ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) หลังคาดกบฏฮูตีอาจหยุดโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดง จากข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบ ทบทวนรายงานผลประกอบการบริษัทและข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่ทองคำปรับขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 1.36 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 81.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทางทะเลคาดหมายว่าพวกนักรบฮูตีจะแถลงหยุดโจมตีในทะเลแดงในไม่ช้า หลังอิสราเอลและพวกนักรบปาเลสไตน์ "ฮามาส" พันมิตรของพวกเขาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา
การโจมตีที่ผ่านมา ก่อความวุ่นวายแก่การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ บีบให้บริษัทต่างๆ ใช้เส้นทางที่ยาวกว่าเดิมและใช้ต้นทุนมากกว่าเดิม อ้อมไปยังทางใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นเวลากว่า 1 ปี
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) หลังจากพุ่งแรงหนึ่งวันก่อนหน้านี้ นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการบริษัทต่างๆ เมื่อเร็วๆ นี้ และทบทวนข้อมูลทางเศรษฐกิจ เพื่อสรุปเส้นทางการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดาวโจนส์ ลดลง 68.42 จุด (0.16 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 43,153.13 เอสแอนด์พี ลดลง 12.57 จุด (0.21 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,937.34 จุด แนสแดค ลดลง 172.94 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 19,338.29 จุด
ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับการคืนชีพของแรงกดดันทางราคา ในขณะที่รายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคธนาคาร ช่วยให้ดัชนีทั้ง 3 ของสหรัฐฯ ทำสถิติปิดบวกวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) บ่งชี้ว่าการใช้จ่ายผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานยังคงมั่นคงเช่นกัน เปิดทางให้เฟดอาจตัดสินใจชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ส่วนราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ หลังข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุด ก่อแรงกดดันแก่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 27.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 2,745.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)