เอเจนซีส์/MGRออนไลน์ - กลายเป็นที่จับตาไปทั่วโดยเฉพาะฟากฝั่งตะวันตกหลังไวรัส HMPV (โรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส) ที่ไม่ใช่ไวรัสอุบัติใหม่แต่ยังไม่มีวัคซีนรักษาระบาดในจีน ล่าสุด พบเคสไวรัสในอินเดีย สิงคโปร์ และอังกฤษ เกาะบาหลีประกาศจับตาเที่ยวบินเข้าเกาะจาก จีน-มาเลเซีย หวั่นข้ามพรมแดน พบไวรัส HMPV อาการคล้ายโรคหวัดแต่น่ากลัว แต่สามารถเกิดโรคแทรกซ้อนและรุนแรง ภาพว่อนเน็ตชาวจีนแห่เข้าคิวหน้าร้านยาแห่ซื้อ Xofluza รักษาไวรัส HMPV
จาการ์ตาโกลบของอินโดนีเซียรายงานวันเสาร์ (11 ม.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่เกาะบาหลียังคงเฝ้าระวังไวรัส HMPV หรือโรคติดเชื้อฮิวแมนเมตะนิวโมไวรัส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางระบบหายใจอาการคล้ายโรคหวัดแต่น่ากลัว แต่สามารถเกิดโรคแทรกซ้อนและรุนแรงถึงขั้นใกล้เสียชีวิตและยังไม่มีวัคซีนรักษา หลังมีรายงานพบเคสระบาดเมื่อไม่นานมานี้ที่จีนและรวมไปถึงมาเลเซีย
สื่อแดนอิเหนารายงานว่า แต่ทว่ามาจนถึงเวลานี้ยังไม่มีการพบเคสป่วยไวรัส HMPV บนเกาะบาหลี วายาน เกด ริยาวาน (Wayan Gede Riyawan) เจ้าหน้าที่จากองค์การท่องเที่ยวบาหลียืนยันวันเสาร์ (11) ว่า
“พวกเราไม่ต้องการพบกับสถานการณ์เหมือนเช่นในปี 2019 ที่วิกฤตโรคระบาดทั่วโลกสร้างความติดขัดให้ชีวิตของพวกเรา และเราหวังว่ารัฐบาลแดนอิเหนาจะลงมือฉับไวสำหรับมาตรการปกป้องเพื่อป้องกันการผิดพลาดใดๆ”
วายานกล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนและฮ่องกงมาที่เกาะบาหลีนี้ยังคงน้อย มีจำนวนน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวอินเดียและยุโรป
ขณะที่ อนัค อากุง นกูราห์ เคซูมาจายา (Anak Agung Ngurah Kesumajaya) หัวหน้าแผนกการท่าด้านสาธารณสุขที่ Denpasar ยืนยันว่า บาหลีได้ใช้มาตรการป้องกันแล้วหลังมีรายงานการระบาดหลายร้อยเคสของไวรัส HMPV ในมาเลเซียและการแพร่กระจายของไวรัสในจีนก่อนหน้า
อ้างอิงจากการรายงานของหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์สวันพุธ (8) พบว่า เกาะบาหลี สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกและมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยวได้เริ่มมาตรการมอนิเตอร์เที่ยวบินจาก "จีน" และ "มาเลเซีย" เป็นพิเศษ โดยทุกวันมีนักท่องเที่ยวจากจีนและมาเลเซียเดินทางเข้าเกาะบาหลีร่วมหลายพันคน
“สายการบินจากจีนและมาเลเซียได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากพวกเรา กำหนดให้คนทั้ง 2 ชาติต้องกรอกแบบฟอร์มคัดกรองสุขภาพ 3 วันก่อนหน้าการเดินทางมาถึงเกาะบาหลี”
หนังสือพิมพ์ฮ่องกงรายงานว่า นอกจากนี้บาหลียังตั้งคลินิกกักกันโรคที่สนามบินสำหรับผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 38 องศาเซลเซียสจำเป็นต้องได้รับการตรวจน้ำลายเพื่อหาเชื้อ อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ของอินโดนีเซีย
ไวรัส HMPV ที่เกิดการระบาดครั้งแรกในภาคเหนือของจีนแต่ได้ลามไปอินเดียและมาเลเซียประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียได้มีโอกาสเห็นเคสเพิ่มขึ้น โดยมีภาพจากจีนการแห่เข้าคิวซื้อยารักษาชื่อ Xofluza และการเพิ่มราคาขายยาตัวนี้สูงลิ่ว อ้างรักษาอาการป่วย
ร้านขายยามากมายในจีนพบภาพประชาชนแห่เข้าคิวเพื่อรอซื้อ "ยามหัศจรรย์" ท่ามกลางการระบาด เดลีสตาร์ชี้ว่า ในปัจจุบันยังคงไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเคสไวรัส HMPV ในจีนนี้มีมากน้อยเพียงใดเนื่องมาจากการจำกัดข้อมูลของทางการจีน เดลีตาร์รายงานวันพุธ(8)
อ้างอิงจาก Qilu Evening Post พบร้านขายยาบางส่วนเริ่มเพิ่มราคาขายของยาชื่อ Xofluza มาอยู่ที่ 300 หยวน (£33) ต่อ 1 กล่อง และแต่ละกล่องจะมียาจำนวน 2 เม็ด ซึ่งส่วนผสมหลักของยา Xofluzaa ตัวนี้คือ Baloxavir Marboxil ที่เป็นยาป้องกันไวรัส และถูกเรียกเป็นยาเม็ดมหัศจรรย์สำหรับการรักษาโรคอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่
หนึ่งในลูกจ้างร้านขายยาท้องถิ่นในจี่หนาน (Jinan) มณฑลชานตง เปิดเผยว่า "ยาหมดสต๊อกแล้ว ยา Baloxavir marboxil มันถูกขายออกไปจนหมดในเช้าวันนี้ พวกเราจะต้องรอของเข้าคลังสำหรับวันพรุ่งนี้ พวกเราขายมันในราคา 227 หยวน"
และที่เมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) ในมณฑลเหอหนาน ลูกจ้างร้านขายยาได้ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า "ยา Xofluza เป็นยาตัวนอกนำเข้า ดังนั้นจึงราคาไม่ถูก พวกเราขายมันในราคา 200 หยวน พวกเราเห็นคนจำนวนมากถามหายาตัวนี้เมื่อไม่นานมานี้ มีบางส่วนของพวกเขาเปิดเผยว่าเดินทางมาไกลเพื่อมาหาซื้อ"
ขณะที่การระบาดในอินเดีย เดลีสตาร์รายงานวันเสาร์ (11) กล่าวว่า ที่รัฐกรณาฏกะของอินเดียล่าสุดออกมาตรการสั่งให้ใครก็ตามที่แสดงอาการป่วยต้องหลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะและสวมหน้ากากป้องกันในพื้นที่มีคนพลุกพล่านหากว่ามีเคสป่วยโรคระบบทางเดินหายใจจำนวน 3 เคส
และเมื่อต้นสัปดาห์นี้ที่อินเดีย มีการพบเด็กทารก 3 คนป่วยติดไวรัส HMPV โดยมีทารกเพศชายวัย 8 เดือน และทารกหญิงวัย 3 เดือนมีผลการติดเชื้อเป็นบวกในบังกาลอร์ (Bengaluru) เมืองเอกของรัฐกรณาฏกะ ขณะที่ทารกวัย 2 เดือนจากรัฐราชสถานกำลังรักษาตัวในอาห์เมดาบัด (Ahmedabad) อดีตเมืองหลวงของรัฐคุชราต
นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานวันจันทร์ (6) ว่า มาเลเซียที่มีรายงานการพบเคสระบาดไวรัส HMPV แต่ทว่าเป็นรายงานที่ออกมาอย่างคลุมเครือ โดยสื่อไม่กี่แห่งเปิดเผยว่า มาเลเซียในปี 2024 มีตัวเลขติดเชื้อ 327 เคส และสูงกว่าปี 2023 ถึง 45%
และเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียได้โพสต์ความเห็นของนักการเมืองมาเลเซีย Dzulkefly Ahmad ในวันจันทร์ (6) ระบุว่า ตัวเลขเคสเหล่านี้ไม่ถูกต้อง (tidak benar)
แตกต่างจากการรายงานของสิงคโปร์ประเทศเพื่อนบ้านที่มีความโปร่งใสการรายงานเคสไวรัส HMPV อย่างชัดเจน หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์สของสิงคโปร์รายงานวันศุกร์ (10) มีการติดเชื้อไวรัส HMPV ในสิงคโปร์เมื่อสิ้นปี 2024
โดยโฆษกกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์แถลงว่า เคสไวรัส HMPV พบรวมอยู่ในตัวอย่างของโรคติดเชื้อเฉียบพลันทางระบบหายใจ (ARI) เพิ่มสูงระหว่าง 5.5-9% ในเดือนธันวาคมปี 2024 กว่า 0.8-9% ในช่วงอื่นของปีเดียวกัน
เดลีสตาร์ของอังกฤษรายงานว่า อาการโรคไวรัส HMPV นั้นมีอาการลักษณะป่วยเป็นหวัด ไอ มีไข้ และคัดจมูก และหอบถี่
แต่สื่ออังกฤษชี้ว่า เป็นที่น่าวิตกไม่ต่างจากโควิด-19 จากการที่โรคนี้ที่มักเกิดในช่วงหน้าหนาวและไม่ใช่ไวรัสอุบัติใหม่อาจเกิดแทรกซ้อนและทำให้ผู้ป่วยป่วยหนักขั้นวิกฤตอาจใกล้เสียชีวิต โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนรักษา
สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ NHS กล่าวว่าโรค HMPV นิวโมเนีย (HMPV pneumonia) มีอัตราการเสียชีวิตระหว่าง 10-80% ในการศึกษาประเภทติดตามกลุ่มตัวอย่าง (cohort study) แบบจำกัดในไม่กี่การวิจัยที่แตกต่างกันไปของการศึกษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง/การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด (hematopoietic cell transplantation)
ทั้งนี้ สำนักงานสุขภาพและความมั่นคงอังกฤษ UKHSA (UK Health & Security Agency) แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของเคสไวรัส HMPV ในแดนผู้ดีเพิ่มถึง 4.15% ช่วงระหว่างตุลาคม-ธันวาคมปีที่แล้ว เดลีสตาร์รายงาน
ขณะที่หนังสือพิมพ์อินดิเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานว่า EU ได้แถลงการณ์เฝ้าระวังไวรัส HMPV เช่นเดียวกับบาหลีและสหรัฐฯ หลังการระบาดโรคติดต่อทางเดินหายใจนี้ไปทั่วจีน
“ศูนย์ยุโรปเพื่อการป้องกันโรคและควบคุม ECDC จะยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ในความร่วมมือกับ CDC ของจีน และ WHO/EURO เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม” รายงานจากแถลงการณ์ของศูนย์ยุโรปเพื่อการป้องกันโรคและควบคุม ECDC
ดิอินดีเพนเดนท์ชี้ว่า อย่างไรก็ตามในวันพุธ (8) ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ประจำมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย (University of East Anglia) ได้ออกมารับรองว่า ยังไม่เห็นสัญญาณของการระบาดไวรัส HMPV จะเกิดขึ้นร้ายแรงเหมือนไวรัสโควิด-19 ในระดับโลก ถึงแม้ว่าจะมีการพบเคสป่วยเกิดขึ้นในอังกฤษเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน