ภาพจากคลิปข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อ 10 มกราคม 2025 ถูกสื่อมากมายนำไปใช้ พร้อมบรรยายว่าเมแกน มาร์เคิล ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ กอดปลอบเหยื่อไฟป่าแอลเออย่างซาบซึ้ง แต่มีผู้สันทัดกรณีชี้ว่าสตรีในเสื้อแขนกุดสีเข้มในภาพนี้ของคลิปข่าวซีบีเอส แอลเอ ซึ่งพูดคุยพลางร่ำไห้มากมายชวนให้เข้าใจว่าเธอคงจะเล่าเรื่องราวหายนะบ้านช่องถูกไฟป่าเผาราพณาสูร นั้น เป็นสต๊าฟของบางหน่วยงานสาธารณกุศลโดยเธอมีป้ายบัตรพนักงานคล้องคอ และเมื่อปรินซ์แฮร์รีทรงบอกพระชายาว่ากล้องทีวีจับภาพอยู่ ดัชเชสจึงทำการกอดปลอบขวัญอย่างซาบซึ้ง
เมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รีถูกขนานนามเป็น วายร้ายมอนเตซิโต โดยผู้คนที่ตั้งฉายาให้ก็คือบรรดาเพื่อนบ้านชาวมอนเตซิตันนั่นเอง ฟ็อกซ์ นิวส์รายงานด้วยข้อมูลที่หยิบมาจากสกู๊ปฮ็อตซี้ดซ้าดเวอร์วังของนิตยสารแวนิตีแฟร์ ที่มีชื่อสกู๊ปว่า American Hustle อันเป็นเรื่องจากปก ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2025

ด้านเดลิเมลออนไลน์ก็นำประเด็นเดียวกันนี้ของแวนิตีแฟร์ไปรายงานเช่นกัน โดยไฮไลต์ฉายาที่เจ้าชายและพระชายาถูกคนเมืองมอนเตซิโตกรีดแรงว่า เดอะปรินซ์กับดาวดวงใหม่เพิ่งเลื่อนชั้น พร้อมคำพรรณนาสรรพคุณว่าปรินซ์แฮร์รีกับเมแกนเป็นคนหลงตัวเองและไร้ความจริงใจอย่างที่สุดบนโลกใบนี้

ที่มาของฉายาดุเดือดทั้งหลายมาจากเรื่องแสบๆ ที่ชาวมอนเตซิตันหัวจะปวดและบ่นเอือมระอาไว้ในระหว่างให้สัมภาษณ์แก่แวนิตีแฟร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีที่เมแกน มาร์เคิล ถือวิสาสะบุกเข้ายึดครองชื่อ “American Riviera Orchard” ไปเป็นแบรนด์ส่วนตัว ทั้งที่ชื่ออันทรงคุณค่าและความหมายงดงามนี้ เป็นฉายาของเมืองมอนเตซิโตมาเนิ่นนาน โดยชาวเมืองพูดติดปากกันมาตั้งแต่ปี 2014 และแม้แต่ข้อมูลของหนังสือเส้นทางรถไฟปี 1898 ของบริษัทเซาเทิร์น แปซิฟิก คอมปานี ก็ระบุว่ามอนเตซิโตเป็นที่รู้จักกันในนามว่า American Riviera Orchard

“นี่มันเป็นพวกเจ้าเล่ห์ งกจะเอาแต่ได้

“มันเป็นอะไรที่สักแต่ว่าจะหาทางสร้างกำไรทุกครั้งที่สบโอกาส”

ชาวมอนเตซิตันฝากคำประณามเหล่านี้ไปกับแวนิตีแฟร์ ด้วยขัดเคืองอย่างยิ่งต่อความพยายามถือวิสาสะเข้าครอบครองฉายาแห่งความภาคภูมิใจร่วมกันของชาวเมือง

อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเมแกนแดนซักเซกซ์ยังไร้แววแห่งความสำเร็จ โดยเมื่อ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานจดทะเบียนสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งสหรัฐอเมริกาไม่อนุมัติใบคำร้อง

“การจดทะเบียนไม่ผ่าน เพราะนี่เป็นชื่อทางภูมิศาสตร์” เอกสารแจ้งปฏิเสธคำขอจดทะเบียนอธิบายไว้อย่างนั้น กล่าวก็คือ คุณไม่สามารถยึดครองชื่อสถานที่ไว้เป็นแบรนด์ของตนเอง

ทั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีเล่าเสริมไปถึงแบรนด์ The Tig ที่เมแกน อดีตดาราซีรีส์ชุด Suits (ซึ่งถ่ายทำในแคนาดา) ไปเอาฉกมาจากแวดวงชาวโทรอนโต ซึ่งใช้กันแบบป๊อปปูลาร์สุดๆ

“ชื่อเสียงจะครอบครองตัวคุณโดยทันทีที่คุณได้รับ แล้วเมแกนก็ทิ้ง The Tig ในทันทีที่เธอเป็นพระคู่รักของปรินซ์แฮร์รี และก็เป็นพระคู่หมั้น ก่อนจะมาเป็นพระชายา” ผู้สันทัดกรณีตั้งประเด็นไว้กับแวนิตีแฟร์

สกู๊ปฮ็อตซี้ดซ้าดเวอร์วังของแวนิตีแฟร์ เรื่อง American Hustle อันเป็นเรื่องจากปก ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2025 โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นข้อมูลด้านลบของปรินซ์แฮร์รีกับดัชเชสเมแกน ซึ่งรวบรวมจากการสัมภาษณ์ผู้คนหลายสิบราย

ณ วันที่ 14 มีนาคม 2024 ดัชเชสเมแกนเปิดตัวธุรกิจใหม่ของเธอภายใต้แบรนด์ American Riviera Orchard ซึ่งจะขายหม้อบ้าง กระทะบ้าง ถ้วยชามช้อนส้อม ตลอดจนบรรดาเครื่องใช้ในครัวในห้องรับประทานอาหาร อีกทั้งอาหารการกิน เช่น แยมพรีเมียม อันเป็นแนวของผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์กลุ่มสวย รวย แพง พร้อมนี้ บนเว็บไซต์ของ ARO เธอนำเสนอโลโกซึ่งเป็นอักษร H กับ M ตลอดจนชื่อของแบรนด์ให้ผู้คนได้ยลกันในรูปแบบของตัวอักษรสวยงามที่ปักอยู่บนผ้าเช็ดปากสุดหรู วันเวลาผ่านไป 3 ไตรมาสกว่าแล้ว ธุรกิจใหม่นี้ก็ยังไม่เป็นรูปธรรมขึ้นมาเลย
“เรามองว่าเมแกนกับปรินซ์แฮร์รีทรงหลงตัวเองและไร้ความจริงใจอย่างที่สุดบนโลกใบนี้”

นี่เป็นประเด็นที่สองของชาวเมืองมอนเตซิโตวิจารณ์ไว้กับแวนิตีแฟร์ พร้อมประณามไปตรงๆ ว่า “ตอนที่ย้ายออกจากอังกฤษ ทั้งสองประกาศว่าจะต้องหนีให้พ้นจากสายตาสอดส่องของพวกสื่อมวลชน แต่ที่ผ่านมาหลายปีในสหรัฐอเมริกา ทุกอย่างที่ทรงทำคือพยายามเข้าหาสื่อ”

กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า จะไปไหน จะทำอะไรก็ตาม เดอะซัสเซกซ์จะแจ้งกำหนดการและเชิญสื่อมวลชนไปด้วย อาทิ ในทริปที่เจ้าชายแฮร์รีทรงเสด็จไปไนจีเรียในเดือนพฤษภาคม 2024 นิตยสารพีเพิลได้รับเชิญให้ติดตามไปทำสกู๊ปนำเสนอออกมาแบบรายวัน รายครึ่งวัน กันเลยทีเดียว

ใช่แต่เท่านั้น เมแกนเคยไปโผล่ที่หน้างานกาลาดินเนอร์ของโรงพยาบาลเด็กแห่งลอสแอนเจลิส เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2024 โดยไม่ได้รับเชิญ และไม่ได้ซื้อบัตรเข้างานอีกต่างหาก ที่สำคัญคือ เธอไปเฉพาะช่วงโฟโต้เซสชัน ซึ่งบรรดาช่างภาพของสื่อค่ายใหญ่ยักษ์กำลังถ่ายรูปบรรดาวีไอพีเพื่อใช้ทำข่าวสังคม

พร้อมนี้ ในเมื่อเป็นอีเวนต์ของโรงพยาบาลเด็ก ก็ย่อมมีลูกหลานของวีไอพีเข้าร่วมงานด้วย เมแกนผู้มีมุกแพรวพราวย่อมไม่ไปแค่นัวๆ และย่อมไม่ยอมแค่ขอผสมโรงเข้ากล้องกับเหล่าวีไอพี (ซึ่งก็เป็นคนคุ้นเคยในแวดวงไฮโซ) เธอสร้างประเด็นให้สื่อสามารถนำไปพาดหัวข่าวได้เก๋ๆ มากมายด้วยสีสัน โดยโฉบเข้าไปทักทายคุณน้องคุณหนู ไปชวนคุยและแซวว่า ได้เวลาต้องเข้านอนแล้วไม่ใช่หรือคะ จากนั้นเธอก็ได้เป็นข่าวเกรียวกราวสมใจ พร้อมกับถูกสาธารณชนแห่กันไปเขียนคอมเมนต์ท้ายข่าวในแนวจิกกัดเหน็บแนมว่า เธอเป็นคนหิวแสง เป็นพวกฉวยโอกาสเข้ากล้องเพื่อให้ตนเองได้เป็นข่าวอีกตามเคย

เฉพาะแค่เรื่องบุกยึดครอง American Riviera Orchard ให้เป็นแบรนด์ส่วนตัว กับเรื่องภาพลักษณ์ที่เดอะซัสเซกซ์ถูกมองว่าทรงพยายามเหลือเกิน ที่จะฉวยโอกาสเข้าหน้ากล้องสื่อมวลชนเพื่อจะได้เป็นข่าวนั้น ก็หนักหนาสาหัสพอจะทำให้ถูกแปะป้าย วายร้ายมอนเตซิโต ได้แล้ว กระนั้นก็ตาม ยังมีประเด็นใหญ่ที่สะท้อนมาจากชาวเมืองผู้เดือดร้อนจากเดอะซัสเซกซ์อีกว่า ผลแห่งการหมกมุ่นมุ่งมั่นจะทำให้ตนเองเป็นข่าว ได้ทำให้ชาวมอนเตซิตันเดือดร้อนกันทั่วหน้า เพราะกองทัพนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าไปทัวร์ดูรายละเอียดชีวิตจริงปรินซ์แฮร์รีและดัชเชสเมแกนทุกวี่ทุกวัน

ขณะที่ปรินซ์แฮร์รีผู้เป็นพระสวามีไปทรงงานเสริมแกร่งการดำเนินงานขององค์การกุศล เซนเทบัลลี ณ ทวีปแอฟริกา คือ ที่ประเทศเลโซโท และประเทศแอฟริกาใต้ ในเดือนตุลาคม 2024 ดัชเชสเมแกนก็คว้าชุดสุดสวยสุดโป๊โนบราจอแฟบแบน สีแดงเพลิง ไปดอดเข้าอีเวนต์ใหญ่ประจำปีของโรงพยาบาลเด็กแห่งลอสแอนเจลิส แบบแอบเข้าทางประตูด้านหลังของห้องจัดเลี้ยงเพราะเธอไม่ได้ซื้อบัตรเข้างาน ในการนี้ ข่าวของเดลิเมลออนไลน์รายงานว่าอดีตเพื่อนสาวนางหนึ่งของดัชเชสซึ่งอยู่ในงาน ยืนยันกับนักข่าวว่าดัชเชสแอบเข้าไปเพียงเพื่อจะไปปรากฏตัวในเซสชันถ่ายภาพ พอบรรดานักข่าวและวีไอพีของงานเห็นเธอ ก็มีการทักทายกัน แล้วเธอจัดแจงจับมือถ่ายภาพที่ระลึกด้วยกันกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล และนางแบบคนดังผู้ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้แก่โรงพยาบาล ตลอดจนครอบครัววีไอพีครอบครัวหนึ่ง หลังจากเซสชันถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์ เพื่อนสาวคนดังกล่าวบอกว่าได้พยายามมองหาว่าเธอนั่งโต๊ะใด แล้วจึงได้ทราบว่าเธอถูกพาออกจากห้องจัดงานทางประตูด้านข้างไปแล้ว
ประดาผู้คนบ้านใกล้เรือนเคียงของเมแกนกับเจ้าชายแฮร์รีระบุว่า ความเปลี่ยนแปลงแย่ๆ และความเดือดร้อนรำคาญใจที่ผุดขึ้นมากมายหลังจากทั้งสองพระองค์ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อปี 2020 นั้น มีตั้งแต่ความพลุกพล่านอึกทึกครึกโครมตามท้องถนน ไปจนถึงการที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ในมอนเตซิโตถูกปั่นให้พุ่งสูง ดังนั้นเมื่อลูกหลานคนรุ่นใหม่ถึงวัยที่ต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างครอบครัว ต้องพบว่าทุกอย่างแพงมากขึ้นมหาศาลเกินกว่าที่จะเอื้อมถึงกันแล้ว

ผู้อยู่อาศัยภายในละแวกเดียวกับอดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษ (ที่ทรงตีจากพระราชสำนักวินด์เซอร์เพื่อ “แสวงหาเสรีภาพจากกรอบแห่งจารีตประเพณี” และจากสื่อมวลชน “ที่รุกล้ำความเป็นส่วนตัว”) พากันบ่นไว้ว่าสองเซเลบริตีดึงดูดเอาขบวนรถราใหญ่น้อยของกองทัพนักท่องเที่ยวให้เข้าไปสอดส่องทัวร์ดูพระตำหนักหรูมูลค่า 29 ล้านดอลลาร์

อีกทั้งไปทัวร์ร้านรวงและสถานที่ต่างๆ ที่ปรากฏเป็นข่าวโน่นนี่เกี่ยวกับดัชเชสเมแกนและปรินซ์แฮร์รี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัตตาคารหรูล้ำที่เป็นข่าวเป็นภาพว่าทั้งสองทรงเลือกไปจัดฉลองวาระสำคัญ อาทิ ครบรอบวันเกิดของเมแก

จดจนกระทั่งเส้นทางบนเนินเขาที่เป็นข่าวเป็นภาพว่าดัชเชส พร้อมองครักษ์กับทีมงานอาร์ชแวล ไปเดินไฮกิ้ง ในวันวารซึ่งปรินซ์เสด็จไปร่วมพระราชพิธีราชาภิเษกของคิงชาร์ลส์ที่กรุงลอนดอน ก็ได้รับความสนใจล้นหลามจากนักท่องเที่ยวทั้งปวง

ดังนั้น มอนเตซิโตซึ่งเคยสงบสุข ร่มรื่น ปลอดภัย อยู่กันได้อย่างสบายๆ จึงถูกรบกวนจากความอึกทึกวุ่นวายและจ้อกแจ้กจอแจ ไปจนถึงปัญหารถราของคนต่างถิ่นที่วิ่งกันเร็วและอันตรายมาก ตลอดจนปัญหาว่ากระทั่งพื้นที่จอดรถซึ่งชาวเมืองเคยใช้กันอย่างเพียงพอ ก็ถูกสารพัดทัวริสต์กรุ๊ปเล็กกรุ๊ปใหญ่บุกเข้าไปครอบครอง แม้แต่ภัตตาคารลักกี้ส์ ร้านโปรดของชาวเมือง ยังถูกทัวริสต์จองโต๊ะไว้หมดแล้ว

ความรู้สึกเอือมระอาและติดลบอย่างหนักในหลากหลายมิติ ที่ผู้คนบ้านใกล้เรือนเคียงของเดอะซัสเซกซ์และชาวเมืองมอนเตซิโตหลายสิบรายให้สัมภาษณ์แก่แวนิตีแฟร์ กลายเป็นคอนเฟิร์มถึงภาพลักษณ์ร้ายๆ ของเมแกนและปรินซ์แฮร์รีที่สะสมต่อเนื่องตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับสร้างความกริ้วและหัวเสียให้แก่เดอะซัสเซกซ์ทั้งสองตามที่สกายนิวส์รายงานไว้

สกายนิวส์ระบุด้วยว่าอิมเมจของดัชเชสกับดยุกทรุดหนักทีเดียว เพราะระเบิดจากแวนิตีแฟร์เปรี้ยงปร้างออกมาแบบติดๆ กับพระอีเวนต์ไฟป่าแอลเอซึ่งทั้งสองเพิ่งถูกฟันแสกหน้าด้วยคำประณามอันน่าอับอายว่า หิวแสง ฉวยโอกาสพีอาร์ตัวเองโดยโหนกระแสความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย

ภัตตาคาร Tre Lune ในมอนเตซิโต ซึ่งได้ให้บริการแก่ปรินซ์แฮร์รีกับเมแกน มาร์เคิล ในโอกาสฉลองวันเกิดของเมแกน เป็นหนึ่งในจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว โดย Tre Lune เป็นภัตตาคารโปรดของบรรดาเซเลบเก่าใหม่มากมาย อาทิ เควิน คอสต์เนอร์ เคนนี ล็อกกินส์ คอร์ทนีย์ คาร์ดาเชียนกับสามี

เมแกน มาร์เคิล นำช่างภาพและทีมวิดีโอไปยังเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 และถ่ายทำคอนเทนต์แจกสื่อมวลชนว่า ตัวเธอได้รีบรุดไปเยี่ยมครอบครัวของเหยื่อแห่งโศกนาฏกรรมวัยรุ่นกราดยิงเด็กนักเรียนชั้นประถมและคุณครู รวม 21 ชีวิต ในภาพนี้ เป็นช่วงวางช่อดอกไม้ไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิต ผลที่ตามมาคือ เธอถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างอื้ออึงว่าฉวยโอกาสเข้าไปพีอาร์ตนเอง และมีคอมเมนต์จำนวนมากตั้งคำถามว่า เธอจะทำภารกิจโดยไม่แสวงผลประโยชน์ส่วนตัวได้สักครั้งในชีวิตไหม
‘เมแกน-แฮร์รี’ โดนหยามเป็น ‘ทัวริสต์เที่ยวชมหายนะไฟป่า LA’ & ไปโผล่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ‘แค่ฉวยโอกาสเข้าหน้ากล้องสื่อ จะได้เป็นข่าวหรูดูดี’

ชีวิตในปี 2025 ของปรินซ์แฮร์รีกับเมแกนเริ่มขึ้นอย่างสะบักสะบอม โดยที่ว่าเมื่อห้าวันก่อนจะบอบช้ำหนักด้วยข้อมูลด้านลบมากมายในสกู๊ปของแวนิตีแฟร์ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งสองเพิ่งถูกหักหน้ายับเยิน ว่าฉวยโอกาสโฆษณาพีอาร์ตัวเองบนหายนะของผู้เคราะห์ร้ายจากมหันตภัยไฟป่าลอสแอนเจลิส ทำเอาเดอะซัสเซกซ์เดือดร้อนตรมใจซ้ำซ้อน สกายนิวส์ออสเตรเลียรายงาน

โดยเมแกนและเจ้าชายแฮร์รีทรงถูกประณามเป็น ‘ทัวริสต์เที่ยวชมหายนะชาวบ้าน’ หลังไปปรากฏตัวในพื้นที่ประสบภัยป่ามหันตภัย โดยมีนายกเทศมนตรีนครแพซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย พาทัวร์ดูซากอาคารที่อยู่อาศัยหรูหราซึ่งเหลือแต่เถ้าและเศษหินดินปูน แบบเดียวกับการนำประธานาธิบดียูเอสเอ ออกตรวจสถานการณ์ แม้อดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษสองพระองค์นี้ มิได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้องใดๆ หนำซ้ำยังนำทีมงานถ่ายวิดีโอและช่างภาพ ตลอดจนทีมองครักษ์ไปด้วยแบบเต็มคณะ

ต่อมา ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน คือ ศุกร์ที่ 10 มกราคม 2025 ก็ไปที่ด้านหน้าศูนย์พักพิงและช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยไฟป่าลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ทีมของโทรทัศน์ฟ็อกส์ 11 แอลเอ กับคณะของซีบีเอส ได้รับแจ้งกำหนดการล่วงหน้า และยกกองไปตั้งกล้องถ่ายทำข่าวถ่ายทอดสดอย่างเอิกเกริก จนทำให้เกิดคอมเมนต์ประชดประชันที่ท้ายข่าวของสารพัดเว็บไซต์สื่อมวลชนใหญ่น้อยทั้งปวง เช่น เจ้าชายอังกฤษและพระชายาทรงไปปฏิบัติพระภารกิจในสหรัฐน ในฐานะผู้แทนพระราชวงศ์อังกฤษหรืออย่างไร


และด้วยความที่สาธารณชนแห่กันโหนกระแส-ตามถล่มด้วยคอมเมนต์ตำหนิติเตียนดุเดือดอื้ออึง ความเคลื่อนไหวของดัชเชสเมแกนกับปรินซ์แฮร์รีจึงฮือฮาต่อเนื่องตั้งแต่วันอาทิตย์ (12) เช่น แฟนประจำของเดลิเมลออนไลน์ถล่มกันเข้าไปคอมเมนต์ดุเดือดจำนวนไม่น้อยกว่า 7,500 ราย โดยบางคอมเมนต์เรียกไลก์ได้เกือบหนึ่งหมื่นกันเลยทีเดียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเท้าความถึงกรณีกราดยิงเด็กนักเรียนชั้นประถมและคุณครู รวม 21 ชีวิต ในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัสเมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 ซึ่งเมแกน มาร์เคิล (ซึ่งมีเรตติ้งคะแนนนิยมตกต่ำเรื้อรัง ทั้งในสายตาของคนอเมริกันและคนอังกฤษ) นำช่างภาพและทีมวิดีโอยกขบวนใหญ่ไปถ่ายทำคอนเทนต์ที่เธอไปเยี่ยมครอบครัวผู้สูญเสียบุตรธิดา ตลอดจนไปวางช่อดอกไม้ไว้อาลัย

ความเคลื่อนไหวปี 2022 ของเมแกนถูกวิจารณ์สับเละว่าเป็นการฉวยโอกาสโหนกระแสความทุกข์ตรมของชาวบ้าน เพื่อทำให้ตนเองได้เป็นข่าว ละม้ายพวก Ambulance Chaser ที่แสวงผลประโยชน์จากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน คำเรียกดังกล่าวนี้ คนอเมริกันใช้ประณามพวกทนายความที่กระเหี้ยนกระหือรือ จะสร้างรายได้จากการทำคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ให้แก่เหยื่อในอุบัติเหตุต่างๆ แล้วกรีดเอาส่วนแบ่งรายได้เมื่อชนะคดีในอัตราครึ่ง-ครึ่ง หรือมากกว่านั้น

ทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง หนำซ้ำยังเชิญสื่อไปด้วย ดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์ไปปรากฏพระองค์เดินดูอาคารบ้านเรือนทั้งปวงที่ถูกไฟป่ารุนแรงแผ่ลามเข้าเผาผลาญเหลือแต่ซากปรักหักพังของอิฐหินและดินปูน โดยมีนายกเทศมนตรีวิกเตอร์ กอร์โด (คนกลาง หันหลัง) แห่งนครแพซาดีนา นำชมด้วยตนเอง ดังนั้น ท่านผู้ชมหลายพันรายแห่กันคอมเมนต์ตำหนิติเตียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิจารณ์ว่าเธอเป็นคนที่สักแต่จะโหนกระแสความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยไฟป่า เพื่อให้ตัวเองได้เป็นข่าว นอกจากนั้น บางคอมเมนต์ชี้ให้สังเกตรองเท้าที่เธอสวมใส่ ซึ่งสะท้อนว่าเธอมิได้จริงจังกับสถานการณ์ไฟป่าอันดุเดือด และจึงไม่ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นหินดินเถ้าถ่านจากบรรดาบ้านเรือนที่ถูกเผาราบไปหมด
“เมแกน มาร์เคิล และปรินซ์แฮร์รี ไม่ได้ดีไปกว่าพวกวิ่งไล่ตามรถฉุกเฉิน - Ambulance Chasers” จัสทีน เบทแมน (อดีตนักแสดงสาวดาวเด่นแห่งซีรีส์ซิทคอมยอดนิยมเรื่อง Family Ties ซึ่งแม้จะยกระดับตนเองขึ้นเป็นนักเขียนบทระดับมือรางวัลเอ็มมี และนักสร้างภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมไปแล้ว เธอก็ยังเป็นที่รักของชาวอเมริกันมากมาย) เขียนประณามอดีตสมาชิกพระราชวงศ์อังกฤษ ไว้บนโซเชียลมีเดียเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2025 โดยเป็นกระทู้อยู่บน ทวิตเตอร์ หรือก็คือ เอ็กซ์ ที่จัสทีนมีฟอลโลเวอร์เกือบสองแสน

ทั้งนี้ จัสทีน เบทแมน หมายถึงพวกที่คอยแสวงผลประโยชน์และเบียดเบียนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยแดกดันกันโจ้งๆ ว่าเป็นการมาปรากฏตัวทั้งที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง (หนำซ้ำยังเชิญสื่อโทรทัศน์ไปด้วย) ช่างเป็นคนที่สักแต่จะโหนกระแสความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยไฟป่า เพื่อให้ตัวเองได้เป็นข่าว

จัสทีน เบทแมน เขียนต่อมาว่าสองคนนี้ฉวยโอกาสเข้าหน้ากล้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ตนเองซะยกใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องน่ารังเกียจ

“พวกเขามาเที่ยวชมความเสียหายอย่างนั้นล่ะหรือ”
จัสทีนตั้งคำถามแนวเสียดสี แล้วประชดถากถางต่ออีกว่า

“พวกเขาเป็นนักการเมืองแล้วกระมัง พวกเขาไม่ได้เป็นคนที่นี่ พวกเขาเป็นนักท่องเที่ยว เป็นทัวริสต์เที่ยวชมหายนะ”

จัสทีน เบทแมน อดีตนักแสดงสาวดาวเด่นแห่งซีรีส์ซิทคอมยอดนิยมเรื่อง Family Ties ซึ่งแม้จะยกระดับตนเองขึ้นเป็นนักเขียนบทระดับมือรางวัลเอ็มมี และนักสร้างภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมไปแล้ว เธอก็ยังเป็นที่รักของชาวอเมริกันมากมาย  จัสทีน เบทแมนเขียนประณามเมแกน มาร์เคิล ไว้บนโซเชียลมีเดียเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2025 โดยเป็นกระทู้อยู่บน ทวิตเตอร์ หรือก็คือ เอ็กซ์ ที่จัสทีนมีฟอลโลเวอร์เกือบสองแสน

กระทู้ของจัสทีน เบทแมน ที่โพสต์บนทวิตเตอร์ หรือก็คือ X ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2025
กระทู้ตีแสกหน้าซึ่งโพสต์ขึ้นทวิตเตอร์โดยจัสทีน เบทแมน เป็นหนึ่งในปฏิกิริยาองค์รวมของสาธารณชนซึ่งเห็นความไม่เหมาะสม ที่ดัชเชสและดยุกแห่งซัสเซกซ์ไปปรากฏพระองค์ เดินตามนายกเทศมนตรีวิกเตอร์ กอร์โด แห่งนครแพซาดีนา เข้าไปดูอาคารบ้านเรือนทั้งปวงที่ถูกไฟป่ารุนแรงแผ่ลามเข้าเผาผลาญเหลือแต่ซากปรักหักพังของอิฐหินและดินปูน พร้อมกับพูดคุยกับคุณดั๊ก กู๊ดวิน ซึ่งสูญเสียบ้านทั้งหลังในหายนะไฟป่าอีตันไฟร์ Eaton Fire ในเขตอัลตาดีนาของหุบเขาซานเกเบรียล ในเคาน์ตีลอสแอนเจลิส

นักวิเคราะห์สถานการณ์เข้าไปคอมเมนต์ด้วยคำถามว่า ทั้งสองพระองค์ ซึ่งมิใช่องค์การบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้บริหารหน่วยงานรัฐบาลเลยนั้น มีบทบาทหน้าที่อะไรเกี่ยวกับปัญหาไฟป่า ถึงได้รับอนุญาตเข้าพื้นที่ ซึ่งในเวลาเดียวกันนั้น ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเสียหายโดยตรง ยังไม่ได้รับอนุญาต หนำซ้ำ ทั้งสองยังมีบุคลากรภาครัฐระดับนายกเทศมนตรีนำชมหายนะ ราวกับเป็นทัวริสต์ที่ไปเที่ยวชมหายนะของผู้คน หรือเป็นประธานาธิบดีเข้าไปตรวจงาน

อาทิ การวิจารณ์ของคุณบริตทานี แห่งช่องทีวีออนไลน์ “เครือข่ายข่าวราชวงศ์” Royal News Network ที่มีฐานอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งตั้งคำถามว่าเมแกนและปรินซ์แฮร์รีเข้าไปเที่ยวชมอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัวของใครต่อใครที่ย่อยยับอัปราด้วยไฟป่าเผาผลาญได้อย่างไร มันเป็นเรื่องที่ผิดกาละเทศะและแย่มากๆ ทั้งสองไปเสนอจะมอบสิ่งใดหรือเปล่า ทั้งสองเป็นตัวแทนของรัฐบาลหรือภาคส่วนประชาชนใดๆ หรือเปล่า ทั้งสองสามารถป้อนข้อมูลให้แก่รัฐบาลกลางได้หรือเปล่า ทั้งสองแค่สักแต่ว่าขอเข้าไป แล้วก็มีช่างภาพส่วนตัวตามไปถ่ายรูป

นอกจากนั้น ปฏิกิริยาประณามถากถางที่ออกมาจากจัสทีน เบทแมน ยังสะท้อนว่าเธอได้ทราบข้อมูลวงในเฉกเช่นนักข่าวทั้งปวง ว่าชาวคณะของเดอะซัสเซกซ์มีการแจ้งสถานีโทรทัศน์และบางสำนักข่าวใหญ่ให้ทราบล่วงหน้า มีการประสานผู้บริหารแห่งนครแพซาดีนา มีการนำทีมช่างภาพและทีมองครักษ์ของตนเองไปในขบวน

คอมเมนต์ของจัสทีน เบทแมน เป็นดั่งการประณามแทนใจของสาธารณชนว่า เมแกน มาร์เคิล มาแบบเดียวกับกรณีที่เธอยกขบวนทีมถ่ายวิดีโอและช่างภาพไปพีอาร์ตนเองในเมืองยูวัลดี รัฐเท็กซัส ที่เกิดโศกนาฏกรรมกราดยิงในโรงเรียนประถมศึกษา และเด็ดชีพเด็กนักเรียนกับคุณครูไป 21 ราย

สื่อยักษ์ใหญ่ TMZ ของอเมริกาเป็นค่ายแรกๆ ที่นำกระทู้ของจัสทีน เบทแมน ขึ้นรายงานเป็นข่าวเด่นในวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2025 พร้อมกับแนบกระทู้ของนักวิจารณ์คนดังคือ HarrysGreySuit ที่ตอบกลับจัสทีนว่า

สองคนนี้ที่วิ่งไล่ตามหายนะ Disaster Chasers ออกมาเพื่อโฆษณาตนเอง แล้วก็เพื่อให้ผู้คนได้เห็นความเคลื่อนไหวของตน

และในกระทู้เดียวกันนี้ มีการย้ำความเปิ่นเทิ่นของนักข่าวฟ็อกซ์11แอลเอ ด้วยว่า

“นักข่าวงี่เง่าเรียกเมแกนว่า ปรินเซสเมแกน” (ต่อด้วยอิโมจิหัวเราะจนน้ำตาเล็ด)

เพราะแนวปฏิบัติที่ถูกต้องในการเรียกผู้หญิงที่เสกสมรสกับปรินซ์อังกฤษนั้น เรียกได้อย่างเดียวคือ ปรินเซส+พระนามของปรินซ์ ดังนั้น คำเรียกที่ถูกต้องหากจะอวยดัชเชสเมแกน ก็คือ “ปรินเซสแฮร์รี”

กระนั้นก็ตาม ที่ผ่านมา เมแกน มาร์เคิลเองก็อดใจไม่ได้ที่จะเรียกขานตนเองว่า ปรินเซสเมแกน ดังที่ปรากฏในวันแม่ ปี 2024 เมื่อเธอโพสต์คำอวยพร แล้วลงชื่อข้างท้ายข้อความว่า ปรินเซสเมแกน

(สตรีสามัญชนที่จะได้คำนำหน้าชื่อว่า ปรินเซส จะต้องได้รับพระราชทานยศถาบรรดาศักดิ์อย่างเป็นทางการจากสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ซึ่งก็ได้แก่ ปรินเซสไดอานา และ ปรินเซสแคเธอริน)

ในภาพคำอวยพรวันแม่ที่ดัชเชสเมแกนนำขึ้นทวิตเตอร์ เธอลงชื่อว่า ปรินเซสเมแกน นี่เป็นการแอบอ้าง เพราะยศถาบรรดาศักดิ์ที่เธอได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 คือ ดัชเชส ซึ่งต่ำชั้นกว่าพระอิสริยยศ ปรินเซส
ข่าวที่รายงานว่า ‘เมแกนกับปรินซ์ไปแจกอาหารสิ่งของแก่ผู้ประสบภัยไฟป่า’ น่าจะไม่ได้เป็นอย่างนั้น รูปที่ไปยืนเข้ากล้องฟ็อกซ์นิวส์มีสิบกว่าภาพ แต่รูปแจกของ ไม่โผล่เล

เมแกน มาร์เคิล กับปรินซ์แฮร์รีปรากฏพระองค์ด้านหน้าศูนย์การประชุมแพซาดีนา ซึ่งถูกจัดเป็นศูนย์ให้ที่พักพิงช่วยเหลือฉุกเฉิน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม นานแค่ 17 นาที แต่รายงานข่าวบอกต่อๆ กันไปว่าทั้งสองไปแจกอาหารเสื้อผ้าข้าวของแก่ผู้ประสบภัยไฟป่าแอลเอ มันจะเป็นไปได้อย่างไร คำทักท้วงนี้ปรากฏอยู่ในบรรดาคอมเมนต์ท้ายข่าว

ทั้งนี้ คลิปข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์11 แอลเอ ปรากฏให้เห็นแค่ว่าเมแกนกับปรินซ์แฮร์รีสนทนากับนายกฯ วิกเตอร์ กอร์โด นายกเทศมนตรีแห่งนครแพซาดีนา และทักทายกับโฮเซ แอนเดรส ผู้ก่อตั้งองค์การกุศลเวิล์ด เซนทรัล คิทเชน หรือ ดับเบิลยูซีเค ซึ่งเป็นพระสหายเก่าแก่ของปรินซ์ แล้วก็ลีลาพูดคุยเห็นอกเห็นใจที่เมแกนกอดปลอบขวัญสตรีรายหนึ่งซึ่งสื่อมวลชนรายงานว่าเป็นผู้ประสบภัยไฟป่าแอลเอ

นอกจากนั้น เป็นลีลาที่ดัชเชสเมแกนเดินไปส่องๆ แถวโต๊ะแจกอาหารน้ำดื่ม ซึ่งมีมาดามเจนนิเฟอร์ ซีเบล นิวซัม (ศรีภริยาของ แกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย) เป็นเจ้าภาพและอยู่ระหว่างอำนวยการต่างๆ โดยในคลิปของช่วงนี้ ฟ็อกซ์11 รายงานว่าเมแกนเดินปะปนผู้คนเข้าไปบริเวณที่แจกอาหารกันอยู่

ดังนั้น ภาพถ่ายกิจกรรมของทั้งสอง ณ พื้นที่ประสบภัยไฟไหม้ป่าในวันศุกร์ที่ 10 ในหลายๆ บรรยากาศนั้น จึงไม่ปรากฏภาพกิจกรรมแจกอาหารเสื้อผ้าสิ่งของเลย

แต่ด้วยมุมกล้องของภาพหนึ่งจากคลิปข่าวโทรทัศน์ฟ็อกซ์11 แอลเอ มีภาพของดัชเชสเมแกนติดอยู่ตรงด้านนอกโต๊ะแจกอาหารของภริยาผู้ว่าการแคลิฟอร์เนีย สื่อทั้งปวงจึงนำไปรายงานว่า เมแกนนำอาหารน้ำดื่มไปแจกช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ภาพนี้จากคลิปข่าวของสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ 11 แอลเอ ปรากฏอยู่ในรายข่าวของเดลิเมลออนไลน์ พร้อมคำบรรยายว่าเมแกนและปรินซ์แฮร์รีแจกอาหารแก่ผู้ประสบภัยไฟป่าแอลเอ ซึ่งเป็นการทึกทักเอาเองเพราะเห็นเหมือนกับว่าเมแกนยืนติดกับทีมงานที่กำลังแจกถุงอาหาร  ทั้งนี้โต๊ะแจกอาหารน้ำดื่มตรงจุดนี้ ซึ่งมีมาดามเจนนิเฟอร์ ซีเบล นิวซัม (ที่สองจากขวา - ศรีภริยาของ แกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย) เป็นเจ้าภาพนั้น มีความยาวสิ้นสุดที่จุดที่มาดามนิวซัมยืนอยู่ ส่วนจุดที่เมแกนยืนเป็นพื้นที่ด้านข้างโต๊ะ มีถังน้ำแข็งไซส์จัมโบ้วางติดกับขาโต๊ะ
จนกระทั่งในวันอาทิตย์ (12) ซึ่งมีข่าวครึกโครมว่าเมแกนถูกประณามเป็นพวกฉวยโอกาสเข้าหน้ากล้องนักข่าว หมายจะพีอาร์ตนเองนั่นแล จึงเพิ่งปรากฏข่าวและภาพในวันพุธ (15) ว่า เมแกนนำเสื้อผ้าของใช้ไปมอบแก่กลุ่มการกุศล Altadena Girls ซึ่งเป็นกิจกรรมของสาวน้อยวัยเพียง 14 ปี นามไพเราะ เอเวอรี คอลเวิร์ต นักเรียน ม.2 ที่ร่วมกันกับฝ่ายต่างๆ รวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ครีมบำรุงผิวพรรณ ฯลฯ สารพัดอย่างสำหรับผู้หญิง ไปตั้งศูนย์แจกฟรีในโรงสตูดิโอด้านงานศิลปะในลอสแอนเจลิส

แต่แล้ว ความเคลื่อนไหวนี้ของเมแกนถูกผู้สันทัดกรณีตั้งข้อสังเกตว่า สาวน้อยเอเวอรี คอลเวิร์ต ยืนคุยกับเมแกนแบบที่กอดอกไว้ เมแกนจึงไม่สามารถโชว์โอบกอดซาบซึ้งกับเอเวอรีได้ และจึงสามารถโหนกระแสสุดฮอตของเอเวอรีได้แค่ในระดับจับแขนเท่านั้น

ภาพบรรยากาศคึกคักในสตูดิโอที่กลุ่ม Altadena Girls ใช้เป็นศูนย์แจกของใช้สวยงามสารพัดสิ่ง แก่ผู้หญิงที่ประสบภัยไฟป่า ซึ่งกลุ่มนำขึ้นแชร์บนไอจี @altadenagirls ทั้งนี้ นักเรียน ม.2 นามเอเวอรี คอลเวิร์ด เล่าไว้กับนิวยอร์กไทมส์ว่าเธอได้ฟังจากเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเล่าถึงความเดือดร้อนมากมาย ขาดแคลนของใช้จำเป็นไปทุกสิ่งอย่าง จะไปขอใครก็ไม่กล้า ก็จึงริเริ่มภารกิจ Altadena Girls ขึ้นมารวบรวมของบริจาคสำหรับสาวๆ แล้วนำไปตั้งศูนย์แจกฟรี โดยมีตั้งแต่บราเซียร์ เสื้อผ้า ของใช้ เครื่องสำอาง “ซึ่งจะช่วยให้เพื่อนๆ ที่ประสบภัยได้ฟื้นฟูความรู้สึกดีๆ ต่อตนเอง”
“เซเลบริตีเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้นล่ะค่ะ” กล่าวโดย เอเลน ลูอี้ เซเลบคนดังแห่งรายการเลนนี่ กอสซิป ซึ่งมีผู้คนติดตามอย่างล้นหลาม เพราะติดใจในลูกเล่นแนวโหดมันฮาที่เธอยิงมุกออกมา ล้วนแต่โดนๆ ทั้งนั้น

เอเลน ลูอี้ เมาท์มอยพวกเซเลบหิวแสงว่า “อย่ามาถ่ายรูปชั้นนะ แต่ก็...เอาเถอะ ขอชั้นเดินไปยืนสวยๆ แล้วรัวชัตเตอร์ได้เลย ตอนรีวิวหนังของชั้น อัลบั้มของชั้น ก็เชียร์ให้ดีๆ ด้วยล่ะ ไม่งั้น ชั้นจะโพสต์ไอจีว่าคุณน่ะแหละที่ห่วย เป็นนักวิจารณ์ไม่เอาอ่าว”

หลังจากนั้น เอเลนแห่งรายการเลนนี่ กอสซิป บอกผ่านแวนิตีแฟร์ไปด้วยว่า “คำวิพากษ์จิกกัดแนะแน๋เมแกน มาร์เคิล ทั้งปวงนั้น ขอบอกเลยว่าเมื่อมีชื่อเสียงขึ้นมา เรื่องหวังจะได้รับแต่ส่วนที่เชียร์ชมอย่างเดียวน่ะ เป็นไปไม่ได้หรอก”

เอเลน ลูอี้ เซเลบคนดังแห่งรายการเลนนี่ กอสซิป ซึ่งมีผู้คนติดตามอย่างล้นหลาม
คอลัมน์ PLANET No.3

โดย รัศมี มีเรื่องเล่า


(ที่มา: แวนิตีแฟร์ ฟ็อกซ์11 แอลเอ เดลิเมลออนไลน์ ซีบีเอส แอลเอ สกายนิวส์)

กำลังโหลดความคิดเห็น