เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - สื่อต่างประเทศรายงาน นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร วันพุธ (15 ม.ค.) ยอมรับว่า ตัวเองตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เทคโนโลยี AI ปลอมเสียง “ผู้นำชาติอาเซียน” ที่เป็นรู้จักกันดีแต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นใคร อ้างผ่านแอปแชต "ที่ไม่ใช่ LINE" ต้องการร่วมมือข้ามชาติ อ้าง “ไทย” เป็นแค่ชาติเดียวที่ยังไม่ได้บริจาค พร้อมส่งบัญชีที่มาจากนอกประเทศให้โอนกลับไป
หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานวันนี้ (15 ม.ค.) ว่า นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร วันพุธ (15) ออกมาเตือนสาธารณะให้ระวังต่อการตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์จนถึงขั้นเจอกับตัวเองอย่างไม่คาดฝัน
แพทองธารเปิดเผยกลางที่ประชุมนโยบายสำหรับงบประมาณประจำปี 2026 พร้อมเปิดเผยประสบการณ์ว่า ตัวเองตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี AI เลียนเสียงผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน
โดยตามเสียงนั้นเรียกร้องเพื่อการบริจาคในนาม “ประเทศของเขา”
เอเอฟพีรายงานว่า เป็นการเลียนเสียงผู้นำชาติอาเซียนหนึ่งที่รู้จักกันดี โดยนายกฯ ไทยยอมรับว่า เสียงที่ได้ยินนั้นคล้ายกับเสียงผู้นำชาตินั้นมาก
ผู้นำหญิงของไทยเปิดเผยว่า อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ ในครั้งแรกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่งคลิปเสียงผ่านแอปแชตที่ไม่ใช่ LINE ซึ่งข้อความอ้างว่าเป็นผู้นำชาติอาเซียนที่รู้จักดีได้แสดงความสนใจร่วมมือระดับระหว่างประเทศ
ผู้นำไทยกล่าวว่า เธอได้ตอบผ่านข้อความและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวเป็นผู้นำกล่าวว่าจะติดต่อเธอมาในภายหลัง
ทั้งนี้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทร.ติดต่อมาในเวลาราว 23.00 น. ผ่านแอปเดียวกัน แต่ไม่ได้มีการตอบกลับไปเนื่องมาจากเข้านอนไปแล้ว
โดยเอเอฟพีรายงานว่า แพทองธารเปิดเผยว่า “ในคลิป เขากล่าวว่าเขากำลังจะพบดิฉันและทำงานร่วมกัน”
อย่างไรก็ตาม พบว่า เมื่อผู้ทำไทยพลาดไม่ได้รับสายโทรศัพท์จากเบอร์หมายเลขเดียวกันนี้ในช่วงกลางคืน ข้อความเสียงที่สองของวันถัดไปยิ่งเพิ่มความสงสัยให้แก่นายกฯ แพทองธารมากขึ้น
“เสียงพูดว่า “ประเทศไทย” เป็นเพียงประเทศอาเซียนเพียงชาติเดียวเท่านั้นที่ยังไม่ได้ทำการบริจาค เมื่อดิฉันได้ยิน ดิฉันคิดไปทันทีเลยว่า นี่มันไม่ใช่”
ข้อความทางอักษรได้ขอให้มีการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารนอกประเทศไทย และสิ่งนี้ได้ยืนยันข้อสงสัยของนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างดี
“ดิฉันรู้ได้อย่างแน่นอนเมื่อดิฉันได้เห็น” เธอกล่าว เอเอฟพีรายงาน
สเตรทไทม์สของสิงคโปร์ชี้ว่า หลังจากนั้นผู้นำไทยได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประเสริฐ จันทรรวงทอง ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งทำหน้าที่สอบสวน
นายกฯ แพทองธารกล่าวว่า เธอสงสัยว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์อาจได้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเธอจากบุคคลใกล้ชิดที่ได้ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร วัย 38 ปี สัปดาห์ที่แล้วได้ประกาศตัวเลขทรัพย์สินที่มีไม่ต่ำกว่า 400 ล้านดอลลาร์ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช และกลายเป็นข่าวดังรายงานไปทั่วโลกที่นอกจากตัวเลขทรัพย์สินแล้วยังรวมไปถึงกระเป๋าแบรนด์เนมอีก 200 ใบ และครอบครองอสังหาริมทรัพย์ 2 แห่งกลางกรุงลอนดอนสัญญาเช่าเกือบ 1,000 ปี
ขณะที่พ่อของเธอ อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่สร้างชื่อเป็นที่รู้จักในระดับข้ามประเทศด้วยการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีของอังกฤษ ปัจจุบันมีความมั่งคั่งสุทธิที่ 2.1 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงจากนิตยสารฟ็อร์บส์ และทำให้เขาถูกจัดเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในไทยอยู่ในลำดับที่ 10