ยังไม่เลิกโหด! ยิวถล่ม ‘กาซา’ ต่อ เนทันยาฮูอ้างฮามาสตุกติก ขู่ไม่เรียกประชุม ครม.อิสราเอลเพื่ออนุมัติข้อตกลงหยุดยิง

อิสราเอลยังคงระดมโจมตีดินแดนกาซาในวันพฤหัสบดี (16 ม.ค.) หลังจากมีการประกาศข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน “เนทันยาฮู” ตั้งแง่ กล่าวหา “ฮามาส” เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย พร้อมขู่อิสราเอลจะไม่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติดีลนี้ จนกว่าคณะผู้ไกล่เกลี่ยจะแจ้งว่า ฮามาสยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดแล้วเท่านั้น

ข้อตกลงหยุดยิงที่มีเนื้อหาซับซ้อน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสที่ควบคุมกาซา ได้รับการประกาศออกมาเมื่อวันพุธ (15) ภายหลังความพยายามไกล่เกลี่ยของกาตาร์ อียิปต์ และอเมริกา หลังจากการสู้รบนองเลือด หรือในทางเป็นจริงแล้วคือการที่กองทัพยิวเข้าทำลายล้างผลาญฉนวนกาซาอย่างวินาศหายนะ และทำให้เกิดความตึงเครียดแผ่ปกคลุมไปทั่วตะวันออกกลาง

ตามคำแถลงของพวกประเทศผู้ไกล่เกลี่ย ซึ่งรวมไปถึงทางสหรัฐฯ ด้วย ข้อตกลงนี้ซึ่งกำหนดเริ่มบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19) ประกอบด้วยการหยุดยิงเบื้องต้นระยะเวลา 6 สัปดาห์ ควบคู่กับการที่อิสราเอลค่อยๆ ถอนกำลังออกจากฉนวนกาซา และฮามาสปล่อยตัวประกันที่พวกเขาจับไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่อิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์ที่พวกเขาจับมาคุมขังอยู่

ในเฟสแรกนั้น จะมีการปล่อยตัวประกัน 33 คนในกาซา ซึ่งรวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป จากที่ยังเหลืออยู่ทั้งสิ้น 98 คน

การเจรจาข้อตกลงเฟสสองจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 ของการปฏิบัติตามเฟสแรก และคาดว่า จะครอบคลุมการปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ทั้งหมด รวมทั้งการหยุดยิงถาวร และการถอนทหารอิสราเอลทั้งหมดออกจากกาซา

สำหรับเฟสที่ 3 จะเป็นการดำเนินการเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดกลับประเทศ และเริ่มการฟื้นฟูกาซาซึ่งจะกำกับดูแลโดยอียิปต์ กาตาร์ และยูเอ็น

เจ้าหน้าที่อิสราเอลคนหนึ่งเผยว่า การยอมรับของอิสราเอลจะยังไม่มีผลอย่างเป็นทางการจนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาล โดยจะมีการลงมติในวันพฤหัสฯ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ออกมากล่าวหาฮามาสเพิ่มข้อเรียกร้องและเปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย พร้อมขู่ว่า อิสราเอลจะไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีในเรื่องข้อตกลงนี้ จนกว่าคณะผู้ไกล่เกลี่ยจะแจ้งว่า ฮามาสยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดในข้อตกลงแล้วเท่านั้น

ขณะที่ อิซซัต เอล-ราชิก เจ้าหน้าที่อาวุโสของฮามาส แถลงในวันพฤหัสฯ ว่า ฮามาสยึดมั่นตามข้อตกลงหยุดยิงที่คณะผู้ไกล่เกลี่ยประกาศ

ฮามาสยังแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า ข้อตกลงนี้เป็นความสำเร็จสำหรับชาวปาเลสไตน์และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่ง พวกนักการเมืองสายแข็งกร้าวในรัฐบาลเนทันยาฮูยังแสดงความหวังว่า จะสามารถหยุดยั้งข้อตกลงนี้ได้ แม้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ถูกคาดหมายว่า จะให้การสนับสนุนข้อตกลงก็ตาม

เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอล กล่าวว่า พรรคของตนจะร่วมรัฐบาลต่อ ถ้าหากอิสราเอลเดินหน้าทำสงครามเต็มพิกัดจนกว่าฮามาสจะพ่ายแพ้ราบคาบเท่านั้น

อิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติที่มีแนวทางขวาจัดเช่นกัน ก็ขู่ถอนตัวจากรัฐบาล หากมีการอนุมัติข้อตกลงหยุดยิง

นอกจากนั้น ขณะที่ประชาชนทั้งในกาซาและอิสราเอลพากันกู่ร้องแสดงความยินดีกับข้อตกลงหยุดยิง แต่กองทัพอิสราเอลกลับระดมโจมตีกาซาหนักขึ้นภายหลังการประกาศข้อตกลงนี้ และกลุ่มติดอาวุธในกาซาก็ยิงจรวดเข้าสู่อิสราเอลแม้ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกาซารายงานว่า การโจมตีของอิสราเอลตลอดคืนวันพุธจนถึงเช้าวันพฤหัสฯ ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 46 คน

ในงานแถลงข่าวที่โดฮา นายกรัฐมนตรีชัยค์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน อัล ทานี ของกาตาร์ ระบุว่า คณะเจรจากำลังดำเนินการร่วมกับอิสราเอลและฮามาสเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ ในการดำเนินการตามข้อตกลง

สำหรับที่วอชิงตัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แสดงความหวังว่า ข้อตกลงนี้จะระงับการสู้รบในกาซา เปิดโอกาสให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุยธรรมให้แก่พลเรือนปาเลสไตน์มากขึ้น และนำตัวประกันกลับบ้านหลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งแทนไบเดนในวันจันทร์ (20 ม.ค.) อ้างความดีความชอบในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงนี้เช่นเดียวกัน

อนึ่ง หากข้อตกลงนี้ประสบความสำเร็จจะระงับการสู้รบที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารเสียชีวิตไปแล้วกว่า 46,000 คน และประชาชนส่วนใหญ่ในกาซาจากที่มีอยู่ทั้งหมด 2.3 ล้านคนต้องทิ้งถิ่นฐานหนีตาย รวมทั้งจะบรรเทาความขัดแย้งที่ลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นเขตเวสต์แบงก์ ที่เป็นถิ่นพำนักอีกเขตหนึ่งของชาวปาเลสไตน์และเวลานี้ตกอยู่ในความยึดครองของอิสราเอล เลบานอน ซีเรีย เยเมน และอิรัก อีกทั้งขจัดความกังวลที่ว่า คู่อริสำคัญในภูมิภาคอย่างอิสราเอลและอิหร่านจะเปิดสงครามเต็มรูปแบบห้ำหั่นกัน

สำหรับปฏิกิริยาจากทั่วโลกนั้น ต่างยินดีกับข้อตกลงหยุดยิง ผู้นำและเจ้าหน้าที่อียิปต์ ตุรกี อังกฤษ สหประชาชาติ สหภาพยุโรป จอร์แดน เยอรมนี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พากันฉลองข่าวนี้

ทั้งนี้ สงครามกาซาระเบิดขึ้นหลังจากอิสราเอลยกทัพบุกดินแดนนี้เพื่อล้างแค้นที่นักรบฮามาสบุกข้ามแดนเข้าไปสังหารเหยื่อ 1,200 คน และจับตัวประกันกว่า 250 คนกลับไปขังในกาซาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.2023

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเจนซีส์)