อินฟลูเอนเซอร์สาวชาวออสเตรเลีย ถูกตั้งข้อหาวางยาพิษลูกสาววัยทารกของเธอเอง เพื่อขอรับเงินบริจาคและเพิ่มผู้ติดตามบนสื่อสังคมออนไลน์
ผู้หญิงชาวควีนส์แลนด์รายนี้ เล่าเรื่องราวบนสื่อสังคมออนไลน์ อ้างว่าลูกน้อยของเธอกำลังต่อสู้กับอาการป่วยระยะสุดท้าย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เจ้าหน้าที่สืบสวนจะพบว่าเธอเป็นคนวางยาทารกวัย 1 ขวบด้วยตนเอง จากนั้นก็ถ่ายคลิปตอนที่ลูกน้อยกำลังทุกข์ทรมานและเจ็บปวด และโพสต์มันบนสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อขอรับเงินบริจาคและเพิ่มยอดผู้ติดตาม
คณะแพทย์รู้สึกถึงความผิดปกติ และแจ้งเรื่องนี้กับตำรวจ ในเดือนตุลาคม ครั้งที่ทารกถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ด้วยอาการเจ็บป่วยรุนแรง และหลังจากทำการสืบสวนนานหลายเดือน ผู้หญิงวัย 34 ปีรายนี้ได้ถูกตั้งข้อหาทรมาน วางยาพิษ ทำให้เด็กเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ และฉ้อโกง
"ไม่มีคำพูดใดที่จะบรรยายลักษณะการกระทำผิดอันน่ารังเกียจเช่นนี้ได้" ผู้บัญชาการตำรวจควีนส์แลนด์ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.)
ตำรวจสืบสวนพบว่า ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ผู้หญิงรายนี้จากภูมิภาคซันไชน์ โคสต์ ให้ยาเด็กหลายต่อหลายครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต เธอดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งยา โดยปราศจากใบสั่งทางการแพทย์ ในนั้นรวมถึงยาเหลือใช้ของบุคคลอื่น และหาทางปกปิดพฤติกรรมของตนเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มสืบสวนคดีนี้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม หลังเด็กถูกพาตัวส่งโรงพยาบาล ในอาการ "ภาวะวิกฤตทางอารมณ์และไม่สุขสบายทางร่างกายอย่างรุนแรง" และสุดท้ายผลตรวจเกี่ยวกับการใช้ยาที่ไม่ได้รับอนุญาต ก็ออกมาเป็นบวก ในเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจควีนส์แลนด์ เผยว่าเวลานี้เด็กปลอดภัยแล้ว และกำลังฟื้นตัวเป็นอย่างดี
ผู้บัญชาการตำรวจควีนส์แลนด์ ระบุว่าผู้หญิงรายนี้ระดมเงินได้ถึง 60,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 1.2 ล้านบาท) ในการรับบริจาคผ่าน GoFundMe ซึ่งเวลานี้ทางเว็บไซต์ดังกล่าวกำลังหาทางชดใช้คืนแก่ผู้เสียหาย
ตำรวจได้มีการสืบสวนคนอื่นๆ เกี่ยวกับคำกล่าวหาล่วงละเมิดเด็กเช่นกัน แต่ไม่มีหลักฐานที่จะเอาาผิดคนอื่น
ทั้งนี้ ผู้หญิงรายดังกล่าวมีกำหนดถูกนำตัวขึ้นศาลชั้นต้นในบริสเบน ในวันศุกร์ (17 ม.ค.)
(ที่มา : บีบีซี)