กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนแถลงเมื่อค่ำวันพุธ (15 ม.ค.) ว่ารัฐบาลจีนจะใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือพลเมืองซึ่งถูกมิจฉาชีพล่อลวงให้ไปทำงานตามฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศต่างๆ เช่น พม่า เป็นต้น
สถานีโทรทัศน์ CCTV เผยแพร่รายงานของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีนซึ่งระบุว่า แก๊งอาชญากรรมข้ามชาติได้มีการหลอกลวงคนจีน โดยอ้างว่าจะให้ทำงานรายได้ดี มีอาหาร ที่พัก และตั๋วเครื่องบินให้พร้อม ทว่าเมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกบังคับกักขังให้ทำงานอยู่ในฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามเมืองชายแดนต่างๆ เช่น เมียวดี ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนไทย
รายงานของ CCTV มีขึ้นตามหลังกรณีของดาราชาวจีน “หวัง ซิง” หรือ “ซิง ซิง” ซึ่งหายตัวไปบริเวณชายแดนจังหวัดตากของไทยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือกลับมา โดยตำรวจไทยเชื่อว่า ซิง ซิง น่าจะตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์
รัฐบาลจีนประกาศยกระดับการทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือพลเมืองที่ยังคงติดอยู่ในต่างแดน และจะทลายเครือข่ายฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคมเหล่านี้
รายงานดังกล่าวอ้างไปถึงแคมเปญที่จีนเคยทำร่วมกับพม่าเมื่อปี 2023 เพื่อทลาย “สี่ตระกูลหลัก” ในพื้นที่โกก้าง ซึ่งเป็นแก๊งมาเฟียจีนที่เข้าไปมีฐานปฏิบัติการอยู่ตลอดแนวชายแดนพม่าที่ติดกับมณฑลยูนนานของจีน
สำหรับประเทศใกล้เคียงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักเดินทางชาวจีนถือเป็นแหล่งรายได้หลักของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีการนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปีทั่วภูมิภาคในช่วงก่อนโควิด-19 ทว่าความกังวลเรื่องการถูกลักพาตัวและเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียจีนเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวซึ่งถูกแก๊งอาชญากรนำไปกักขังไว้ก็ทำให้ชาวจีนส่วนหนึ่งหวาดกลัวที่จะเดินทางมาใช้วันหยุดพักผ่อนในภูมิภาคแถบนี้
สำนักข่าวซินหวาของจีนรายงานวานนี้ (15) ว่า ผู้กำหนดนโยบายของไทยเห็นพ้องระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ (13) ในการที่จะ “เร่งหาวิธีแก้ไขปัญหาซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่มีความปลอดภัย”
ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยได้อำนวยความสะดวกในการส่งตัวพลเมืองจีนราวๆ 900 คนซึ่งถูกกักขังอยู่ในฐานของสแกมเมอร์ที่เมียวดีกลับประเทศจีน ส่วนในปี 2023 รัฐบาลพม่าก็ได้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยพัวพันการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมให้กับจีนมากกว่า 31,000 คน
สื่อทางการจีนรายงานในขณะนั้นว่า มีศูนย์สแกมเมอร์ถูกจัดตั้งขึ้นในพม่ามากกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งมีการล่อลวงเหยื่อมากกว่า 100,000 คนต่อวัน
นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง ของจีนซึ่งได้เข้าพบคณะผู้นำทหารพม่าเมื่อเดือน พ.ย. ได้เรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือกันกวาดล้างอาชญากรรมข้ามพรมแดน ซึ่งรวมถึงการพนันออนไลน์และพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วย
“ประชาชนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและดูแลความปลอดภัยของตัวท่านเอง อย่าด่วนหลงเชื่อคนที่มาเสนองานรายได้ดีในต่างประเทศ เพื่อจะได้ไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อของพวกแก๊งฉ้อโกงทางโทรคมนาคม” กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ระบุ
ที่มา : รอยเตอร์