ติ๊กต็อกเตรียมปิดกิจการในสหรัฐฯ วันอาทิตย์ (19 ม.ค.) นี้ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลอเมริกัน ยกเว้นแต่จะได้รับการผ่อนผันในนาทีสุดท้าย ทั้งนี้ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าววงใน ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สื่อดังรายงานว่า ทรัมป์ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (20) หนึ่งวันหลังจากมาตรการแบนมีผลบังคับใช้ กำลังพิจารณาใช้คำสั่งฝ่ายบริหารชะลอการปิดแอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้ออกไปอีก 60-90 วัน
ตามกฎหมายฉบับที่ผ่านรัฐสภาสหรัฐฯ โดยได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้งสองพรรคใหญ่อย่างท่วมท้น และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา กำหนดให้แบนการดาวน์โหลดติ๊กต็อกบนแอปสโตร์ของแอปเปิลและกูเกิล หากไบต์แดนซ์ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ไม่ยอมขายธุรกิจติ๊กต็อกในอเมริกาภายในวันที่ 19 ม.ค.
ภายหลังการแบน ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดติ๊กต็อกไว้แล้วจะยังสามารถใช้แอปนี้ได้ในทางทฤษฎี อย่างไรก็ดี กฎหมายห้ามไม่ให้บริษัทของอเมริกาให้บริการใดๆ ที่จะช่วยให้มีการเผยแพร่ ซ่อมบำรุง หรืออัปเดตติ๊กต็อกนับจากวันอาทิตย์นี้
ทางด้านสื่อวอชิงตันโพสต์รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ (20) กำลังพิจารณาออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อระงับการบังคับแบนติ๊กต็อกออกไป 60-90 วัน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ทรัมป์จะดำเนินการทางกฎหมายในเรื่องนี้อย่างไร
ทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์นั้น ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ทว่า ก่อนหน้านี้ทรัมป์ระบุว่า ตนเองสมควรที่จะได้รับเวลาอีกระยะหนึ่งหลังเริ่มทำงาน เพื่อหาทางออกทางการเมืองสำหรับกรณีนี้
ก่อนหน้านี้ ไมค์ วอลซ์ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์เมื่อวันพุธ (15) ว่า ติ๊กต็อกเป็นแพลตฟอร์มที่น่าทึ่ง และคณะบริหารของทรัมป์จะหาวิธีสงวนรักษาแพลตฟอร์มนี้เพื่อปกป้องข้อมูลข่าวสารของประชาชน
ขณะเดียวกัน นิวยอร์กไทมส์ สื่อใหญ่สหรัฐฯอีกเจ้าหนึ่งรายงานว่า ซีอีโอติ๊กต็อกได้รับเชิญไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ด้วย โดยถูกจัดให้นั่งในส่วน “แขกผู้มีเกียรติ”
ด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ไม่มีแผนเข้าแทรกแซงเพื่อระงับการแบน หากศาลสูงสุดวินิจฉัยให้เดินหน้าบังคับใช้การแบน และสำทับว่า ในทางกฎหมายไบเดนไม่สามารถแทรกแซงได้ ถ้าหากไบต์แดนซ์ไม่เสนอแผนขายติ๊กต็อก
อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา สื่อเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีรายงานว่า คณะบริหารของไบเดนกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ ติ๊กต็อก ในอเมริกาซึ่งมีจำนวนถึง 170 ล้านคน ยังสามารถใช้งานติ๊กต็อกได้ภายหลังวันอาทิตย์ แทนที่จะโอนให้ทรัมป์เป็นผู้ตัดสินใจ ก่อนสำทับว่า ติ๊กต็อกอาจไม่ถูกแบนทันทีตั้งแต่วันอาทิตย์
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเผยว่า หากถูกแบน ติ๊กต็อกเตรียมขึ้นข้อความป็อปอัปนำผู้ใช้ที่พยายามเปิดแอปไปยังเว็บไซต์ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการแบน รวมทั้งเสนอทางเลือกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดข้อมูลของตนเองเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลส่วนตัว
โนเอล ฟรานซิสโก ทนายความของติ๊กต็อก แถลงต่อศาลสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ติ๊กต็อกจะปิดให้บริการ หากถูกแบน
ผู้ใช้จำนวนมากใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์ระบายความผิดหวังต่อแนวโน้มการแบนติ๊กต็อก รวมทั้งแสดงความพอใจต่อรายงานที่ระบุว่า ทรัมป์กำลังหาวิธีเลี่ยงการแบน
ขณะนี้ศาลสูงสุดสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่า จะยึดตามกฎหมายและแบนติ๊กต็อกตั้งแต่วันอาทิตย์ หรือว่าจะตัดสินประกาศให้กฎหมายดังกล่าวเป็นโมฆะ หรือไม่ก็ระงับการบังคับใช้กฎหมายไว้ก่อนเพื่อให้ศาลมีเวลาพิจารณาวินิจฉัยนานขึ้น
ในเอกสารที่ยื่นต่อศาลเมื่อเดือนที่แล้ว ติ๊กต็อกระบุว่า การปิดกิจการของตนในอเมริกาอาจทำให้ผู้ใช้ในหลายประเทศไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากผู้ให้บริการนับร้อยแห่งในอเมริกามีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถใช้แพลตฟอร์มติ๊กต็อกได้ แต่บริษัทเหล่านั้นจะไม่สามารถให้บริการแก่ติ๊กต็อกได้อีกต่อไปนับจากวันอาทิตย์ที่จะถึง
ในเอกสารดังกล่าวยังระบุว่า คำสั่งแบนจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทำให้บริการสำหรับผู้ใช้ติ๊กต็อกนับสิบล้านคนนอกอเมริกาหยุดชะงัก และเสริมว่า คำสั่งดังกล่าวจะทำให้ติ๊กต็อกไม่สามารถใช้งานได้ในที่สุด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เกือบจะสรุปได้อย่างสมบูรณ์แล้วว่า ศูนย์ข้อมูลจะไม่สามารถจัดเก็บรหัส เนื้อหา หรือข้อมูลของติ๊กต็อกได้อีกต่อไป
แหล่งข่าวเผยว่า การปิดให้บริการมีเป้าหมายในการปกป้องผู้ให้บริการของติ๊กต็อกจากการรับผิดทางกฎหมาย และทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการได้อีกครั้งอย่างง่ายดายและในระยะเวลาอันสั้น หากทรัมป์เลือกยกเลิกมาตรการแบน
ทั้งนี้ ติ๊กต็อกและไบต์แดนกำลังพยายามอย่างหนักอย่างน้อยที่สุดเพื่อให้มีการชะลอการบังคับใช้กฎหมายนี้ซึ่งทั้งคู่ต่างระบุว่า การห้ามเช่นนี้เป็นการละเมิดบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่ 1 ว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
(ที่มา : รอยเตอร์)