รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนอีกกว่า 10 รายลงในบัญชีจำกัดการค้า รวมถึงบริษัทซึ่งต้องสงสัยว่านำชิปที่ผลิตโดย TSMC ของไต้หวันไปส่งต่อให้หัวเว่ย (Huawei)
Sophgo และนิติบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ในกลุ่ม 14 บริษัทจีนและสิงคโปร์ที่ถูกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพิ่มชื่อลงในบัญชีดำ Entity List ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ไม่สามารถสั่งซื้อสินค้าและเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะถูกปฏิเสธ
ชื่อของ Sophgo กลายเป็นที่สนใจขึ้นมา หลังชิปตัวหนึ่งที่พบอยู่ในระบบชิปเอไอ Huawei Ascend 910B ดันไปเหมือนกับชิปที่บริษัทแห่งนี้สั่งมาจาก TSMC ของไต้หวัน จนทำให้ Sophgo กลายเป็นหนึ่งในหลายๆ บริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ลงโทษฐานลักลอบให้ความช่วยเหลือหัวเว่ย
Sophgo ได้ออกถ้อยแถลงผ่านทางเว็บไซต์บริษัทหลังถูกสหรัฐฯ กล่าวหาใหม่ๆ โดยยืนยันว่า "ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกิจกับหัวเว่ย ทั้งทางตรงและทางอ้อม"
ในวันพุธ (15 ม.ค.) สหรัฐฯ ยังเพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ประมวลผลระดับก้าวหน้า รวมถึงชิปสำหรับเอไอ เพื่อไม่ให้เทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้เล็ดลอดไปถึงมือจีน
กฎระเบียบใหม่นี้มีข้อห้ามอย่างครอบคลุมมากขึ้นไม่ให้ผู้ผลิตชิปและโรงงานแพกเกจจิ้งส่งออกชิปก้าวหน้าบางรุ่น โดยเป็นมาตรการที่รัดกุมขึ้นกว่าเดิมเพื่อสกัดไม่ให้จีนนำชิปเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ในด้านการทหาร
มาตรการควบคุมส่งออกใหม่จะมีผลครอบคลุมชิประดับ 14 หรือ 16 นาโนเมตร หรือต่ำกว่านั้นที่สามารถนำไปใช้งานด้านเอไอ และจะส่งผลกระทบต่ออีกหลายบริษัทนอกเหนือไปจาก TSMC
คำสั่งของสหรัฐฯ อาจกระทบต่อการจำหน่ายชิปของซัมซุงด้วย โดยล่าสุดทั้งซัมซุงและ TSMC ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้
กฎเกณฑ์ใหม่ของสหรัฐฯ ยังเพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มแบบพลวัต (dynamic random access memory หรือ DRAM) ซึ่งจำเป็นสำหรับการผลิตหน่วยความจำแบนด์วิธสูงที่ใช้งานกับหน่วยประมวลผลเอไอ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะกระทบต่อสินค้าและเทคโนโลยีที่ส่งออกให้กับ Changxin Memory Technologies หรือ CXMT ผู้ผลิตชิปความจำรายใหญ่ของจีน
ที่มา : รอยเตอร์